การเคหะแห่งชาติก้าวไกล วางแผนสร้างคอมเพล็กซ์รวม ประกอบด้วยที่อยู่อาศัย-เนิร์สซิ่งโฮม-อาคารผู้ป่วยติดเตียงอยู่บริเวณเดียวกัน เชื่อสอดรับกับสังคมไทยที่ก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุเต็มตัวในปี 2564
ดร.ธัชพล กาญจนกูล ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ เปิดเผยว่า การเคหะแห่งชาติกำลังวางแผนโครงการที่อยู่อาศัยแบบใหม่ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้สูงอายุได้อย่างสอดคล้องกับสังคมไทย โดยในโครงการจะประกอบด้วยอาคารที่อยู่อาศัย อาคารเนิร์สซิ่งโฮม และอาคารสำหรับผู้ป่วยติดเตียง
- อย. เตือนอย่าซื้อผลิตภัณฑ์ CDS มาทาน อันตรายถึงชีวิต
- ดัน “เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” จับตาย้าย “ท่าเรือคลองเตย”
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
“เป็นคอมเพล็กซ์ที่มีองค์ประกอบ 3 ส่วน ซึ่งจะต่อยอดจากโครงการที่การเคหะแห่งชาติดำเนินการอยู่แล้ว เช่น โครงการบ้านผู้สูงอายุ ซึ่งไม่มี 2 ส่วนหลัง แต่เชื่อว่าน่าจะตอบสนองความต้องการของสังคมไทยที่กำลังก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุเต็มตัวในปี 2564 ซึ่งจะมีสัดส่วนประชากรผู้สูงอายุมากถึง 20%”
ดร.ธัชพลกล่าวว่า ปัญหาของผู้สูงอายุไทย นอกจากที่อยู่อาศัยไม่ตอบโจทย์ความสะดวกสบายแล้ว การดูแลเมื่อเจ็บป่วยหรือกระทั่งในลักษณะป่วยติดเตียงยังเป็นปัญหาหนัก ทั้งเรื่องผู้ดูแลและฐานะทางการเงิน
“ไปนอนติดเตียงในโรงพยาบาลเอกชน ค่าใช้จ่ายสูงแล้ว ลูกหลานที่คอยดูแลต้องเทียวไปเทียวมา เสียเวลามาก แต่ถ้ามีเนิร์สซิ่งโฮมในโครงการรองรับผู้ป่วยสูงอายุไปก่อน จนเมื่อมีสภาพเป็นผู้ป่วยติดเตียงก็ย้ายไปอยู่อาคารใกล้เคียง โดยลูกหลานเยี่ยมได้สะดวก เพราะอยู่ใกล้กับที่อยู่อาศัย หรือกรณีผู้สูงอายุอยู่คนเดียวก็มีคนดูแล แทนที่อยู่แบบอนาถาคนเดียวในห้อง หรืออาจเสียชีวิตอยู่เพียงลำพัง” ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติกล่าว