เวลา 11.35 น. พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองผบ.ตร.) พล.ต.ต.ปัญญา ปิ่นสุข ผบก.ปทส. มาร่วมสอบสวนนางคณิตดา กรรณสูต ภรรยาของนายเปรมชัย กรรณสูต และนางวันดี สมภูมิ ผู้ที่ลงชื่อเซ็นรับรองในใบจดแจ้งงาช้าง ที่พบในบ้านของนายเปรมชัย ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบพบว่า เป็นงานช้างแอฟริกา ซึ่งไม่ตรงตามใบจดแจ้งที่ระบุว่าเป็นงาช้างใช้งานในประเทศ โดยใช้เวลาประมาณ 20 นาที
พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่าจากการปากคำผู้ต้องหาทั้งสองคนให้การปฏิเสธ โดยนางคณิตดา อ้างว่าไม่ทราบมาก่อนว่างาช้างในครอบครองทั้งสี่กิ่ง เป็นงาช้างแอฟริกา จึงนำงาช้างทั้งหมดไปจดแจ้งกับเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯว่าเป็นช้างบ้านของประเทศไทย อีกทั้งงาช้างทั้งหมดยังได้รับเป็นมรดกตกทอดมาจากญาติ ไม่สามารถหาเอกสารมายืนยันการมอบมรดกดังกล่าวได้
พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบข้อมูลตามคำให้การของผู้ต้องหาพบว่า เจ้าของงาช้างที่มอบเมื่อปี พ.ศ.2524 ได้เสียชีวิตไปแล้ว และจากการตรวจสอบปีที่มอบให้เท่ากับคดีขาดอายุความไปแล้ว โดยมีอายุความ 20 ปี แต่ผู้ต้องหาไม่สามารถนำประเด็นดังกล่าวมาโต้แย้งได้ เพราะไม่มีเอกสารสำแดงยืนยันการนำเข้าจากกรมศุลกากร และจากเจ้าของเดิม ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการประสานกับกรมศุลกากร ให้เข้ามาตรวจสอบงาช้างทั้งหมด ว่ามีการแจ้งนำเข้าถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ หากพบว่าไม่มีการนำเข้าถูกต้องก็จะดำเนินคดีเพิ่มเติมตาม พ.ร.บ.การนำเข้าของกรมศุลกากรต่อไป
ส่วนกรณีที่นางวันดี ผู้ต้องหาอีกหนึ่งคนให้การปฏิเสธว่า ไม่ทราบงาช้างของนางคณิตดา เป็นงาช้างแอฟริกา เพราะนางคณิตดามีเอกสารถูกต้องครบถ้วน โดยในส่วนนี้นายบัญญัติ ฉายอรุณ ผู้อำนวยการส่วนคุ้มครองสัตว์ป่า สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และพันธุ์พืช ชี้แจงว่า กรมอุทยานฯ เปิดให้ประชาชนนำงาช้างเข้าจดทะเบียนตามพ.ร.บ.งาช้างในปี 2558 ซึ่งขณะนั้นในพื้นที่กรุงเทพมหานครมีผู้นำงาช้างเข้าจดแจ้งจำนวน 12,000 ราย โดยมีทั้งผู้ที่นำงาช้างมาให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบในระหว่างการจดแจ้ง และอีกส่วนหนึ่งมีการนำภาพถ่ายมาใช้ประกอบการจดแจ้ง ซึ่งกรณีของนางคณิตดา ใช้การจดแจ้งผ่านภาพถ่ายและเอกสารครบ แต่นางคณิตดายังไม่ได้รับใบอนุญาตครอบครองอย่างสมบูรณ์ เนื่องจากยังไม่ได้รับการตรวจสอบงาช้างดังกล่าวว่าเป็นงาช้างบ้านของไทยตามที่มีการจดแจ้งไว้หรือไม่
นอกจากนี้ พล.ต.อ.ศรีวราห์ ยังชี้แจงอีกว่ากรณีของนางคณิตดาเข้าข่ายความผิดใน 2 พ.ร.บ. คือ 1 พ.ร.บ.งาช้าง พ.ศ. 2558 ซึ่งนางคณิตดานำงาช้างแอฟริกาไปจดแจ้งว่าเป็นช้างบ้านของไทย ซึ่งไม่ตรงกับความเป็นจริง มีความผิดตาม พ.ร.บ.ดังกล่าว มีโทษยึดงาช้างให้ตกเป็นของแผ่นดิน แต่ไม่มีโทษปรับหรือโทษจำคุก ส่วนความผิดที่ 2 เข้าข่ายตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 คือมีซากสัตว์หรืองาช้างแอฟริกาไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 4 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท ซึ่งในวันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนจะเข้าข่ายการแจ้งข้อความอันเป็นเท็จหรือไม่ ต้องกลับไปปรึกษากับผู้บังคับบัญชาก่อน และต้องรวบรวมพยานหลักฐานให้ชัดเจน ก่อนเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนของ ปทส.
สำหรับความคืบหน้าในคดีของนายเปรมชัย ที่ล่าสุดอัยการสูงสุดแถลงว่าขณะนี้สำนวนคดีของนายเปรมชัย ยังมีการสอบสวนที่ยังไม่สิ้นกระแสความอีก 3-4 ประเด็น ประเด็นแรกว่าน่าจะเป็นเรื่องที่บันทึกจับกุมว่าเนื้อที่พบเป็นเนื้อเก้งแต่ผลพิสูจน์ออกมาเป็นเนื้อหมู ซึ่งจะต้องแจ้งพฤติการณ์แห่งคดีนี้ให้กับผู้ต้องหาทั้ง 4 รายทราบ และยังมีการทวงผลตรวจพยานทางนิติวิทยาศาสตร์ ของกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช
พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า ขณะนี้รับผลการตรวจดังกล่าวมาจากกรมอุทยานแล้ว 90% เหลืออีกประมาณ 10 % จะสมบูรณ์จึงจะสามารถส่งให้อัยการนำไปใช้ประกอบในสำนวนคดีได้ ซึ่งขณะนี้ พล.ต.ต.ปัญญา เร่งรัดไปยังกรมอุทยานให้รีบส่งผลที่เหลือมาให้กับพนักงานสอบสวน และยังเร่งรัดให้แล้วเสร็จภายในสิ้นเดือนนี้ ส่วนกรณีคดีรุกที่เขตอุทยานแห่งชาติภูเรือ จังหวัดเลย เรื่องดังกล่าวอยู่ในความรับผิดชอบ อยู่ในความรับผิดชอบของผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ซึ่งอยู่ระหว่างการตั้งคณะกรรมการ ไม่ใช่หน้าที่ของตำรวจ กำลังรอให้ทางผู้ว่ามีคำสั่งดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
“ขอยืนยันว่าทางกรมอุทยานและกรมศุลกากร แจ้งความข้อหาอะไรมาเราก็ดำเนินการให้ครบ” รองผบ.ตร.กล่าว
จากนั้นเวลา 13.45 น. นางคณิตดากับนางวันดี พร้อมทนายความเดินทางไปศาลอาญารัชดฯา โดยไม่ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนแต่อย่างใด นอกจากนี้ทางพนักงานสอบสวนเตรียมนัดหมายให้นายเปรมชัย มาพบพนักงานสอบสวน บก.ปทส.ในวันที่ 21 มีนาคม อีกครั้งเพื่อสอบสวนปากคำเพิ่มเติมในบางประเด็นที่ทางพนักงานอัยการต้องการ
ที่มา : มติชนออนไลน์