
ในภาพรวมประเทศไทยจะมีปริมาณฝนเพิ่มมากขึ้นกว่าปีปรกติประมาณร้อยละ 10-20
วันที่ 10 สิงหาคม 2567 นายชวลิต จันทรรัตน์ กรรมการและผู้เชี่ยวชาญเรื่องน้ำ บริษัททีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์ แมเนจเมนท์ หรือ ทีมกรุ๊ป(TEAM GROUP) กล่าวว่า
ในช่วงวันที่ 9 ถึง 16 สิงหาคม นี้ ยังไม่มีการก่อตัวของ “พายุจร” ที่จะมีโอกาสที่จะเคลื่อนที่เข้ามามีอิทธิพลส่งผลกระทบโดยตรงกับประเทศไืทย
แต่ปริมาณฝนที่ตกเพิ่มขึ้นในขณะนี้เป็นอิทธิพลของการเกิดปรากฏการณ์ลานีญ่า หรือ ฝนมากน้ำมาก ที่เริ่มส่งผลกระทบอย่างเด่นชัดตั้งแต่เดือนสิงหาคมเป็นต้นไป โดยในภาพรวมมีปริมาณฝนเพิ่มมากขึ้นกว่าปีปกติประมาณร้อยละ 10 ถึง ร้อยละ 20
ดังนั้นในภาพรวมจึงต้องติดตามอย่างใกล้ชิดว่า ตั้งแต่กลางเดือนสิงหาคมเป็นต้นไปว่า จะมีความเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ที่จะมามีผลต่อประเทศไทยอย่างไร
“ในกลางเดือนสิงหาคมคาดว่า ร่องความกดอากาศต่ำจะเลื่อนต่ำลงมาพาดผ่านภาคเหนือตอนล่างและภาคอีสานตอนบนจะทำให้มีฝนตกมากขึ้นในพื้นที่ตามแนวร่องความกดอากาศต่ำ”
ส่วนการเกิดพายุไต้ฝุ่นลูกที่ 5 ของปีนี้คือ พายุไต้ฝุ่นมาเรีย (#05:Maria=หญิงชนพื้นเมืองของเกาะกวม) ซึ่งได้ก่อตัวขึ้นในมหาสมุทรแปซิฟิก เคลื่อนตัวอยู่ในทะเลทางตะวันออกของญี่ปุ่น
ในระหว่างวันที่ 11-12 ส.ค จะทำให้มีฝนตกหนักในพื้นทะเลทางตะวันออกของญี่ปุ่นและพื้นที่ตอนเหนือของญี่ปุ่นในจังหวัดอาโอโมริ และฮอกไกโดและพื้นที่ใกล้เคียง
วันที่ 16 ส.ค. มีฝนตกหนักในพื้นที่นารา นาโงญ่า โตเกียว และ พื้นที่ใกล้เคียง วันที่ 17 ส.ค. ฟูกุชิมา เซนไดและพื้นที่ใกล้เคียง.วันที่ 18 ส.ค. อาโอโมริและฮอกไกโดและพื้นที่ใกล้เคียง
นอกจากนี้ยังมีแนวโน้มว่า จะเกิดพายุโซนร้อนอีกลูก จะทำให้เกิดฝนตกหนักในพื้นที่ชายฝั่งตะวันออกของเกาะญี่ปุ่น