ชี้ลมแรงพัดขวางสนามบินภูเก็ต ต้นเหตุเครื่องบินเล็กตก “กัปตัน-เรืออากาศโท” ดับ

ชี้ลมแรงพัดขวางสนามบินภูเก็ต ต้นเหตุเครื่องบินเล็กตก ‘กัปตัน-เรืออากาศโท’ดับ นร.ช่างอากาศเจ็บ2

เมื่อวันที่ 10 มีนาคม พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(รองโฆษก ตร.) เปิดเผยเหตุเครื่องบินตกที่จ.ภูเก็ต ว่า ได้รับรายงานจาก ผบช.ภ.8 และ ผบก.จว.ภูเก็ต ว่าวันนี้ เวลา10.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ถลาง จ.ภูเก็ต รับแจ้งเหตุเครื่องบินขนาดเล็กตก บริเวณ ต.ป่าคลอก อ.ถลาง หลังรับแจ้งพนักงานสอบสวน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน(พฐ.) และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เดินทางไปตรวจสถานที่เกิดเหตุ พบเครื่องบินขนาดเล็ก HSPMS butterfly 05 สภาพเสียหาย พบผู้เสียชีวิต 2 ราย มี 1. นายวัฒนา ถิ่นพังงา กัปตัน และ2. เรืออากาศโทนรินทร์ ทวีรัตน์ และมีผู้บาดเจ็บสาหัส 2 คน เป็นนักเรียนช่างอากาศยานวิทยาลัยเทคนิคถลาง ทราบชื่อ 1. นายอาดล ละแม และ2.น.ส.อรวรรณ จินดารัตน์

พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวต่อว่า จากการซักถามเบื้องต้นทราบว่าเครื่องบินลำดังกล่าวบินขึ้นจากสนามบินภูเก็ต Airpark เวลา 10.05 น. ได้พาอาจารย์และนักเรียนช่างซ่อมอากาศยานขึ้นบินในตอนเช้า หลังจากนั้นกัปตันได้พยายามนำเครื่องมาลงจอดที่สนามบินเครื่องบินเล็ก ต.ป่าคลอก ห่างจากจุดเครื่องบินตกประมาณ 400 เมตร แต่เนื่องจากที่สนามบินมีลมแรง พัดขวางสนามบิน กัปตันจึงนำเครื่องบินขึ้นและวนมาลงครั้งที่2 ในการลงครั้งที่2ก็ยังคงมีสภาพลมแรงเช่นเดิม กัปตันจึงเร่งเครื่องเชิดหัวเครื่องบินขึ้น แต่เครื่องมีอาการไม่มั่นคง และตกลงในที่เกิดเหตุดังกล่าว บริเวณที่เครื่องตกมีสภาพเป็นสวนยาง สลับป่าละเมาะ

พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวอีกว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจรับแจ้งได้ไปที่เกิดเหตุอย่างรวดเร็ว พร้อมแพทย์ และมูลนิธิกู้ภัย เบื้องต้นได้ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บนำตัวส่งโรงพยาบาลถลาง และติดต่อไปยังบริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย เพื่อขอดูแผนการบิน บริษัทกำลังส่งผู้เชี่ยวชาญจากกรุงเทพฯ ไปร่วมตรวจที่เกิดเหตุ เพื่อตรวจสอบหาสาเหตุต่อไป ทั้งนี้ได้รายงานเหตุให้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ทราบแล้ว โดย ผบ.ตร.ได้กำชับให้ การปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในรูปแบบต่างๆ ตามแต่ละสถานการณ์ ทั้งน้ำอากาศ ทางน้ำ และทางบก ต้องกระทำอย่างรวดเร็วและทันท่วงที โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีนักท่องเที่ยว โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องมีความรู้ความเข้าใจ บูรณาการร่วมกับหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง ปฏิบัติถูกต้อง รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ และจะต้องฝึกซ้อมการปฏิบัติอยู่เสมอ เพื่อพัฒนาศักยภาพและทักษะในการปฏิบัติงานอยู่ตลอดเวลา

 

ที่มา มติชนออนไลน์