สพฉ.จ่อเลิกเบอร์ฉุกเฉิน 1669 ใช้สายด่วน 191 เรียกแพทย์ฉุกเฉินแทน

เบอร์ฉุกเฉิน 1669 191 เลิกเบอร์ฉุกเฉิน 1669

สพฉ.จ่อเลิกเบอร์ฉุกเฉิน 1669 ใช้สายด่วน 191 เบอร์เดียว เรียกแพทย์ฉุกเฉิน-ขอความช่วยเหลือ ระบุอยู่ระหว่างรอการดำเนินการจากตำรวจ ยอมรับไม่สามารถทำให้ทุกคนรู้ได้ แต่ให้ทุกคนถามได้

วันที่ 1 ตุลาคม 2566 มติชน รายงานว่า ร.อ.นพ.อัจฉริยะ แพงมา เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการยุบรวมหมายเลขฉุกเฉิน 1669 ไปใช้หมายเลขฉุกเฉิน 191 ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างรอทางตำรวจว่าจะดำเนินการเรื่องนี้อย่างไรบ้าง ซึ่งเรื่องนี้มีการวางระบบการทำงานไว้แล้ว ใช้งบประมาณราว 7,000 ล้านบาท

ในส่วนของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) โดยคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก็มอบอำนาจให้ตำรวจไปดำเนินการแล้ว มีการจัดทำ เงื่อนไข (TOR) ไปแล้ว อยู่ในขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้าง

“ทุกอย่างถ้าเริ่มได้ก็รันไปเลย ทั้งนี้ จากข้อมูลการ โทร.สายด่วน 1669 อยู่ที่ประมาณ 6 ล้านครั้งต่อปี ส่วนสายด่วน 191 อยู่ที่ประมาณ 5 ล้านครั้งต่อปี หากรวมกันก็จะมีปริมาณสายที่ โทร.เข้ามาอยู่ที่ราว ๆ 11 ล้านครั้งต่อปี

ซึ่งจากนี้หากเริ่มดำเนินการรวมหมายเลขฉุกเฉินแล้ว จะต้อง โทร.เข้า 191 เป็นอันดับแรก (First call) เพื่อคัดกรอง หากเป็นเรื่องฉุกเฉินทางการแพทย์ก็จะส่งต่อไปที่ 1669 (Second call) ดังนั้น ทุกอย่างยังเหมือนเดิม แต่เปลี่ยนให้ประชาชน โทร.191 เพียงหมายเลขเดียว” ร.อ.นพ.อัจฉริยะกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากรวมใช้หมายเลขเดียว 191 แล้ว การพิจารณาอาการฉุกเฉินทางการแพทย์ ต้องจัดให้มีผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ไปร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการรับสายด่วนนี้หรือไม่ ร.อ.นพ.อัจฉริยะกล่าวว่า อันดับแรก เมื่อ โทร.เข้า 191 เจ้าหน้าที่จะสอบถามก่อนว่า เป็นเรื่องเรื่องฉุกเฉินด้านใด หากเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับตำรวจจะส่งต่อไปที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ

ADVERTISMENT

“หากไม่ใช่เรื่องตำรวจ อาจจะส่งไปที่องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) หรือไปที่กระทรวง แล้วค่อยแยกว่าเป็นเรื่องการแพทย์หรือไม่ เพราะนี่เป็นการรวมหมายเลขฉุกเฉินหลายส่วนเข้ามา จากเดิมที่แยกกันอยู่ ต่างคนต่างทำ

ตอนนี้ก็หวังว่าจะเป็นศูนย์เดียว เบอร์เดียว บูรณาการการจัดการร่วมกัน อยู่ระหว่างรอคิกออฟก่อน ทั้งนี้ ในส่วนของแอปพลิเคชั่น 1669 ที่เอาไว้แจ้งเหตุและพิกัดนั้น ก็อาจจะต้องปรับปรุงใหม่ด้วยเช่นกัน” ร.อ.นพ.อัจฉริยะกล่าว

ADVERTISMENT

เมื่อถามว่า เนื่องจากอาการป่วยฉุกเฉินบางอย่างต้องการความรวดเร็วในการช่วยเหลือมาก การที่ต้องส่งต่อหมายเลขเป็นทอด ๆ จะทำให้การช่วยเหลือทันเวลาหรือไม่ ร.อ.นพ.อัจฉริยะกล่าวว่า เป้าหมายสำคัญคือ ต้องไม่ช้า ทั้งหมดต้องต่อให้ได้ภายใน 2 นาที ทั้งหมดต้องเชื่อมต่อกัน

“เราใช้ข้อมูลผ่านโปรแกรมเดียวกัน ทั้งนี้ เมื่อ โทร.เข้ามา คำถามแรกก็จะรู้ได้ว่าเป็นเรื่องสุขภาพหรือไม่ ถ้าไม่ใช่สุขภาพเลยก็ส่งต่อไปหน่วยงานอื่น ถ้าเป็นเรื่องสุขภาพก็มาทางนี้” ร.อ.นพ.อัจฉริยะกล่าว

ร.อ.นพ.อัจฉริยะกล่าวอีกว่า ขณะนี้มีปัญหาเรื่องความเข้าใจคำว่าเจ็บป่วยฉุกเฉิน ที่แตกต่างกัน ยอมรับไม่สามารถทำให้ทุกคนรู้ได้ แต่ให้ทุกคนถามได้ ถ้าไม่รู้ก็สามารถถามได้