รองผบ.ตร.เผยกว่า 500 เหยื่อ”เมจิกสกิน”แจ้งความ พรุ่งนี้รู้มีผลิตภัณฑ์ไหนบ้างเอี่ยว

เมื่อเวลา 16.30 น. ที่ห้องประชุมปราศจากศัตรู กองปราบปราม พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผบ.ตร. เรียกประชุมคณะพนักงานสืบสวนสอบคดีการดำเนินการเอาผิดผลิตภัณฑ์ในเครือเมจิกสกิน ทั้งในส่วนของบก.ป. บก.ปคบ.และบก.ปอท. โดยใช้เวลาประชุมนานกว่า 3 ชั่วโมง ภายหลังการประชุม พล.ต.อ.วิระชัย เปิดเผยว่า ในวันนี้ได้เรียกประชุมเพื่อหารือวางแนวทางการสิบสวนสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานการดำเนินคดี ซึ่งในที่ประชุมได้ลงความเห็นในการดำเนินคดีแยกชนิดของแต่ละผลิตภัณฑ์ในเครือเมจิกสกิน ซึ่งมีด้วยกัน 7 ผลิตภัณฑ์ และมีหลายผลิตภัณฑ์ที่กลุ่มผู้ต้องหาได้ไปทำการจด และทางอย.ได้ทำการเพิกถอนประมาณ 226 รายการ อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าถูกต้องตามกฏหมายหรือไม่ ในวันพรุ่งนี้จะเห็นภาพรวมว่าแต่ละผลิตภัณฑ์มีใครบ้างเข้าไปเกี่ยวข้อง ซึ่งแต่เดิมเราทำในภาพรวมเป็นคดีใหญ่ แต่ขณะนี้มีผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความจำนวนมากกว่า 500 ราย และไม่ได้มีเพียงผลิตภัณฑ์ในเครือเมจิกสกินเท่านั้น ยังมีผู้เสียหายที่ได้รับความเสียหายจากผลิตภัณฑ์อื่นๆเข้ามาแจ้งความกับทางพนักงานสอบสวนกองปราบ ซึ่งในส่วนนี้ตนได้สั่งการให้ดำเนินการสืบสวนขยายผลหากพบว่ามีการกระทำความผิด ทั้งในส่วนผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้คุณภาพ เข้าข่ายฉ้อโกงประชาชนก็จะดำเนินคดีในลักษณะเดียวกัน

นอกจากนี้ในที่ประชุมได้วางแนวทางการสืบสวนขยายผลในทุกองศ์ประกอบความผิด ร่วมทั้งผู้ร่วมขบวนการซึ่งเป็นบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดทุกกระบวนการขั้นตอนในการที่จะออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ ก็ถือว่าเข้าข่ายความผิด และหากพบว่าใครมีส่วนเกี่ยวข้องก็จะดำเนินการออกหมายจับเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตามในส่วนการออกหมายเรียกกลุ่มดารานักแสดงล็อตแรก จำนวน 9 ราย ที่มีการรีวิวสินค้า ทางพนักงานสอบสวนกองปราบปรามได้ดำเนินการออกหมายเรียกไปแล้ว ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่าดารานักแสดงคนใดจะเดินทางเข้ามาให้ปากคำ เนื่องจากยังไม่ได้รับการประสานมา โดยคาดว่าหลังจากที่ได้รับหมายเรียก 7 วันจะมีความชัดเจน ทั้งนี้หากไม่เดินทางมาตามกำหนดก็จะออกหมายเรียกเป็นครั้งที่สอง ซึ่งหากไม่เดินทางมาตามหมายเรียกก็จะดำเนินการออกหมายจับทันที

พล.ต.อ.วิระชัย กล่าวว่า ปัจจุบันนี้มีคดีฉ้อโกงประชาชน จำนวนมาก ซึ่งทางรัฐบาลได้ให้ความสนใจโดยเฉพาะกรณีเมจิกสกิน และการหลอกลงทุนในรูปแบบต่างๆ ทั้งคริปโตเคอเรนซี บล็อกเชน และการลงทุนสกุลเงิน หรือทองในออนไลน์ รวมทั้งลงทุนผลิตภัณฑ์ในลักษณะแชร์ลูกโซ่ ซึ่งในวันพรุ่งนี้จะเข้าหารือกับทางธนาคารแห่งประเทศไทยถึงแนวทางแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยยกกรณีการเอาผิดกับกลุ่มผู้ต้องหาในคดียูฟันมาเป็นต้นแบบ เพื่อที่จะแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างเป็นรูปธรรม

 

ที่มา มติชนออนไลน์