ศาลฎีกายกฟ้อง “เบนซ์ เรซซิ่ง” ข้อหาสมคบค้ายาเสพติด เหตุพยานหลักฐานไม่เพียงพอ ส่วนคดีฟอกเงิน ถูกจำคุกมาเกินอัตราโทษที่ได้รับแล้ว เตรียมปล่อยตัวเย็นวันนี้
วันที่ 24 ตุลาคม 2566 2566 ศาลฎีกานัด นายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช หรือ เบนซ์ เรซซิ่ง พร้อมพวกรวม 3 คน รับฟังคำพิพากษาศาลฎีกา ในคดียาเสพติด โดยมีความผิดฐานร่วมกันสนับสนุน หรือช่วยเหลือหรือสมคบกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ตาม พ.ร.บ.มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และ พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ และฐานร่วมกันฟอกเงิน ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
คดีนี้อัยการโจทก์ยื่นฟ้องคดีเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2560 ระบุพฤติการณ์ความผิดสรุปว่า เมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน 2559-2 กุมภาพันธ์ 2560 จำเลยทั้ง 3 ประกอบด้วย เบนซ์ เรซซิ่ง นายสรรเสริญ และ น.ส.อังสุพร ร่วมกับนายณัฐพล หรือบอย นาคคำ จำเลยคดีค้ายาเสพติด ของศาลอาญา กับพวกที่หลบหนีโดยร่วมกันวางแผนแบ่งหน้าที่กันทำในการเป็นผู้จัดหา ครอบครอง เก็บรักษา ลำเลียงยา หาลูกค้าและเป็นเครือข่ายการรับยาเสพติด
รวมทั้งจัดการด้านการเงินที่เกี่ยวข้องที่นายณัฐพล หรือบอย กับพวกเป็นผู้จัดหายาเสพติดและเป็นผู้ประสานงานในการขนถ่ายลำเลียง ซึ่งวันที่ 26 พฤศจิกายน 2559 นายบอย นาคคำ ถูกตำรวจจับกุมพร้อมของกลางยาบ้า 140,000 เม็ด และยาไอซ์ น้ำหนัก 19 กก.
และสอบสวนพบเส้นทางการเงินของนายบอย นาคคำ โอนเงินที่ได้จากการค้ายาเสพติด เข้าบัญชีเบนซ์ เรซซิ่ง นายสรรเสริญ และนางสาวอังสุพร จำนวน 53 ครั้ง รวมเป็นเงิน 11 ล้านบาท และพบว่านายเบนซ์ เรซซิ่ง นำไปซื้อรถยนต์ซุปเปอร์คาร์ และรถจักรยานยนต์ราคาแพง ซึ่งทรัพย์ถูกยึดให้ ป.ป.ส.ขายทอดตลาดแล้ว
คดีนี้ศาลอาญาพิพากษาชั้นต้น ในปี 2561 สั่งจำคุก “เบนซ์ เรซซิ่ง 8 ปี ฐานร่วมกันฟอกเงิน และให้ยกฟ้องข้อหาสนับสนุน หรือช่วยเหลือ หรือสมคบกันค้ายาเสพติด ส่วนจำเลยที่ 2-3 มีความผิดฐานร่วมกันสนับสนุนหรือช่วยเหลือ หรือสมคบค้ายาเสพติด และฐานร่วมกันฟอกเงิน ให้จำคุกคนละ 8 ปี, ซึ่งให้การรับสารภาพ
ศาลลดโทษกึ่งหนึ่งคงจำคุกฐานฟอกเงินคนละ 4 ปี และฐานสมคบกันทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้จำคุกอีกคนละ 20 ปี ปรับคนละ 400,000 บาท รวมจำคุกจำเลยที่ 2-3 คนละ 24 ปี ปรับคนละ 400,000 บาท จำเลยยื่นอุทธรณ์
ขณะที่ศาลอุทธรณ์พิเคราะห์พยานหลักฐานแล้ว พิพากษาแก้ให้เพิ่มโทษ นายเบนซ์ เรซซิ่ง ในความผิดฐานสนับสนุนช่วยเหลือ หรือสมคบค้ายาเสพติด และฐานฟอกเงินจำคุกรวม 36 ปี 8 เดือน พร้อมโทษปรับ 3.3 ล้านบาท ส่วนจำเลยที่ 2-3 เหลือจำคุกคนละ 22 ปี 6 เดือน ปรับคนละ 400,000 บาท และทั้งหมดยื่นต่อสู้คดีในชั้นฎีกา
โดยนายเบนซ์ เรซซิ่ง ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวในระหว่างการพิจารณาคดี พร้อมเงื่อนไข สวมกำไล EM และห้ามเดินทางออกนอกประเทศ
ล่าสุด ศาลฎีกามีคำสั่งยกฟ้อง “เบนซ์ เรซซิ่ง” ในข้อหาสมคบค้ายาเสพติด เนื่องจากพยานหลักฐานไม่เพียงพอ ส่วนความผิดฟอกเงิน ในชั้นอุทธรณ์เหลือจำคุกครบ 3 ปี 4 เดือน ซึ่งนายเบนซ์อยู่ในเรือนจำครบจำนวนวันแล้ว จึงให้ปล่อยตัวออกจากเรือนจำวันนี้เวลา 18.00 น.
ทางด้านนางสุพรเพ็ญ วรโรจน์เจริญเดช มารดาของนายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช หรือเบนซ์ เรซซิ่ง เปิดเผยกับสื่อมวลชนครั้งแรกหลังศาลยกฟ้องลูกชาย ว่า ตื้นตันใจ พูดไม่ออกเมื่อได้ยินคำพิพากษาที่เป็นคุณ หลังจากต่อสู้อย่างทรมาน ยาวนานกว่า 6 ปี วันนี้ถือว่าเป็นการปลดปล่อย ซึ่งขณะนี้ได้โทรไปบอกกับ น.ส.ณปภา ตันตระกูล หรือแพท อดีตภรรยาแล้ว
ส่วนเหตุผลที่ศาลปล่อยตัวเบนซ์ เรซซิ่ง นั้น เนื่องจากลูกชายของตนถูกพิพากษาจำคุกคดีฟอกเงิน อัตราโทษจำคุก 3 ปี 4 เดือน แต่ขณะนี้เกินระยะเวลาในการรับโทษ จึงทำให้กรมราชทัณฑ์ต้องปล่อยตัว ส่วนคดีสมคบคิดค้ายาเสพติด ในชั้นฎีกา ศาลพิพากษายกฟ้องเนื่องจากพยานหลักฐานไม่เพียงพอ และยังมีข้อสงสัยว่าจำเลยที่ 1 กระทำความผิดตามฟ้องจริงหรือไม่ จึงยกประโยชน์ให้จำเลย