“กรมทางหลวง” คาดใช้งบซ่อมถนน-สะพาน จ.สกลนคร ถูกน้ำท่วม 2,128 ล้านบาท

นายธานินทร์ สมบูรณ์ อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ตรวจความเสียหายของทางหลวงจากอิทธิพลของพายุเซินกา พื้นที่จังหวัดสกลนครว่าหลังจากที่เกิดน้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดสกลนครที่ผ่านมาได้สั่งการให้สำนักงานทางหลวงที่ 3 (สกลนคร) แขวงทางหลวงสกลนครที่ 1, แขวงทางหลวงนครพนม และแขวงทางหลวงบึงกาฬ เร่งให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยน้ำท่วม ในพื้นที่จังหวัดสกลนคร ในเบื้องต้นโดยด่วนก่อน

เช่น ขนย้ายสิ่งของ ช่วยเหลือในการแจกน้ำเพื่ออุปโภคบริโภคแก่ประชาชน เส้นทางที่ถูกน้ำตัดขาดได้สั่งการให้ทอดทอดสะพานเบลีย์เพื่อให้รถสามารถสัญจรได้โดยทันที ได้แก่ บริเวณสะพานขาดที่บ้านห้วยทราย อ.เมือง จ.สกลนคร ถนนสกลนคร – อุดรธานี ใน ทล.22 ตอนสูงเนิน – ท่าแร่ ที่ กม.147+700 และ บริเวณ ทางหลวงหมายเลข 223 สกลนคร – นาแก สะพานห้วยตารอด กม.18

หลังจากน้ำลดได้ระดมเจ้าหน้าที่รถบรรทุกน้ำทำความสะอาดบริเวณสี่แยกบ้านธาตุ ตำบลธาตุเชิงชุม อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร รวมทั้งนำรถบรรทุกขนย้ายประชาชนและยานพาหนะในพื้นที่จังหวัดสกลนครทำความสะอาดโรงเรียนเมืองสกลนคร อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร หลังน้ำลด ทำความสะอาดสำนักงานขนส่งจังหวัดสกลนคร อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร รวมถึงบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับความเสียหาย

รวมถึงภารกิจตามบัญชาของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมในการให้กรมทางหลวงนำเครื่องจักรพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่เข้าปฏิบัติการเร่งระบายน้ำออกจากท่าอากาศยานให้สามารถเปิดบริการเที่ยวบินได้ภายในวันที่ 1 สิงหาคม 2560 โดยใช้รถแบคโฮจำนวน5คัน ขุดด้านหัวท่าอากาศยานซึ่งมีพื้นที่สูงให้เป็นรางระบายน้ำขนาดสามเมตรให้ลึกมากที่สุดพอน้ำลดระดับขุดให้ลึกเพิ่มอีกเพื่อให้น้ำระบายออกสู่หนองหารได้เร็วขึ้น ใช้หน่วย Falling Weight Deflectometer (FWD) จากสำนักวิเคราห์และตรวจสอบ กรมทางหลวง เข้าทดสอบพื้นรันย์เวย์สนามบิน

เพื่อทดสอบความแข็งแรงของโครงสร้างทางด้วยน้ำหนักตกกระแทกแล้วตรวจวัดการแอ่นตัวของผิวทาง ในการทดสอบนี้ใช้แรงกระทำ เทียบเท่าแรงดันล้อเครื่องบินที่ใช้งานสนามบิน ทดสอบทุกระยะ 50 เมตร ตามแนว center line และห่างออกมาข้างละ 3 เมตร และ 6 เมตร ซ้ายและขวา ผลการทดสอบค่าการแอ่นตัวของผิวทางเมื่อรับน้ำหนักตกกระแทกแสดงว่าทางวิ่งและทางขับของสนามบินสกลนครมีความแข็งแรงเพียงพอที่จะรองรับการขึ้นลงของเครื่องบินได้อย่างปลอดภัย ระดมชุดล้างทำความสะอาด โดยใช้รถน้ำจำนวน 15 คัน แรงงานประมาณ 60 คน เข้าทำความสะอาดรันเวย์รวมถึงนำเครื่องจักรเร่งปฎิบัติซ่อมแซมถนนทางเข้าท่าอากาศยานสกลนคร

อธิบดีกรมทางหลวงยังกล่าวต่อว่าในการดำเนินงานในครั้งนี้กรมทางหลวงได้ระดมเจ้าหน้าที่และเครื่องจักรประกอบด้วยรถบรรทุกน้ำ รถเครน รถบรรทุกน้ำ รถแบ็คโฮ รถปูยาง รถบรรทุกสิบล้อ รถปิคอัพ จากแขวงทางหลวงใกล้เคียงที่ไม่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม รวมทั้งสิ้น 37 คัน เจ้าหน้าที่ 134 คน

โดยหลังจากนี้จะประเมินผลความเสียหายของถนนตั้งแผนและซ้อมแซมต่อไป สำหรับในพื้นที่อื่นที่คาดว่าจะได้รับมวลน้ำจากจังหวัดสกลนคร เช่นจังหวัดนครพนม จังหวัดกาฬสินธุ์ ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่เตรียมความพร้อมอยู่ตลอดเวลา

สำหรับผลกระทบที่เกิดขึ้นจากพายุเซินกา ของกรมทางหลวงล่าสุดได้สรุปประเภทความเสียหายไว้ 4 ประเภท คือ1.สะพานขาด/สะพานชำรุด (รวมถึงคอสะพานชำรุด/ต่อม่อทรุด) 9 แผนงาน ใช้วงเงิน 104,999,000 บาท

2.ดินสไลด์/คันทางสไลด์ 22 แผนงานใช้วงเงิน 265,085,000 บาท 3.อาคารระบายน้ำชำรุดเสียหาย (ท่อ,BOX Culvert) 72 แผนงานใช้วงเงิน 844,295,000 บาท4.โครงสร้างถนนชำรุด 57 แผนงานใช่วงเงิน 913,699,000 บาท รวมทั้งสิน 160 แผนงาน งบประมาณ 2,128,078,000 บาท (ปัจจุบันสถานการณ์อุทกภัยยังไม่ยุติ ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงภายหลัง)

โดยแบ่งเป็นแผนระยะสั้นและระยะกลาง ระยะสั้น ได้แก่ ลักษณะงานแก้ไขน้ำท่วมในระยะสั้น งานซ่อมแซมเพื่อให้จราจรผ่านได้ ในเบื้องต้นหลังเกิดน้ำท่วม จัดหาทางเลี่ยง ทางลัดทำทางเบี่ยง หรือทอดสะพานเบลีย์ งานระยะกลางได้ได้แก่งานที่บูรณะฟื้นฟูให้คืนสู่สภาพเดิมพร้อมทั้งทำการป้องกันโครงสร้างส่วนต่างๆ เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายลักษณะเดิมอีกในอนาคต ทั้งนี้ประชาชนที่ต้องการสอบถามสภาพเส้นทางการจราจรบนถนนทางหลวงในเขตพื้นที่ประสบอุทกภัย ต้องการความช่วยเหลือ หรือพบเหตุบนทางหลวง เช่น ต้นไม้ล้ม ทางขาด สามารถแจ้งได้ สายด่วนกรมทางหลวง 1586 ทุกวันฟรี ตลอด 24 ชั่วโมง