12ส.จ.อุบลฯ ยอมรับผิดวอนเห็นใจไม่มีเจตนา หลังผวจ. แจ้งความฐาน ” แจ้งความอันเป็นเท็จ”

12 ส.จ.อุบลฯ ยอมรับผิด !!! วอนขอความเห็นใจไม่มีเจตนา กรณีถูกผวจ.อุบลฯ แจ้งความ ที่ ส.ภ.เมืองอุบลฯ เพื่อดำเนินคดีในความผิดฐาน แจ้งความอันเป็นเท็จ เกี่ยวกับความผิดอาญา โดยรู้ว่ามิได้มีการกระทำความผิดเกิดขึ้น และการนั้น เป็นการแกล้งให้บุคคลต้องรับโทษ หรือรับโทษหนักขึ้น การหมิ่นประมาท และซ่องโจร ทำให้ได้รับความเสียหาย ทั้งในฐานะส่วนตัวและในฐานะตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด,ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมออกหมายเรียก 12 ส.อบจ. มารับทราบข้อกล่าวหา,อดีตฝ่ายบริหาร อบจ.จี้ให้ร้อง ผวจ.สอบสวนจริยธรรมและให้ตั้งญัตติขับออกจากสมาชิกภาพเพราะประพฤตินำมาซึ่งความเสื่อมเสียต่อสภา

เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากกรณีนายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ได้แจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีกับสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลฯจำนวน 12 คนประกอบด้วย 1.นายเชิดศักดิ์ โภคกุลกานนท์ 2.นายฐิติวัฒน์ โควสุรัตน์ 3.นายประสิทธิ์ อาศัยบุญ 4.นายสุทัศน์ วะสุรีย์ 5.นายสุวทิน ดอกรัก 6. นายณรงค์ บุญญะศรี 7.นายประจักษ์ แสงคำ 8.นายเพรียวสุริยา สายใจ 9.นางพิมพกาญจน์ พลสมัคร 10.นายจรัญ ฟองงาม 11.นายนฤชิต ผ่าโผน 12.นายอำนวย ทุมมากรณ์ ในความผิดฐาน แจ้งความอันเป็นเท็จ เกี่ยวกับความผิดอาญา โดยรู้ว่ามิได้มีการกระทำความผิดเกิดขึ้น และการนั้น เป็นการแกล้งให้บุคคลต้องรับโทษ หรือรับโทษหนักขึ้น การหมิ่นประมาท และซ่องโจร ทำให้ผู้แจ้งได้รับความเสียหาย ทั้งในฐานะส่วนตัวและในฐานะตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดเนื่องจากเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2560 ส.อบจ.ทั้ง 12 คนได้มาแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ ให้ดำเนินคดีกับนายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.อุบลฯ กรณีเป็นผู้ที่ลงนามเห็นชอบร่างข้อบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2559 ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี ในฐานความผิดเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริต ซึ่งจากการตรวจสอบเอกสารที่ลงนาม พบว่านายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดคนปัจจุบัน ไม่ได้ผู้ลงนามเห็นชอบร่างข้อบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2559 ที่มีปัญหาที่ศาลปกครองอุบลราชธานีได้พิพากษาให้เพิกถอนข้อบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2559ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี แต่เป็นนายประทีป กีรติเรขา ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลฯในขณะนั้น

นางพิมพกาญจน์ พลสมัคร ส.อบจ.เขต 2 อ.ม่วงสามสิบ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2560 ศาลปกครองอุบลราชธานีได้ พิพากษาให้เพิกถอนข้อบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2559 ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี ต่อมาเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2560กลุ่ม ส.อบจ.ทั้ง 12 คน ก็ได้เดินทางเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองอุบลฯเพื่อดำเนินคดีกับผู้ลงนามเห็นชอบร่างข้อบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2559 คือ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลฯและนายสุทัศน์ เรืองศรี รักษาการนายก อบจ.ที่ลงนามในประกาศใช้ข้อบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2559 ในความผิดตามมาตรา 157 เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริต

นางพิมพกาญจน์ พลสมัคร ส.อบจ.เขต 2 อ.ม่วงสามสิบ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ก่อนที่กลุ่ม ส.อบจ.ทั้ง 12 คนจะเดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ นายประสิทธิ อาศัยบุญ ส.อบจ.เขต อ.เมือง ได้โทรศัพท์ติดต่อสอบถามไปยังผู้อำนวยการกองกิจการสภา องค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี เพื่อขอทราบข้อมูลว่าผู้ลงนามเห็นชอบร่างข้อบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2559 คือใคร โดยได้รับคำตอบยืนยันจากผู้อำนวยการกองกิจการสภา ของ อบจ.ว่าผู้ลงนามคือนายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานีคนปัจจุบัน จากนั้นกลุ่ม 12 ส.อบจ.ก็จึงได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ ในวันเสาร์ที่ 29 กรกฎาคม 2560 ต่อมาในช่วงเช้าของวันจันทร์ที่ 31 กรกฎาคม 2560 ได้ทำการตรวจสอบเอกสารอย่างละเอียดแล้วพบว่าผู้ลงนามเห็นชอบร่างข้อบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2559 คือนายประทีป กีระติเรขา ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลฯในขณะนั้น ไม่ใช่นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานีคนปัจจุบัน

“ เมื่อทราบว่าเกิดการผิดพลาดขึ้นทางกลุ่ม ส.อบจ. ทั้ง 12 คนได้ติดต่อทางโทรศัพท์กับพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีว่าต้องการขอถอนแจ้งความร้องทุกข์ในส่วนของนายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลฯ เนื่องจากเป็นการแจ้งผู้ว่าราชการจังหวัดผิดคน ก็ได้รับคำตอบจากพนักงานสอบสวนว่าติดให้การเป็นพยานศาลจังหวัดในช่วงเช้าและขอให้มาถอนแจ้งความในช่วงบ่าย แต่ขณะเดียวกัน นายสมศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดก็ได้เดินทางมาแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับกลุ่ม ส.อบจ.ทั้ง 12 คน ซึ่งเรื่องราวที่เกิดขึ้นทางกลุ่ม ส.อบจ.ขอยืนยันด้วยความบริสุทธิ์ใจว่าไม่มีเจตนาที่จะทำให้ท่านผู้ว่าสมศักดิ์ เสียหายแต่อย่างใด พร้อมที่จะขอโทษในความผิดพลาดที่เกิดขึ้น ซึ่งที่ผ่านมากลุ่ม ส.อบจ.ทั้ง 12 คนได้ทำหน้าที่เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของทางราชการ ติดตาม ตรวจสอบการบริหารงบประมาณจัดซื้อจัดจ้างใน อบจ. อุบลราชธานี ซึ่งมีอย่างน้อย 9 โครงการมีเงื่อนงำในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างเอกชนและผลประโยชน์ทับซ้อนทำให้ราชการเกิดความเสียหายรวมเป็นเงิน114,543,916บาท”

ด้าน พ.ต.ท.ปราโมทย์ ชื่นตา รองผู้กำกับสอบสวน สภ.เมืองอุบลราชธานี เปิดเผยว่า เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้สอบปากคำนายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี และรวบรวมพยานหลักฐาน จะใช้เวลาประมาณ 2 อาทิตย์จากนั้นก็ออกหมายเรียก ส.อบจ.ทั้ง 12 คนมารับทราบข้อกล่าวหาเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ซึ่งจาก 3 ข้อกล่าวหาที่รับแจ้งความ ซึ่งมีข้อหาที่ยอมความกันไม่ได้เช่นข้อหาซ่องโจร

รายงานข่าวแจ้งว่ามีความเคลื่อนไหวภายใน อบจ.อุบลฯในการเตรียมการที่จะร้องเรียนถึง นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ให้สอบสวนจริยธรรม ส.อบจ.ทั้ง 12 คน พร้อมขอให้ ผวจ.สั่งการให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานีตั้งญัตติเพื่อขับ ส.อบจ.ทั้ง 12 คนออกจากสมาชิกภาพ เพราะประพฤติตน นำมาซึ่งความเสื่อมเสียต่อ สภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี

 

 


ที่มา มติชนออนไลน์