
เปิดเผยโฉมใหม่ รถโดยสาร BRT ใช้พลังงานไฟฟ้า (EV) ตามสัญญาใหม่ กทม. เตรียมความพร้อมก่อนให้บริการ ตั้งแต่ 1 กันยายนนี้
หลังจากสำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) กรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดให้เอกชนยื่นซองประมูลโครงการพัฒนาระบบการเดินรถด่วนพิเศษ (BRT) สายสาทร-ราชพฤกษ์ และได้ประกาศผู้ชนะการประมูล คือ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (บีทีเอสซี) โดยมีระยะสัญญาจ้าง 5 ปี
ขณะเดียวกัน BTSC ซึ่งเป็นผู้ชนะการประมูลครั้งนี้ จะต้องเตรียมความพร้อม และจัดหารถยนต์ เพื่อให้บริการแก่ประชาชน โดยกำหนดระยะเวลาไว้ที่ 4 เดือน นับถัดจากวันลงนามในสัญญา
ล่าสุด BTSC มีการเปิดเผยโฉมใหม่ของรถโดยสาร BRT โดยระบุผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจว่า บีทีเอส นำรถโดยสารบีอาร์ทีโฉมใหม่ มาทดสอบการเดินรถ แบบไม่รับ-ส่งผู้โดยสาร โดยการทดสอบการเดินรถ จะเป็นการทดสอบจอดรถ เพื่อรับ-ส่ง นอกจากนี้ยังมีการทดสอบระบบต่าง ๆ เช่น การชาร์จไฟ และอุปกรณ์ความปลอดภัย เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนให้บริการ 1 กันยายน 2567 นี้
ขณะที่รายละเอียดการชำระค่าโดยสาร รถโดยสาร BRT เบื้องต้น BTS เปิดเผยว่า สามารถชำระด้วยบัตรแรบบิท หรือสแกนคิวอาร์โค้ดผ่านโทรศัพท์มือถือ เพื่อขึ้นโดยสารรถบีอาร์ที โดยที่สถานีจะไม่มีช่องทางการจำหน่ายบัตรโดยสาร
ก่อนหน้านี้ บริษัท เชิดชัย คอร์ปอเรชั่น จำกัด เปิดเผยภาพรถโดยสาร BRT โฉมใหม่ ผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจ พร้อมกับให้ข้อมูลว่า “ได้ประกอบตัวถังรถเมล์ไฟฟ้า BRT เป็นรถแบบชานต่ำ จำนวน 30 ที่นั่ง มีประตูทางเข้า-ออก บริเวณกลางรถ ทั้ง 2 ฝั่งพร้อมทางขึ้นคนพิการ และมีประตูทางเข้า-ออกด้านหน้าอีก 1 ประตู”
“ประชาชาติธุรกิจ” เคยนำเสนอก่อนหน้านี้ เกี่ยวกับรายละเอียดการปรับเปลี่ยนรถโดยสาร BRT รูปแบบใหม่ โดยระบุว่า ผู้รับจ้างจะต้องจัดหารถโดยสารในการให้บริการเดินรถโดยสารในโครงการให้เพียงพอต่อปริมาณและความต้องการเดินทาง โดยต้องผลิตขึ้นใหม่ไม่เคยผ่านการใช้งานมาก่อน ต้องไม่เป็นรถที่นำมาดัดแปลง ตัดปะตัวถังในภายหลัง และผลิตขึ้นในประเทศไทย
สำหรับคุณสมบัติหลักของรถโดยสาร BRT รุ่นใหม่ที่กำหนดไว้ มีดังนี้
- รถโดยสารปรับอากาศขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า (EV) ให้เพียงพอกับการให้บริการจำนวนไม่น้อยกว่า 23 คัน
- มีระบบการชาร์จ/เครื่องชาร์จไฟที่มีการใช้งานกันแพร่หลาย
- แบตเตอรี่มีขนาดความจุไม่น้อยกว่า 150 kWh ชนิด Lithium Iron Phosphate หรือเทียบเท่าหรือดีกว่า
- โครงสร้างตัวถังชุบเคลือบผิวด้วยระบบไฟฟ้า (EDP)
- ขนาดความยาวรถโดยสาร 10-12 เมตร รัศมีวงเลี้ยวไม่เกิน 12.5 เมตร
- จำนวนที่นั่งผู้โดยสารไม่น้อยกว่า 24 ที่นั่ง สามารถปรับเปลี่ยนขนาดรถโดยสาร โดยจะต้องคงความสามารถในการให้บริการตามจำนวนคนต่อชั่วโมงต่อทิศทาง (PPHPD) ได้ตามที่กำหนดไว้
- มีพื้นที่รองรับรถเข็นผู้พิการ (Wheelchair)
- พื้นที่ทางเข้า-ออก และตัวรถโดยสารเป็นรูปแบบชานต่ำ (Low Floor) (ความสูง 25-30 เซนติเมตร จากระดับพื้นถนน)
- มีประตูทางเข้า-ออกทั้งทางด้านฝั่งซ้ายและขวาของตัวรถโดยสาร ประตูทางเข้า-ออกหลักความกว้าง 1.4 เมตร (สามารถปรับลดขนาดได้แต่ไม่น้อยกว่า 1.2 เมตร)
- ติดตั้งอุปกรณ์ความปลอดภัยตามมาตรฐานของกรมการขนส่งทางบก และระบบกล้องวงจรปิด CCTV อย่างน้อย 5 ตัว (กล้อง CCTV อย่างน้อย 2 ตัว จับภาพบริเวณเครื่องจัดเก็บค่าโดยสาร)
- ติดตั้งระบบ GPS และระบบตรวจสอบข้อมูลตำแหน่งรถโดยสาร (ส่งสัญญาณข้อมูลทุก ๆ 15 วินาทีหรือน้อยกว่า) พร้อมระบบการทำงานเป็นไปตามประกาศกรมการขนส่งทางบกกำหนด
- เป็นไปตามมาตรฐานกันน้ำและฝุ่น IP67 และสามารถเดินรถได้หากมีน้ำท่วมขังที่ระดับความสูงไม่เกิน 30 เซนติเมตร
- ป้ายแสดงข้อมูลหมายเลข และเส้นทางเดินรถด้านหน้ารถโดยสาร (ชนิดปรับเปลี่ยนได้)
- ระบบปรับอากาศมีขนาด 100,000-130,000 BTU
ทั้งนี้ รถ BRT รูปแบบใหม่นั้น ผู้รับจ้างจะต้องเสนอรูปแบบและคุณสมบัติของรถโดยสารให้กรุงเทพมหานครพิจารณาเห็นชอบก่อนเริ่มดำเนินการ
นอกจากนี้ กทม.จะต้องปรับปรุงสถานีโดยสาร MRT ใหม่ โดยทำทางลาดชานชาลาเพื่อรองรับรถโดยสารรุ่นใหม่ ที่ออกแบบเป็นชานต่ำ และเพื่อให้ผู้โดยสารขึ้นลงรถได้สะดวกและปลอดภัย และการปรับเส้นทางสามารถออกไปรับส่งผู้โดยสารที่ป้ายรถประจำทางได้ด้วยนั้น กทม.จะต้องขออนุญาตกรมการขนส่งทางบกในการเปลี่ยนแปลงแก้ไขเส้นทางเดินรถ