ประกันสังคมฝากผู้ประกันตนที่ถูกสุนัขหรือสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมกัด ที่เข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้า เลขาธิการ สปส. แจงใช้สิทธิประกันสังคมได้ แนะให้เข้าโรงพยาบาลที่ผู้ประกันตนเลือกไว้ไม่เสียค่าใช้จ่าย หากไม่ได้เข้าโรงพยาบาลตามบัตรฯ ให้นำใบเสร็จรับเงินที่สำรองจ่ายไปพร้อมใบรับรองแพทย์มาเบิกคืนได้ที่สำนักงานประกันสังคม
นายสุรเดช วลีอิทธิกุล เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน กล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคพิษสุนัขบ้าในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม (พื้นที่สีแดงตามประกาศกรมปศุสัตว์) ใน 13 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสุรินทร์ ชลบุรี สมุทรปราการ ฉะเชิงเทรา น่าน บุรีรัมย์ อุบลราชธานี เชียงราย ร้อยเอ็ด สงขลา ระยอง ตาก และศรีสะเกษ และพื้นที่เฝ้าระวังโรคระบาดพิษสุนัขบ้าในอีก 42 จังหวัด ซึ่งขณะนี้อยู่ในความดูแลของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขแล้ว ว่าสำนักงานประกันสังคมในฐานะหน่วยงานที่ทำหน้าที่ดูแลสุขภาพของลูกจ้าง ผู้ประกันตน ในระบบประกันสังคม ได้ติดตามสถานการณ์การระบาดของโรคดังกล่าวอย่างใกล้ชิด ขณะเดียวกันได้เตรียมความพร้อมโดยประสานให้สถานพยาบาลคู่สัญญาและเครือข่ายทั่วประเทศเตรียมรับผู้ประกันตน หากผู้ประกันตนประสบเหตุถูกสุนัขกัดในกรณีดังกล่าว อย่างไรก็ตามสำนักงานประกันสังคมขอแนะนำให้ผู้ประกันตนที่ถูกสุนัขหรือสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมกัด ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า โดยใช้สิทธิประกันสังคมได้ และผู้ประกันตนสามารถเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลที่ตนเองเลือกโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย หากไม่สามารถเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลที่ตนเองเลือกได้ ควรรีบเข้ารับการรักษาพยาบาลโดยฉีดวัคซีนเข็มแรก ณ โรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดก่อน แล้วนำใบเสร็จรับเงินที่สำรองจ่ายไปก่อน พร้อมใบรับรองแพทย์มาเบิกคืนได้ที่สำนักงานประกันสังคมเขตพื้นที่/จังหวัด/สาขาทุกแห่งที่สะดวก
สำหรับผู้ประกันตนที่เข้ารับบริการทางการแพทย์ ณ สถานพยาบาลของรัฐ ประเภทผู้ป่วยนอกสามารถเบิกค่าบริการทางการแพทย์ได้เท่าที่จ่ายจริงตามความจำเป็น กรณีผู้ประกันตนเข้ารับบริการ ทางการแพทย์ ณ สถานพยาบาลเอกชนประเภทผู้ป่วยนอก สามารถเบิกค่าบริการทางการแพทย์เท่าที่จ่ายจริงไม่เกินครั้งละ 2,000 บาท และจ่ายเพิ่มตามรายการการรักษาที่กำหนดตามหลักเกณฑ์ หากผู้ประกันตน มีปัญหาข้อสงสัยสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานประกันสังคม 1506 ให้บริการทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง