ชมรมคนรักเสือดำเตรียมสร้างอนุสาวรีย์เสือดำในทุ่งใหญ่ฯ ลั่นจนรวยรับโทษเท่ากันอย่า 2 มาตรฐาน

เมื่อเวลา 11.30 น. วันนี้ 17 มี.ค. 61 ที่ชมรมคนรักเสือดำกาญจนบุรี นายสมชาย พรหมชนะ ประธานชมรมคนรักเสือดำกาญจนบุรี พร้อมด้วย พล.ต.ต.กมลสันติ กลั่นบุศย์ อดีตผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี นายสมศักดิ์ พนมชัยสว่าง นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลพนมทวน และ นายอภิรักษ์ คชนา นายก อบต.ดอนตาเพชร อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี จัดเวทีแถลงข่าวรณรงค์ห้ามล่าสัตว์ป่าทุกชนิด เนื่องจากที่ผ่านมามีกลุ่มบุคคลที่มีชื่อเสียงระดับประเทศ นำอาวุธปืนเข้าไปล่าสัตว์ป่าคุ้มครอง คือเสือดำ ในเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก ตามที่กำลังเป็นข่าวโด่งดังไปทั่วโลกอยู่ในขณะนี้

โดยมี ดร.ธวัชชัย พิกุลแก้ว ประธานชมรมเพื่อนครูแห่งประเทศไทย นายกสมาคมศึกษาธิการแห่งประเทศไทย และอาจารย์ ดร.มานพ พรหมชนะ อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ในฐานะที่ปรึกษาชมรมคนรักเสือดำกาญจนบุรี เข้าร่วมแถลงข่าวในครั้งนี้ด้วย นอกจากนี้ยังมีเด็ก เยาวชน และประชาชนในพื้นที่ เป็นจำนวนมาก พร้อมใจกันสวมเสื้อชมรมคนรักเสือดำ ที่มีสัญลักษณ์ของเสือดำ พร้อมถือป้ายที่มีข้อความรณรงค์ต่อต้านการล่าสัตว์และการทารุณกรรมสัตว์ พร้อมถือป้ายคัดค้านกลุ่มคนทำร้ายเสือดำ อีกด้วย

นายสมชาย เปิดเผยว่า การตั้งชมรมคนรักเสือดำกาญจนบุรีมีวัตถุประสงค์ 7 ประการ ซึ่งการแถลงข่าวครั้งนี้เราจะไม่พูดถึงเรื่องคดีความของกลุ่มผู้กระผิดที่ลักลอบเข้าไปล่าสัตว์ป่า ในเขตรักษาพันสัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก เนื่องจากขณะนี้คดีเข้าสู่กระบวรการของศาลแล้ว ดังนั้นเราจึงจะไม่ก้าวล่วง

โดยในวันที่ 7 เม.ย.61 นี้ ทางชมรมคนรักเสือดำกาญจนบุรี จะจัดพิธีทำบุญอุทิศให้กับเสือดำตัวที่ตายไป และจะดำเนินการเตรียมสร้างอนุสาวรีย์รูปปั้นเสือดำ เพื่อนำไปตั้งไว้ให้เป็นอุทาหรณ์สอนใจให้กับชนรุ่นหลัง ที่บริเวณจุดที่เสือดำถูกล่าจนเสียชีวิตภายในเขตรักษาพันสัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรฯ และหลังจากนี้ทางชมรมจะยื่นเรื่องขออนุญาตไปยังกรมอุทยานฯ หากกรมอุทยานฯ อนุญาต ทางชมรมฯ จะได้เชิญชวน นิสิต นักศึกษา สหภาพแรงงาน และประชาชนทั้งจังหวัดกาญจนบุรี และทั่วประเทศ และในวันดังกล่าวขอรณรงค์ให้ประชาชนคนไทยทุกภาคส่วน พร้อมใจกันสวมเสื้อรณรงค์ต่อต้านการล่าสัตว์ป่า และการทารุณกรรมสัตว์ อย่างพร้อมเพรียงกัน

นอกจากนี้ยังได้เตรียมจัดทำเพจ เพื่อรับแจ้งเหตุหากพบการกระทำผิดเกี่ยวกับสัตว์ป่าให้แจ้งมาในเพจที่ชมรมจัดสร้างขึ้นหรือทางโทรศัพท์หากสะดวก ซึ่งทางชมรมจะได้ประสานไปยังหน่วยงานเกี่ยวข้องให้เข้าไปดำเนินการกับผู้กระทำผิดต่อไป

อ.ดร.มานพ กล่าวว่า การจะบังคับใช้กฎหมายจะเลือกปฏิบัติคนจนคนรวยไม่ได้ ดังนั้นก็ควรจะใช้กฎหมายให้เสมอภาคเท่าเทียมกัน สำหรับกฎหมายที่บังคับใช้อยู่กว่า 800 ฉบับ และมีจำนวนมากที่ยังไม่ได้มีการแก้ไขหรือเพิ่มเติมให้ทันสมัยขึ้น เช่น พระราชบัญญัติสงวนคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2503 ซึ่งผ่านมากว่า 60 ปีแล้ว โดย พ.ร.บ.สงวนคุ้มครองสัตว์ป่าหายาก เช่น เสือดำ ต้องได้รับการปกป้องและคุ้มครองมากกว่านี้ และจะต้องมีบทลงโทษที่หนักกว่านี้เช่นกัน แท้ที่จริงสัตว์ทุกชนิดก็มีความสำคัญเท่าๆ กัน แต่สัตว์ป่าบางชนิดจะต้องมีบทลงโทษที่รุนแรงกว่า เพราะอนาคตข้างหน้าอาจจะไม่มีให้อนุชนรุ่นหลังได้เห็นและได้ศึกษาอีกต่อไป

ด้าน ดร.ธวัชชัย กล่าวว่า เสือดำเป็นแรงกระตุ้นที่ทำให้คนไทยหันมาตระหนักในเรื่องของการดูแลสัตว์ป่า โดยเฉพาะเสือดำ ที่มีโอกาสที่จะสูญพันธุ์ ซึ่งพบว่าในประเทศไทยมีอยู่ประมาณ 100-130 ตัวเท่านั้น โดยอยากเห็นกระบวนการทางกฎหมายไม่เป็น 2 มาตรฐาน อย่าละเว้นการปฏิบัติและอย่าเลือกปฏิบัติ ซึ่งหากผู้ใดกระทำผิดไม่ว่าบุคคลนั้นจะเป็นคนจนหรือคนรวย จะต้องเสมอภาคปฏิบัติเหมือนกัน อีกทั้งอยากให้กระทรวงศึกษาได้เพิ่มหลักสูตรในระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา ในเรื่องการดูแลรักสัตว์ป่าเหล่านี้ด้วย เพื่อกระตุ้นจิตสำนึกการดูแลสัตว์ป่าเหล่านี้

ขณะที่ พล.ต.ต.กมลสันติ ซึ่งเป็นคนเมืองกาญจน์ กล่าวว่า เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ไม่ใช่เฉพาะชาวกาญจน์เท่านั้น แต่เป็นของคนทั้งโลก ดังนั้นเราควรภูมิใจกับธรรมชาติที่ให้ไว้กับมนุษย์

ดร.มานพ กล่าวว่า ชาวไทยควรทำอย่างไร โดยเฉพาะคนในพื้นที่ควรทำอย่างไร เมื่อมีคนต่างถิ่นที่เข้ามามีวัตถุประสงค์ที่ไม่ใช่เพื่อท่องเที่ยวเพียงอย่างเดียว แต่กระทำในสิ่งที่ไม่สมควร ซึ่งคนทั่วโลกให้ความสนใจกับการกระทำในเรื่องของสัตว์ป่าเหล่านี้ และอยากเห็น พ.ร.บ.กระกระทำทารุณกรรมสัตว์ป่าให้เพิ่มบทลงโทษให้รุนแรงกว่านี้

 

ที่มา : มติชนออนไลน์