เปิด 11 จุดเล่นสงกรานต์กรุงเทพ ห้ามขายเหล้า มี 137 ด่าน คุมเข้มตรวจแอลกอฮอล์

เมื่อวันที่ 11 เมษายน ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.น. พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ หลักบุญ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ฤชากร จรเจวุฒิ รอง ผบช.น. แถลงผลระดมกวาดล้างอาชญากรรม ช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2561 ตั้งแต่วันที่ 1-10 เม.ย. สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 3,686 คดี มีผู้ต้องหา 3,711 คน แบ่งเป็น 1. คดีความผิดต่อชีวิต ร่างกาย และเพศ จับกุม 31 คดี ได้ผู้ต้องหา 46 คน 2. คดีประทุษร้ายต่อทรัพย์ จับกุม 53 คดี ได้ผู้ต้องหา 59 คน 3. ฐานความผิดพิเศษ (ค้ามนุษย์ ทรัพย์สินทางปัญญา ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม) จับกุม 20 คดี ได้ผู้ต้องหา 26 คน 4. คดียาเสพติด จับกุม 1,246 คดี ได้ผู้ต้องหา 1,204 คน ของกลางยาบ้า 220,531 เม็ด, ยาไอซ์ 777.43 กรัม, พืชกระท่อม 34 ใบ, กัญชาแห้ง 13.5 กก. 5. คดีความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด จับกุม 27 คดี ได้ผู้ต้องหา 27 คน ของกลางอาวุธปืน มีทะเบียน 7 กระบอก, อาวุธปืน ไม่มีทะเบียน 22 กระบอก, เครื่องกระสุนปืน 204 นัด, 6. คดีความผิดเกี่ยวกับการพนัน จับกุม 128 คดี ได้ผู้ต้องหา 274 คน 7. คดีความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.คนเข้าเมือง จับกุม 51 คดี ได้ผู้ต้องหา 53 คน 8. คดีความผิดเกี่ยวกับการป้องกัน และปราบปรามการค้าประเวณี จับกุม 145 คดี ได้ผู้ต้องหา 103 คน 9. คดีความผิดเกี่ยวกับสถานบริการ จับกุม 5 คดี ได้ผู้ต้องหา 5 คน 10. คดีความผิดเกี่ยวกับการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จับกุม 72 คดี ได้ผู้ต้องหา 64 คน และ 11. จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับค้างเก่า 249 หมาย

พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวว่า ในช่วงก่อนเทศกาลสงกรานต์ ได้กำชับให้ทุกหน่วยต้องระดมกวาดล้างอาชญากรรม ตั้งแต่วันที่ 1-10 เม.ย.ทุกกองบัญชาการ โดยมีเป้าหมายที่ต้องการคือ กวาดล้างยาเสพติด อาวุธปืน และหมายจับค้างเก่า ในส่วนของ บช.น. ได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอาวุธปืนในทุกพื้นที่ สามารถจับกุมพร้อมตรวจยึดอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนได้หลายพื้นที่ นอกจากนี้ที่ได้ดำเนินการ “โครงการประชารัฐร่วมใจ ดูแลความปลอดภัยบ้านประชาชน ช่วงเทศกาลสำคัญ” ในช่วงสงกรานต์ทาง บช.น. ได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง และมีผลการดำเนินการในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีประชาชนเข้าร่วมจำนวนมาก เริ่มให้เข้าร่วมโครงการในวันที่ 12-17 เม.ย. มีการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัย นวัตกรรมใหม่ๆ มาใช้ โดยเฉพาะแอพ Police i lert U รวมทั้งการติดคิวอาร์โค้ด ในงานของสายตรวจ ส่งผลให้การตรวจมีประสิทธิภาพ และเกิดความปลอดภัยของประชาชน

พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวอีก สำหรับในพื้นที่กรุงเทพฯ จะมีจุดเล่นน้ำสงกรานต์ใหญ่ๆ 11 จุด ที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ คือ 1. สวนลุมพินี 2. ถนนสีลม 3. ถนนข้าวสาร 4. เอเชียทริค 5. NaNa Songkran Festivel 2018 6. ถนนพัฒน์พงษ์-ธนิยะ 7. เซ็นทรัลเวิลด์ 8. สยามสแควร์ 9. ถนนโชคชัย 4 10. อาร์ซีเอ และ 11. SongKran music Fastival 2018 ถ.พระราม 9 โดยทั้ง 11 จุดนั้นห้ามจำหน่ายสุราบนท้องถนนหรือตามตรอก-ซอย ที่มีการจัดงาน แต่มีข้อยกเว้นให้ขายได้เฉพาะในสถานบันเทิงที่มีใบอนุญาตจำหน่ายเท่านั้น ขณะนี้การข่าวยังปกติ เจ้าหน้าที่ตำรวจเน้นเรื่องการป้องกันเป็นหลัก โดยเฉพาะเรื่องสายตรวจ ที่ต้องปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็ง เพื่อป้องกันไม่มีเกิดเหตุ หรือถ้ามีเหตุต้องจับให้ได้โดยเร็ว ตรงนี้ถือเป็นนโยบายหลัก

“ทั้งนี้ในนครบาลมีด่านตรวจทั้งหมด 137 จุด ในส่วนนี้เราทำอยู่แล้ว แต่เพิ่มความเข้มเข้าไป ทาง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ได้กำชับว่าให้ทุกด่านตรวจ นอกจากจะตรวจแอลกอฮอล์แล้วจะต้องตรวจหาสารเสพติดด้วย โดยแต่ละด่านมีเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับ ผกก.-รอง ผบช.ที่จะต้องลงไปดูด้วยตัวเอง ส่วนการเล่นน้ำสงกรานต์ ขอความกรุณาเรื่องการแต่งกาย ขอให้สุภาพเรียบร้อย และอุปกรณ์หรือเครื่องที่ใช้ในการเล่นน้ำ ต้องใช้ปืนฉีดน้ำแรงดันต่ำ เพราะถ้าสูงฉีดอาจทำให้ตาบอดได้ หรือฉีดไปในสถานที่ขับขี่ยานพาหนะ ยิ่งจักรยานยนต์อาจเกิดอุบัติเหตุได้ อีกเรื่องที่เน้นคือการดื่ม เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะผลตามมาคือประทุษร้าย ต่อชีวิตและทรัพย์ รวมถึงการลวนลามทางเพศ” พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าว

พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ยังกล่าวอีกว่า ช่วงวันสงกรานต์ขอความร่วมมือจากประชาชนทุกท่าน หากพบรถฉุกเฉินเปิดสัญญาณไซเรน ขอให้ทางกับรถฉุกเฉิน กรณีมีคนไข้ คนเจ็บ ต้องการไปโรงพยาบาล

ด้าน พล.ต.ต.ฤชากร กล่าวว่า ยังไงก็ต้องให้ทางกับรถฉุกเฉิน หากไม่ปฏิบัติตามมีความผิดตาม พ.ร.บ.จราจร ส่วนรถติดตามต้องเว้นระยะ 50 เมตร และเข้าใกล้รถฉุกเฉินไม่ได้ เมื่อใดก็ตามที่คนแสดงความฉุกเฉินขอใช้เส้นทาง ต้องหลีกเลี่ยงให้ ทั้งนี้หากไม่หลบให้รถฉุกเฉิน มีความผิดลหุโทษ แต่หากก่อให้เกิดความเสียหายกับผู้บาดเจ็บก็ต้องรับผิดชอบอีกส่วนหนึ่งในทางแพ่ง หากผู้เสียหายพิสูจน์ได้ว่ารถของท่านไปเกะกะกีดขวางทำให้ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้โดยเร็ว ถือว่าท่านมีความผิด ส่วนกรณีรถแดงที่ไม่หลบให้รถฉุกเฉินใน จ.นครราชสีมา นั้น ก็ต้องดูข้อเท็จจริง ต้องสอบสวนว่าเป็นเหตุโดยตรงหรือไม่

 

 

 

ที่มา มติชนออนไลน์