
กรมอุตุฯเตือน เตรียมรับมือฝนตกเพิ่มขึ้นและกลับมาตกตามฤดูกาล ตั้งแต่ 21 มิ.ย. 67 นี้ เป็นต้นไป เหตุมี 4 ปัจจุยหนุน ทั้งมรสุม ร่องมรสุม และหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง หรือมีพายุเข้า ระบุชัดช่วง 21-25 มิ.ย.นี้ หลายพื้นที่รวมกทม.และปริมณฑลมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-80 ของพื้นที่ ขอให้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม เสี่ยงเกิดน้ำท่วมฉับพลัน เรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง
วันที่ 19 มิถุนายน 2567 กรมอุตุนิยมวิทยา โพสต์ในเพจของกรมอุตุนิยมวิทยา โดยอธิบายถึงเหตุผลว่า แม้จะเข้าฤดูฝนหรือหน้าฝนแล้ว ตั้งแต่วันที่ 25 พฤษภาคม 2567 ที่ผ่านมา แต่ทำไมฝนยังน้อย ทั้งๆที่รอบๆประเทศไทยมีเมฆเป็นจำนวนมาก แต่ไม่ถูกพัดพาเข้าประเทศไทย ทำให่ฝนบริเวณตอนกลางของประเทศฝนน้อย
กรมอุตุฯอธิบายสาเหตว่า เหตุที่ก่อนหน้านี้มีฝนน้อย เนื่องมาจากความสูงต่ำของภูมิประเทศ แม้ว่าภายหลังจากที่ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูฝน (20/5/67) เป็นต้นมา มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ (ลมฝน) ที่พัดปกคลุมประเทศไทย มีกำลังปานกลาง ถึงค่อนข้างแรง พัดสลับกันแต่ส่วนใหญ่กำลังของมรสุมช่วงต้นฤดู มีกำลังค่อนข้างแรง พัดนำความชื้นจากทะเลอันดามันมาปะทะแนวเทือกเขาด้านตะวันตกบริเวณภาคเหนือ ภาคกลาง
ทำให้ฝนส่วนใหญ่ตกด้านหน้าเขาตามแนวชายแดนประเทศเมียนมา ด้านหลังเขาจึงเป็นเขตอับฝน หากมรสุมมีกำลังแรง ก็จะพัดนำเมฆฝนข้ามผ่านไปตกทางด้านตะวันออกของภาคอีสาน มีบางส่วนที่ปะทะแนวเทิอกเขาเพชรบูรณ์ และแนวเขาใหญ่ ดังนั้นบริเวณภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง กทม.และปริมณฑล จึงมีฝนตกน้อย
นอกจากนี้ในช่วงเดือน มิ.ย.-ต้น ก.ค.ของทุกปี จะมีภาวะฝนทิ้งช่วงหรือเป็นช่วงที่มีภาวะฝนน้อย เนื่องมาจากในระยะนี้มักจะมีลิ่มความกดอากาศสูงจากซีกโลกใต้แผ่ขึ้นมาสูงและดันร่องมรสุมให้เลื่อนขึ้นไปพาดผ่านบริเวณประเทศจีนตอนใต้และเวียดนามตอนบน ทำให้อากาศบริเวณประเทศไทยมีความชื้นน้อยลง โอกาสจะก่อตัวเป็นเมฆและฝน น้อยลงด้วย การกระจายของฝนในระยะนี้จึงไม่สม่ำเสมอ ฝนตกบางจุดบางพื้นที่ บางพื้นที่มีฝนตกหนัก บางพื้นที่ไม่มีฝนตกเลย
อย่างไรก็ตามตั้งแต่ 21 มิ.ย. 2567 เป็นต้นไป ฝนจะเพิ่มขึ้นและเริ่มกลับมาตกตามฤดูกาล โดยมีปัจจัยที่ทำให้ฝนเพิ่มขึ้นคือ มรสุม ร่องมรสุม และหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง หรือมีพายุ

ทั้งนี้กรมอุตุฯคาดหมายอากาศทั่วไป ระหว่างวันที่ 19 – 25 มิถุนายน 2567 ว่า ในช่วงวันที่ 19 – 20 มิ.ย. 67 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบนและอ่าวตังเกี๋ย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคตะวันออกและภาคใต้ฝั่งตะวันตก สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 21 – 25 มิ.ย. 67 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับจะมีร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบนและอ่าวตังเกี๋ย
ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคใต้ฝั่งตะวันตก
สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2 – 3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ข้อควรระวัง
ในช่วงวันที่ 21 – 25 มิ.ย. 67 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ส่วนชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย สำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนควรงดจากฝั่ง

คาดหมายอากาศรายภาค ระหว่างวันที่ 19 – 25 มิ.ย. 2567
ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 19 – 21 มิ.ย. 67 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 – 40 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 – 20 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 22 – 25 มิ.ย. 67 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 – 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 – 25 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 23 – 28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 – 37 องศาเซลเซียส
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 19 – 21 มิ.ย. 67 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 – 40 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 – 20 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 22 – 25 มิ.ย. 67 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 – 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 – 25 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 23 – 28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32 – 38 องศาเซลเซียส
ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 19 – 21 มิ.ย. 67 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 – 40 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 – 20 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 22 – 25 มิ.ย. 67 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 – 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 – 25 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 23 – 28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 – 38 องศาเซลเซียส
ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 19 – 20 มิ.ย. 67 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 – 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15 – 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 21 – 25 มิ.ย. 67 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 – 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20 – 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 24 – 29 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 – 38 องศาเซลเซียส
ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)
ในช่วงวันที่ 19 – 20 มิ.ย. 67 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 – 40 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15 – 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 21 – 25 มิ.ย. 67 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 – 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ขึ้นมา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20 – 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ห่างฝั่งและบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราช ลงไป ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15 – 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร ห่างฝั่งและบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23 – 28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32 – 38 องศาเซลเซียส
ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)
ในช่วงวันที่ 19 – 20 มิ.ย. 67 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 – 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
ตั้งแต่จังหวัดภูเก็ต ขึ้นมา : ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15 – 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ตั้งแต่จังหวัดกระบี่ ลงไป : ลมตะวันตกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15–30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 21 – 25 มิ.ย. 67 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 – 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง
ตั้งแต่จังหวัดภูเก็ต ขึ้นมา: ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20 – 40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2 – 3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร
ตั้งแต่จังหวัดกระบี่ ลงไป: ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20 – 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23 – 29 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 – 36 องศาเซลเซียส
กรุงเทพและปริมณฑล
ในช่วงวันที่ 19 – 21 มิ.ย. 67 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 – 40 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 – 20 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 22 – 25 มิ.ย. 67 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 – 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10 – 25 กม./ชม. อุณหภูมิต่ำสุด 25 – 29 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32 – 38 องศาเซลเซียส (ออกประกาศ 19 มิถุนายน 2567)
