เครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพออกจม.เปิดผนึกถึงศาล ขอคืนพื้นที่บ้านพักบางส่วนที่กระทบระบบนิเวศ

เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 6 เมษายน เครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ รวม 16 องค์กร ออกจดหมายเปิดผนึกต่อกรณีการก่อสร้างบ้านพักตุลาการที่ตกอยู่ในกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักถึงความไม่เหมาะสมดังกล่าว

โดยเนื้อหาระบุว่า กราบเรียนท่านประธานศาลฎีกา และ คณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม ที่เคารพ เครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพขอใช้ช่องทางสื่อสารทางสังคมออนไลน์นำเรียนต่อท่าน เพื่อให้ท่านได้รับรู้ถึงฉันทามติของทางเครือข่ายฯ ก่อนหน้าการประชุมคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรมในเช้าวันจันทร์ ที่ 9 เมษายน 2561

โดยขอนำเรียนว่า เมื่อวันที่ 5 เมษายนที่ผ่านมา ตัวแทนของเครือข่ายฯ ได้เข้าประชุมหารือเตรียมการกับทางคณะผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 33 (มทบ.33) ซึ่งเป็นหน่วยจัดประชุมแก้ปัญหาการคัดค้านโครงการหมู่บ้านข้าราชการตุลาการ เชิงดอยสุเทพ โดยพวกเราได้รับปากและยืนยันหลักการที่จะเจรจาอย่างสุภาพ ปราศจากวาจาก้าวร้าว หรือส่อเสียด มุ่งหาทางออกอย่างสันติซึ่งเป็นแนวทางที่เรายึดถือมาแต่ต้น

ตัวแทนเจรจายังได้นำเสนอแนวทางและชุดข้อเสนอ เพื่อหาทางแก้ปัญหาการคัดค้านอย่างสันติ และเป็นไปอย่างถูกต้องกฎหมายกล่าวคือ

1. ภาคประชาชนจะขอคืนพื้นที่โครงการบ้านพักและแฟลตราชการเพียงบางส่วนที่มีผลกระทบต่อนิเวศน์อย่างชัดเจนในพื้นที่ส่วนบนที่สร้างบนพื้นที่ป่าเดิม ซึ่งพื้นที่ขอคืนดังกล่าวไม่รวมกับพื้นที่ของอาคารที่ทำการศาลอุทธรณ์ภาค 5 และแฟลตที่พักส่วนล่างจำนวนหนึ่ง หาได้ต้องการหมดทั้งแปลงแต่อย่างใด

2. เหตุผลที่ต้องขอคืนพื้นที่ส่วนบนดังกล่าว ได้จัดเตรียมข้อมูลนำเสนอผ่านโปรแกรมพาวเวอร์พอยท์และแผ่นป้าย เพื่อนำเสนอต่อตัวแทนสำนักงานเลขาธิการศาลยุติธรรมที่มาร่วมประชุมหารือได้รับทราบ โดยสังเขปก็คือ พื้นที่ซึ่งเป็นป่าส่วนบนนั้น เป็นพื้นที่ละเอียดอ่อน เป็นป่าเขตกันชนรอยต่ออุทยานแห่งชาติ โครงการบ้านพักข้าราชการตุลาการ ได้ก่อสร้างล้ำขึ้นจากแนวการใช้ประโยชน์ของหน่วยงานอื่นๆ อย่างชัดเจน ซึ่งทำให้มีความเสี่ยงต่อปัญหาอัคคีภัย อุทกภัย โคลนถล่มตามฤดูกาล และที่สำคัญก็คือ การบุกเบิกใช้พื้นที่บริเวณนั้นอาจจะเป็นจุดเริ่มของการขยายพื้นที่ใช้ประโยชน์เขตราชพัสดุส่วนที่เป็นป่าดอยสุเทพลุกลามตามมา

3. ตัวแทนประชาชนรับทราบความกังวลในแง่ข้อกฎหมาย และการใช้งบประมาณของรัฐที่ดำเนินไปแล้ว ภาคประชาชนรับทราบและเข้าใจเงื่อนไขข้อกฎหมายที่ผูกพัน ดังนั้นจึงเสนอให้ใช้ช่องทางตามกฎหมายเพื่อแก้ปัญหานี้ โดยให้มีการก่อสร้างส่งมอบงานตามสัญญาให้แล้วเสร็จ เพื่อมิให้เกิดการฟ้องร้องค่าเสียหายตามมา ในระหว่างนั้น ศาลยุติธรรมจัดเตรียมรังวัดคืนพื้นที่บางส่วนกลับมาเป็นที่ราชพัสดุ เพราะได้พิจารณาผลกระทบและสภาพปัญหาในมิติต่างๆ การแบ่งพื้นที่ส่วนหนึ่งกลับเป็นที่ราชพัสดุจะนำมาซึ่งการแก้ปัญหา และเป็นทางออกที่สวยงามร่วมกันระหว่างราษฎร์-รัฐ นั่นเพราะศาลยุติธรรมในยุคสมัยใหม่เล็งเห็นว่าสาธารณประโยชน์และคุณค่าด้านจิตวิญญาณของประชาชนมีความสำคัญเหนือกว่าประโยชน์ขององค์กร จึงได้ส่งมอบคืนพื้นที่นั้น

4. ภาคประชาชนเสนอต่อตัวแทนฝ่ายทหาร เสนอแนวทางฟื้นฟูป่าและระบบนิเวศร่วมกัน ระหว่างราษฎร์-รัฐ นี่จะเป็นโอกาสอันดีที่จะเป็นช่องทางปลุกสำนึกและพลังความร่วมมือของพลังประชารัฐทุกภาคส่วน ทั้งนี้ภาคีความร่วมมือพลังประชารัฐดังกล่าว จะมีสำนักงานศาลยุติธรรมจะเป็นแกนและองค์ประกอบสำคัญ ร่วมกับประชาชนในการฟื้นฟู อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ

5. แนวทางการฟื้นฟูพื้นที่ซึ่งฝ่ายประชาชนต้องการ ไม่ใช่การดำรงสิ่งปลูกสร้างไว้ ให้กับหน่วยงานอื่น หรือวัตถุประสงค์อื่นซึ่งต้องใช้งบประมาณแผ่นดินอีกจำนวนมาก ภาคประชาชนได้เรียนแจ้งต่อผู้แทนหน่วยทหารว่าต้องการจะรื้อสิ่งปลูกสร้างลงมาเพื่อจะเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูสภาพป่าตามหลักวิชาการต่อไป

6. ภาคประชาชนตระหนักดีว่าศาลยุติธรรมได้ดำเนินโครงการนี้มาเป็นลำดับ แต่ขอให้ศาลยุติธรรมได้โปรดเข้าใจว่าปัญหานี้ไม่สามารถมองจากแง่มุมทางกฎหมาย หรือสิ่งแวดล้อมเพียงมิติเดียว หรือสองมิติ การที่หน่วยงานในอดีตได้เลือกใช้พื้นที่ไม่เหมาะสม ยังมีผลต่อความรู้สึก ความศรัทธา ความกังวล และความไม่เชื่อมั่นต่อสถาบันของรัฐ ทั้งจะเป็นชนวนก่อให้เกิดความรู้สึกไม่เป็นมิตรกับประชาชนชาวพื้นถิ่น สะสมยาวนานต่อไปอีก ภาคประชาชนขอนำเรียนว่าจะยังยืนยัน และไม่ย่อท้อที่จะเรียกร้องขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพกลับมาเป็นมิ่งขวัญของชาวเชียงใหม่โดยรวมต่อไป จนกว่าการแก้ปัญหาจะแล้วเสร็จ ขอท่านได้โปรดเข้าใจเจตนาอันบริสุทธิ์ของภาคประชาชนด้วย

อนึ่งข้อมูลสำคัญที่ได้นำเรียนผ่านจดหมายเปิดผนึกฉบับนี้ ตัวแทนประชาชนได้นำเสนอต่อผู้บัญชาการ มทบ.33 และตัวแทนของหน่วยทหารในวงประชุมเตรียมความพร้อมไว้ล่วงหน้า เพื่อแสดงเจตนาและจุดยืนของการพยายามหาทางแก้ปัญหาอย่างสันติ ละมุนละม่อม ให้เกียรติกันและกัน เพราะเข้าใจดีว่าปัญหานี้ผูกพันต่อเนื่องยาวนานไม่ได้เป็นความผิดของผู้มีหน้าที่รับผิดชอบปัจจุบัน

จึงเรียนมา เพื่อขอวิงวอนให้ท่านและคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรมได้โปรดพิจารณาเข้าใจเหตุผล และเจตนาของภาคประชาชน และได้โปรดตัดสินใจคืนพื้นที่บางส่วนของโครงการบ้านพักข้าราชการตุลาการ เชิงดอยสุเทพ จังหวัดเชียงใหม่แก่กรมธนารักษ์ และจากนั้นศาลยุติธรรมกับภาคประชาชนตลอดถึงหน่วยงานภาครัฐอื่น จะร่วมกันฟื้นฟูสภาพป่าและระบบนิเวศต่อไป

ด้วยความเคารพอย่างสูง
เครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ

พร้อมแนบรายชื่อเครือข่ายขอคืนผืนป่าดอยสุเทพ ณ วันที่ 6 เมษายน 2561
1.ชมรมจักรยานวันอาทิตย์
2.ชมรมร่มบิน
3. ชมรมจักรยานเสือภูเขา
4. กลุ่มรักษ์แม่ปิง
5. กลุ่มฮักเชียงใหม่
6. ภาคีคนฮักเจียงใหม่
7. เครือข่ายเชียงใหม่เขียว สวย หอม
8. กลุ่มมือเย็นเมืองเย็น
9. มูลนิธิไทยรักษ์ป่า
10. มูลนิธิเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน
11. เครือข่ายอาสาเฝ้าระวัง 9 (ทสม.)
12. คณะกรรมการประสานงานอนุรักษ์แม่ปิงและสิ่งแวดล้อม (คอมส.)
13. ชมรมอนุรักษ์เชียงใหม่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
14. เครือข่ายชุมชนรักษ์เชียงใหม่
15. ศูนย์เรียนรู้ธรรมชาติบ้านปางแฟน
16. สมาคมชาวเหนือ

 

ที่มา มติชนออนไลน์