ตามกระแสทำนองออเจ้า! “บิ๊กตู่” แต่งเพลงสู้เพื่อแผ่นดิน ให้ทุกคนทำเพื่อชาติ มีคำติฉินยังไงก็ทนได้

เมื่อวันที่ 10 เม.ย. 2561 เวลา 14.20 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณีนายกรัฐมนตรีแต่งเพลงสู้เพื่อแผ่นดินว่า ทำนองคล้ายละครบุพเพสันนิวาส ให้มันสอดคล้องกับสถานการณ์ตอนนี้ ซึ่งคนใส่ทำนองก็คือคนเดียวกับเพลงประกอบละครบุพเพสันนิวาส

โดยนายกรัฐมนตรีระบุว่า อยากให้ทุกคนเข้าใจว่าทุกวันนี้ทำเพื่อแผ่นดินของเรา ทุกคนจะต้องช่วยกันและมันจะเกิดดีขึ้นไปเรื่อยๆ เอง ถึงแม้ว่าจะมีคำติฉินนินทาแต่ผมก็ทนได้

“ผมอยู่มาเกือบ 4 ปี แล้ว ดังนั้นเรื่องที่เจอมรสุมหลายเรื่องนั้น บางที่มรสุมมันก็ไม่ใช่มรสุมจริงๆ ผมก็ทนได้ ผมตั้งใจและมีแรงศรัทธาของผมในการทำงาน จะเชื่อมั่นหรือไม่เชื่อมั่น อย่างน้อยผมก็ขอบคุณ อยู่มา 4 ปี ผมยังทำไม่เสร็จเลย ก็จะทำต่อหรือไม่ทำต่อเป็นเรื่องของวันข้างหน้า อยากรัฐบาล นักการเมืองที่จะเข้ามาคิดแบบผมบ้าง ผมไม่ได้บอกว่าความคิดถูกคนเดียว แต่ขอให้คิดแก้ปัญหาครบวงจร แก้ทั้งระบบ”

“แม้บ้างคนจะบอกว่ารัฐบาลนี้มีมาตรา 44 แต่ถามว่า ม.44 นี้จะมีตลอดไปหรือ วันหน้าไม่คิดจะทำให้ได้อย่างที่ตนทำโดยไม่ใช้ม. 44 หรืออย่างไร ซึ่งเหล่านี้จะทำได้โดยมียุทธศาสตร์ชาติ และแผนปฏิรูปประเทศ ซึ่งต้องพึ่งความร่วมมือของฝ่ายค้าน รัฐบาล หลักการของยุทธศาสตร์ชาติจะต้องเดินไปด้วยกันได้ ไม่ว่าจะเป็น โครงการสร้างถนนหนทาง ระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน ไม่ว่าใครจะเป็นรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน จะต้องเห็นชอบในประโยชน์ของประชาชน รัฐบาลนี้ไม่ได้รับฟังมาจากนักการเมือง แต่เกิดจากการที่ได้ไปประชุมเอง และความต้องการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงจะเห็นว่าแผนงานโครงการลงไปในพื้นที่ค่อนข้างมาก โดยรัฐบาลได้พิจารณาจากการรับฟังความเห็นจากประชาชนผ่านกลไกประชารัฐ”


พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า เช่นเดียวกับโครงการไทยนิยมยั่งยืน รัฐบาลไม่ได้ทำเพื่อการเมือง แต่ทำให้ประชาชนเกิดความเข้มแข็ง เพิ่มขีดความสามารถ โดยให้ประชาชนมีรายได้ที่เพียงพอ แต่สิ่งสำคัญคือมีปัญหาตรงที่ในแต่ละพื้นที่นั้น ลูกหลานได้ออกไปทำงานนอกพื้นที่ของตัวเอง แล้วปล่อยให้คนแก่คนเฒ่าอยู่บ้าน ร่วมถึงปัญหาหนี้สิน ซึ่งหมักหมมมานาน มีการกูยืมเพื่อมาทำไร่ทำนา แม้รัฐบาลจะมีมาตรการช่วยเหลือ แต่ก็ไม่สามารถยกหนี้ให้ได้ แต่เราพยายามแก้ไขปัญหาทั้งระบบ จึงต้องเดินหน้าทำต่อไป