ถ้าเจอแก๊งคอลเซ็นเตอร์ตุ๋นให้รีบโทร 1155 และ 1170 ผบ.ตร.ชี้โทรเร็วมีโอกาสได้เงินคืน!

เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 3 เมษายน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พล.ต.ต.ชวลิต แสวงพืชน์ รองผบช.ก. พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. พ.ต.ท.อาเดล อับดุลลาห์ มอชิด ราชิด ตำรวจฝ่ายสืบสวนของเมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แถลง ตำรวจดูไบ คุมตัวผู้ต้องหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติ 4 ราย ที่ตำรวจไทยโดยศูนย์ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติร่วมกับตำรวจดูไบ ทลายเครือข่ายและจับกุมได้ทั้งแก๊ง 23 ราย เมื่อวันที่ 19 มีนาคมที่ผ่านมา โดยส่งมอบตัวให้ตำรวจไทยแล้ว 18 ราย เมื่อวานนี้ ซึ่งทั้ง 4 รายประกอบด้วย นายหทชัย แดนธนสารเลิศล้ำ อายุ 31 ปี น.ส.นิภา แซ่พ่าน อายุ 28 ปี นายสิทธินนท์ ปอมู อายุ 29 ปี และนายสมคิด วรวุฒิ อายุ 32 ปี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพระโขนง

พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า วันนี้ทางตำรวจดูไบได้นำตัวผู้ต้องหา 4 คนมาส่งเพิ่มเติม จากการสอบสวนผู้ต้องหารายหนึ่งยอมรับว่าเคยทำงานอยู่ในแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ประเทศกัมพูชา ก่อนที่จะมาตั้งฐานปฏิบัติการที่ดูไบ เนื่องจากมีรายได้ดีพอสมควร จากการสืบสวนทราบว่าคนร้ายที่ร่วมขบวนการไม่ได้ถูกบังคับ แต่ร่วมก่อเหตุด้วยสมัครใจ แต่ละกลุ่ม แต่ละประเทศที่บุกทลายไปแล้ว ทั้งจีน มาเลเซีย กัมพูชา และดูไบ มีความเชื่อมโยงกัน คือมีแกนนำเป็นคนไต้หวันที่พบว่าคือแก๊งเดียวกัน โดยตนได้กำชับการปฏิบัติการให้ติดตามจับกุมกลุ่มอื่นๆ ให้ได้ พร้อมขอความร่วมมือกับตำรวจดูไบให้เฝ้าระวัง แต่จากข้อมูลเชื่อว่าไม่มีขบวนการนี้หลงเหลือในดูไบแล้ว

ผบ.ตร.กล่าวว่า ตำรวจพยายามอย่างยิ่งที่จะปราบปรามขบวนการคอลเซ็นเตอร์ให้สิ้นซาก แต่ประเด็นสำคัญต้องเน้นย้ำให้ประชาชนรับรู้ ไม่หลงกลตกเป็นเหยื่อแก๊งหลอกลวงพวกนี้ อย่างไรก็ตามถ้าผู้เสียหายรู้ตัว ไหวตัวทันว่ากำลังถูกหลอก หากโอนเงินให้คนร้ายไปแล้ว ให้รับโทรติดต่อสายด่วน 1170 ของ ปปง.หรือ โทร 1155 ของตำรวจท่องเที่ยวโดยเร็วที่สุด หากติดต่อเจ้าหน้าที่ได้เร็วก็มีโอกาสได้เงินคืน หากติดต่อเจ้าหน้าที่ภายใน 15-30 นาที เจ้าหน้าที่จะสามารถอายัดได้คืนเต็มจำนวน หากโทรมาช้ากว่านี้ก็อาจจะอายัดเงินคืนได้บางส่วน หากช่วง 30 ถึง 1 ชั่วโมง โอกาสได้เงินคืนมากกว่าครึ่ง หากเกิน 1 ชั่วโมงไปแล้วโอกาสได้เงินคืนยิ่งน้อยลง แต่ถึงอย่างไรขอให้ประชาชนติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อช่วยเหลือและขยายผลจับกุมคนร้าย

ด้าน พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ตั้งแต่เริ่มปฏิบัติการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ นับแต่วันที่ 8 ธันวาคม 2560 มีคดีความทั้งสิ้น จำนวน 417 คดี มูลค่าความเสียหายกว่า 208 ล้านบาท โดยผบ.ตร.สั่งการให้เร่งสรุปสำนวนทั้งหมดส่งพนักงานอัยการภายในเดือนเมษายน เพื่อจะได้ดำเนินการเรียกทรัพย์สินคืนให้ผู้เสียหายต่อไป ส่วนในเรื่องทรัพย์สินที่อายัดได้ ประชาชนไม่ต้องกังวล ทางตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการคืนเงินให้กับผู้เสียหายโดยเร็วที่สุด

ขณะที่ตำรวจดูไบ กล่าวว่า ขอบคุณตำรวจไทยที่ร่วมกันปฏิบัติงาน แลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ ถือเป็นการประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว และขอบคุณผบ.ตร. อีกครั้ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตร.และ ปปง. ได้ส่งมอบเงินคืน ให้แก่ผู้เสียหายที่ตกเป็นเหยื่อแก๊งคอลเซนเตอร์ 5 ราย จากหลายท้องที่ นอกจากนี้ได้มีการคืนเงินที่อายัดได้คืนผู้เสียหาย 5 ราย รวมเป็นเงิน 1,922,956.91 บาท จากมูลค่าเสียหาย 8,118,602 บาท

 

ที่มา : มติชนออนไลน์