“หมอวรงค์” ชี้สังคมต้องให้กำลังใจกรมบังคับคดีทำตามกม. ติงรัฐบาลทำการบ้านก่อนพูด

ภาพจากเฟซบุ๊ก Warong Dechgitvigrom

วันนี้ (28 ก.ค.) นายแพทย์วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีตส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ แสดงความเห็นกรณีการอายัดทรัพย์ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีในขณะนี้ โดยระบุว่า คำสั่งทางปกครองเพื่อให้นายบุญทรงและพวกชดใช้ค่าเสียหายกรณีจีทูจีเก้ ออกมาในเดือนกันยายน 2559 ส่วนของนางสาวยิ่งลักษณ์ กรณีจำนำข้าวออกตามมาในเดือนตุลาคม 2559 เมื่อจำเลยไม่ชำระค่าเสียหาย ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องก็ออกมาตรการบังคับทางปกครอง เพื่อทำการยึด และอายัดทรัพย์ได้ ในส่วนจำเลยคือนายบุญทรงและพวก รวมทั้งนางสาวยิ่งลักษณ์ จึงได้ร้องศาลปกครองเพื่อขอความเป็นธรรม เพื่อยกเลิกคำสั่งดังกล่าว แต่กระบวนการศาลปกครองต้องใช้เวลา นายบุญทรงพร้อมพวก และนางสาวยิ่งลักษณ์ได้ร้องศาลปกครองเพื่อขอคุ้มครองชั่วคราว เพื่อไม่ให้มีการยึดอายัดทรัพย์เกิดขึ้น คดีนายบุญทรงและพวก ศาลปกครองยกคำร้องในเดือนกุมภาพันธ์ 2560 ส่วนคดีนางสาวยิ่งลักษณ์ศาลปกครองยกคำร้องในเดือน เมษายน 2560 นั่นคือไม่คุ้มครองชั่วคราว

นายแพทย์วรงค์ระบุอีกว่า “การที่ศาลปกครองยกคำร้อง เท่ากับว่ากรมบังคับคดีสามารถดำเนินการได้เลย แต่ถ้าจำเลยได้รับความเสียหายสามารถร้องศาลเพื่อขอคุ้มครองชั่วคราวได้อีก ถ้าจำความได้เมื่อไม่นานมานี้ มีรองนายกชี้แจงว่ายังสืบทรัพย์นางสาวยิ่งลักษณ์ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน ถูกสังคมวิพากษ์วิจารณ์กันทั้งประเทศ ข้อมูลล่าสุดที่กรมบังคับคดีได้อายัดบัญชีนางสาวยิ่งลักษณ์ เป็นสิ่งที่สังคมต้องให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ เพราะได้ทำตามขั้นตอนของกฏหมายแล้ว ถ้าไม่ทำก็จะถูกวิจารณ์เหมือนที่ผ่านมา ส่วนนางสาวยิ่งลักษณ์ก็มีสิทธิ์ที่จะร้องศาลให้คุ้มครองได้อีก ถ้าศาลไม่คุ้มครอง ทุกอย่างก็เดินหน้า ส่วนคดีนายบุญทรง ตามข่าวแจ้งว่าได้อายัดเงินในบัญชีที่มีเหลือ 2744.46 บาทเท่านั้น ส่วนเงินสด เงินฝาก นาฬิกาข้อมือทั้งของตัวเองและภริยาที่ยื่นทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช.ก็ได้ถอนและนำทรัพย์เหล่านั้นออกจำหน่ายนำเงินมาใช้จ่ายจนหมดสิ้นแล้ว ส่วนบ้านนั้นอาศัยอยู่กับมารดา”

นายแพทย์วรงค์กล่าวทิ้งท้ายว่า “สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่ประชาชนต้องตามให้ทัน รวมทั้งต้องเข้าใจว่าคดีรับผิดทางละเมิดนั้นอยู่ที่ศาลปกครอง ไม่เกี่ยวข้องกับคดีอาญาในศาลฎีกาที่จะตัดสินวันที่ 25 สค.นี้ ที่สำคัญการชี้แจงของรัฐบาลให้ประชาชนเข้าใจนั้นสำคัญมาก ก่อนจะชี้แจงทุกครั้ง รัฐบาลควรทำการบ้าน ความเข้าใจในคดีจำนำข้าวให้ดี ก่อนที่จะแถลง เพราะถ้ามีการพูดอะไรผิดพลาด อีกฝ่ายจะเอาคำพูดนั้นไปขยายผลทันที”

 

ที่มา มติชนออนไลน์