กรมชลฯ เพิ่มการระบายน้ำเขื่อนลำปาว แจ้งเตือน-ช่วยเหลือปชช.ในพื้นที่เสี่ยงภัย

แฟ้มภาพ

กรมชลประทาน ปรับเพิ่มการระบายน้ำเขื่อนลำปาว หลังมีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนเฉลี่ยวันละ 108 ล้านลูกบาศก์เมตร จากอิทธิพลของพายุเซินกา พร้อมกันนี้ได้แจ้งเตือนและวางแผนช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย

นายทองเปลว กองจันทร์ รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า จากอิทธิพลของพายุเซินกา ส่งผลให้มีปริมาณน้ำฝนไหลเข้าสู่เขื่อนลำปาวอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่วันที่ 26 – 31 กรกฎาคม ที่ผ่านมา มีปริมาณน้ำทั้งสิ้น 649.94 ล้านลูกบาศก์เมตร จนทำให้ปริมาณน้ำในเขื่อนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และขณะนี้มีปริมาณน้ำในเขื่อน 1,678 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 84 ของความจุเก็บกัก จากความจุเก็บกักสูงสุด 1,980 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งจากการคาดการณ์พบว่า จะมีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนอย่างต่อเนื่องไปอีกหลายวัน ดังนั้น โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว สำนักงานชลประทานที่ 6 กรมชลประทาน จึงได้ร่วมมือกับคณะกรรมการจังหวัดกาฬสินธุ์พร้อมด้วยนายอำเภอ และผู้นำชุมชนใน 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมือง อำเภอยางตลาด อำเภอกมลาไสย อำเภอฆ้องชัย และอำเภอร่องคำ ดำเนินการระบายน้ำจากเขื่อนลำปาวเพิ่มขึ้น เพื่อเพิ่มพื้นที่ว่างในเขื่อนสำหรับรองรับปริมาณน้ำฝนที่จะตกลงมาเพิ่ม ซึ่งคณะกรรมการดังกล่าวได้มีมติเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2560 ให้เพิ่มการระบายน้ำของเขื่อนที่ระบายลงทางลำน้ำปาวจนถึง 30 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน

สำหรับการเพิ่มการระบายน้ำดังกล่าวนั้น จะส่งผลให้มีพื้นที่ที่คาดว่า จะมีน้ำเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร คือ หมู่ที่ 1 , 2 , 7 และ 9 ตำบลวัดโนนศิลาเลิง อำเภอฆ้องชัย จังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งทั้ง 4 หมู่บ้านนี้เคยประสบอุทกภัยมาแล้วเมื่อปี 2544 และอีกหนึ่งจุด คือ หมู่ที่ 14 อำเภอกมลาไสย ซึ่งจะได้รับผลกระทบจากน้ำลำปาวหนุน คาดว่าจะมีบ้านเรือนราษฎรถูกน้ำท่วมกว่า 40 ครอบครัว จากนั้นจะส่งผลให้ลำน้ำชีมีระดับน้ำสูงขึ้นประมาณ 50 – 60 เซนติเมตร กรมชลประทานได้แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและจัดส่งเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังพนังกั้นน้ำชีแล้ว ซึ่งทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เตรียมวางแผนการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ดังกล่าว ทั้งเรื่องการเตรียมศูนย์พักพิง เตรียมเรือและรถยกสูงสำหรับการเดินทางของพี่น้องประชาชน ตลอดจนเครื่องอุปโภคบริโภคและการดูแลความปลอดภัยในทรัพย์สินของประชาชน เมื่อเกิดเหตุน้ำท่วมในพื้นที่ และหากปริมาณน้ำที่ไหลเข้าเขื่อนลำปาวมีปริมาณลดลง กรมชลประทานจะปรับลดการระบายน้ำ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนต่อไป