สธ.เปิดข้อมูล ผู้ป่วยต้องสงสัย ฝีดาษลิง Clade 1B คาดรู้ผล 23 ส.ค.นี้

กรมควบคุมโรค เปิดข้อมูลผู้ป่วยต้องสงสัยโรคฝีดาษลิง สายพันธุ์ Clade 1B ชาวต่างชาติ เดินทางจากประเทศต้นทางที่พบการระบาดในทวีปแอฟริกา พบผู้สัมผัสใกล้ชิด 43 ราย คาดรู้ผล 23 สิงหาคมนี้ ติดเชื้อสายพันธุ์ Clade 1B หรือไม่

วันที่ 21 สิงหาคม 2567 นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า มีการพบผู้ป่วยต้องสงสัยเป็นโรคฝีดาษลิง สายพันธุ์รุนแรง Clade 1B ที่ระบาดในทวีปแอฟริกา ซึ่งยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าใช่หรือไม่ แต่เชื่อว่าเป็นการติดเชื้อฝีดาษลิง

ผู้ป่วยรายดังกล่าวเป็นผู้ป่วยชาย ชาวยุโรป อายุ 66 ปี เดินทางเข้ามาที่ประเทศไทย วันที่ 14 สิงหาคม 2567 เวลา 18.00 น. พบประวัติเดินทางมาจากประเทศในทวีปแอฟริกา ซึ่งพบการระบาดสายพันธุ์ Clade 1B โดยเดินทางต่อเครื่องบินที่ประเทศในแถบตะวันออกกลาง ก่อนเข้าสู่ประเทศไทย

จากนั้นช่วงเช้าวันที่ 15 สิงหาคม ผู้ป่วยมีอาการไข้ มีตุ่มขึ้นเล็กน้อย จึงไปโรงพยาบาล เมื่อมีการซักประวัติ พบว่าต้องสงสัยเป็นโรคฝีดาษลิง จึงตรวจหาสายพันธุ์ของเชื้อทั้ง 2 ชนิด คือสายพันธุ์ที่ Clade 2 และสายพันธุ์ Clade 1B ผลตรวจเชื้อพบว่าสายพันธุ์ที่ 2 ไม่พบเชื้อ แต่สายพันธุ์ 1B ไม่ชัดเจน จึงต้องมีการตรวจสอบยีนอีกครั้ง ว่าเป็นการติดเชื้อฝีดาษลิงสายพันธุ์ 1B หรือไม่

ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจยืนยันสายพันธุ์ซ้ำอีกครั้ง ด้วยการนำยีนไปตรวจ RT-PCR คาดว่าวันที่ 23 สิงหาคมจะทราบผลที่ชัดเจน

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ผู้ป่วยไม่มีภาวะหรือโรคแทรกซ้อนอะไร และอาการป่วยก็ไม่รุนแรง ถือว่าผู้ป่วยไปพบแพทย์เร็ว ทำให้มีช่วงเวลาที่สัมผัสกับผู้อื่นไม่มาก

“แม้ผลการตรวจผู้ป่วยยังไม่ 100% แต่ในการควบคุมป้องกันโรค การรับรู้ข้อมูลข่าว จึงต้องรีบมาแจ้งประชาชน เพราะถ้าเริ่มมีข้อมูลออกไปแล้ว คนไปหาข่าวกันเองก็จะไปกันใหญ่” นพ.ธงชัยกล่าว

สำหรับผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยจะเริ่มตั้งแต่ช่วงวันที่ 13 สิงหาคม ระหว่างอยู่บนเครื่องบิน โดยผู้โดยสารแถวที่ใกล้ชิด 2 แถวหน้าและหลัง รวมถึงผู้สัมผัสใกล้ชิดรวม 43 ราย ขณะนี้มีรายชื่อหมดแล้ว

ทางทีมสอบสวนโรคจึงประสานไปให้ผู้สัมผัสใกล้ชิดเฝ้าระวังตนเองหากพบอาการป่วยให้รีบไปพบแพทย์ แต่กลุ่มนี้ก็ไม่ได้ถึงขั้นว่าจะต้องกักตัวเหมือนกับช่วงการระบาดโควิด-19 เพราะการติดเชื้อฝีดาษวานรนั้น จะแพร่เชื้อได้ก็ต่อเมื่อเริ่มมีอาการแล้ว

​