เมื่อวันที่ 1 เมษายน ซึ่งตรงกับวันแห่งการโกหก หรือวันเมษาหน้าโง่ มีการเผยแพร่ข้อความที่โกหกมากมายบนโลกออนไลน์ อย่างเช่น เพจเฟซบุ๊กของ Amnesty International Thailand หรือแอมเนสตี้ประเทศไทย ได้โพสต์ข้อความระบุว่า
แอมเนสตี้ประเทศไทยประกาศปิดตัวตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2561 เป็นต้นไป เนื่องจากเหตุผลดังต่อไปนี้:
รัฐบาลและเจ้าหน้าที่รัฐไทยปกป้องคุ้มครองสิทธิมนุษยชนของประชาชนได้อย่างทั่วถึงตามมาตรฐานและกฎหมายระหว่างประเทศ 100%
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- รักษาการอธิบดี DSI เปิดเงื่อนไข “ขนย้ายกากแคดเมียม” เข้าข่ายเป็นคดีพิเศษหรือไม่
คนไทยมีเสรีภาพเต็มขั้น แสดงออกอย่างสันติได้โดยไม่ถูกจับและแจ้งข้อหาที่ไม่สมเหตุสมผลอีกต่อไป คนที่ถูกคุมขังเพียงเพราะใช้เสรีภาพในการแสดงออกได้รับการปล่อยตัว
นักปกป้องสิทธิมนุษยชนทั่วประเทศไม่โดนคุกคาม ข่มขู่ หรือทำร้าย จากภาครัฐและเอกชนที่เสียผลประโยชน์
เจ้าหน้าที่รัฐที่ทรมานผู้ต้องหา และทุกคนที่ก่อเหตุอุ้มหาย ถูกนำตัวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมที่เที่ยงตรงและมีมาตรฐาน
รัฐบาลคัดกรองผู้ลี้ภัยอย่างมีประสิทธิภาพตามที่สัญญาไว้บนเวทีนานาชาติ และไม่ส่งกลับผู้ลี้ภัยไปเสี่ยงชีวิตในประเทศอันตรายอีกต่อไป
กฎหมายที่ถูกนำมาใช้ละเมิดสิทธิมนุษยชนและกดขี่ของประชาชนได้รับการแก้ไขอย่างครบถ้วนทุกฉบับ
ประเทศไทยมีสิทธิมนุษยชนที่สมบูรณ์ ทุกชีวิตมีค่าเท่ากัน ประชาชนไม่ถูกรังแกจากผู้มีอำนาจ การบริหารประเทศโปร่งใสและเป็นธรรม แอมเนสตี้จึงไม่จำเป็นต้องทำงานในประเทศไทยอีกต่อไป
“#AprilFoolsDay”
อย่างไรก็ตาม แอมเนสตี้ประเทศไทย ได้มีโพสต์ข้อความชี้แจงต่อมาว่า
โพสต์นี้เป็นแค่ #AprilFoolsDay นะคะ เผื่อใครไม่เก็ท แอมเนสตี้ประเทศไทยยังเดินหน้าทำงานอย่างเต็มกำลัง และต้องการแรงสนับสนุนจากคนไทยต่อไปค่ะ
ขอบคุณที่ร่วมสนับสนุน เป็นอาสาสมัคร ร่วมรณรงค์ และบริจาคกันมาตลอดนะคะ ยังมีงานที่พวกเราต้องทำอีกมากทีเดียว

แอมเนสตี้ประเทศไทยประกาศปิดตัวตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2561 เป็นต้นไป เนื่องจากเหตุผลดังต่อไปนี้:•…
โพสต์โดย Amnesty International Thailand เมื่อ 31 มีนาคม 2018