กฟผ.ยัน “เซินกา” ยังไม่กระทบระบบไฟฟ้าภาคเหนือ-อีสาน สั่งเฝ้าระวัง 24 ชั่วโมง เร่งระดมความช่วยเหลือผู้ประสบภัยต่อเนื่อง

กฟผ. ยืนยันระบบส่งไฟฟ้าภาคเหนือและอีสาน ยังเป็นปกติ สั่งการเฝ้าระวังและติดตามอย่างใกล้ชิด พร้อมเร่งระดมส่งถุงยังชีพและน้ำดื่มช่วยผู้ประสบอุทกภัยต่อเนื่อง

นายสุธน บุญประสงค์ รองผู้ว่าการระบบส่ง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กล่าวว่า ตามที่เกิดอุทกภัยในพื้นที่ของภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน จากอิทธิพลของพายุโซนร้อนเซินกา กฟผ. ได้สั่งการให้หน่วยงานในพื้นที่ติดตามเฝ้าระวังดูแลระบบการจ่ายกระแสไฟฟ้าให้มีความพร้อมจ่ายตลอด 24 ชั่วโมง โดยในช่วงที่ผ่านมา กฟผ. ยังสามารถดำเนินการจ่ายกระแสไฟฟ้าได้ตามปกติ ทั้งนี้ มีเพียงเสาส่งไฟฟ้าแรงสูงบางจุดอยู่ในบริเวณที่ถูกน้ำท่วม ซึ่งได้สั่งการให้ทีมบำรุงรักษาสายส่งเข้าไปตรวจสอบและดูแลให้เกิดความมั่นคง เพื่อป้องกันไม่ให้กระทบกับการจ่ายกระแสไฟฟ้า ซึ่งสภาพเสาส่งยังอยู่ในสภาพปกติ ไม่มีปัญหา

รองผู้ว่าการระบบส่ง กฟผ. กล่าวต่อไปว่า สำหรับจังหวัดสกลนคร ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมหนักและมีพี่น้องประชาชนเดือดร้อนเป็นจำนวนมากอยู่ในขณะนี้นั้น กฟผ. ได้มีการจัดตั้งศูนย์เฉพาะกิจ กฟผ. ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ที่สำนักงานสกลนคร สถานีไฟฟ้าแรงสูงสกลนคร 1 จังหวัดสกลนคร โดยเมื่อวานนี้ (29 กรกฎาคม 2560) ได้เร่งระดมเจ้าหน้าที่จิตอาสา กฟผ. มาช่วยกันจัดทำถุงยังชีพและน้ำดื่ม ซึ่งเบื้องต้นได้นำน้ำดื่มไปมอบให้กับโรงพยาบาลสกลนคร และพี่น้องประชาชนในเขตชุมชนวัดธาตุเชิงชุมและบริเวณตัวเมืองสกลนคร

สำหรับช่วงหัวค่ำวานนี้ ทีมงานจิตอาสา กฟผ. ได้ลำเลียงขนส่งสิ่งของบรรเทาทุกข์และน้ำดื่มไปทางเรือหางยาว นำไปแจกจ่ายช่วยเหลือพี่น้องประชาชนผู้ประสบอุทกภัย บริเวณบ้านดอนกกยาง ตำบลเหล่าปอแดง อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่ถูกน้ำท่วมจำนวน 88 ครัวเรือน มีจำนวนผู้ที่เดือดร้อนต้องการน้ำและอาหารประมาณ 380 คน ทั้งนี้ กฟผ. ยังเร่งระดมลงพื้นที่มอบถุงยังชีพรวมกว่า 2,000 ชุด พร้อมน้ำดื่มอีกกว่า 15,000 ขวด

“กฟผ. จะร่วมให้การช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ประสบอุทกภัยอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งดูแลความมั่นคงของระบบไฟฟ้าให้มีความพร้อมจ่ายตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งนี้ หากพบเหตุผิดปกติเกี่ยวกับระบบไฟฟ้า โปรดแจ้งได้ที่ ศูนย์ควบคุมระบบกำลังไฟฟ้า ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โทร. 043 222 246 หรือ โทร. 1416 ตลอด 24 ชั่วโมง” นายสุธนกล่าว