ผู้ว่าฯประจวบฯตั้งกรรมการรื้อกฎหมาย หาช่องสั่งปิด 10 โรงแรมเถื่อนหัวหิน

วันที่ 24 พฤษภาคม นายพัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองจังหวัดแจ้งความดำเนินคดีอาญากับโรงแรม 10 แห่ง ที่ อ.หัวหิน ข้อหาปลอมแปลงเอกสารของทางราชการ ใช้เอกสารราชการเป็นเท็จ และเปิดโรงแรมโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.โรงแรม 2547 เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคมที่ผ่านมา แต่พบว่าโรงแรมทุกแห่งยังเปิดให้บริการรับลูกค้าตามปกติ เนื่องจากทางราชการมีปัญหาในการบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อสั่งปิดกิจการ ล่าสุดได้แต่งตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ประกอบด้วยรองผู้ว่าราชการจังหวัด อัยการจังหวัด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด ปลัดจังหวัด นายอำเภอหัวหิน ผู้บริหารเทศบาลเมืองหัวหิน และหน่วยที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อสรุปหาแนวทางในการออกคำสั่งปิดกิจการโรงแรมทั้ง 10 แห่ง และขอยืนยันว่าใบอนุญาตทั้งหมดทางราชการไม่ได้ออกให้ตาม พ.ร.บ.โรงแรม 2547 และเชื่อว่าการพิสูจน์ข้อเท็จจริงใช้เวลาไม่นาน

“เทศบาลหัวหินและองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) หินเหล็กไฟ สามารถใช้สั่งระงับการใช้อาคารโรงแรมได้เนื่องจากพบว่ามีการใช้อาคารผิดประเภท ที่ผ่านมาไม่ได้ยื่นขอเปลี่ยนแปลงการใช้อาคารจากที่พักอาศัยเป็นโรงแรม และได้กำชับให้เทศบาลและ อบต.ทุกแห่งตรวจสอบการใช้อาคารที่พักอาศัยที่นำไปประกอบกิการโรงแรม หากพบว่าใช้ผิดประเภทให้สั่งระงับใช้อาคารทันที ซึ่งยอมรับว่าเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นในอดีต“ นายพัลลภ กล่าว

มีรายงานว่า คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงระดับจังหวัดได้รายงานถึงกระทรวงมหาดไทยกรณี 10 โรงแรมเถื่อนใช้ใบอนุญาตปลอม ปรากฏลายมือชื่อของอดีตรองผู้ว่าราชการจังหวัดรายหนึ่งที่เกษียณอายุราชการเมื่อปี 2558 เป็นผู้ลงนาม มีการดำเนินการทางวินัยร้ายแรงกับผู้เกี่ยวข้อง 4 ราย จากนั้นได้แจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ให้ดำเนินคดีอาญาในข้อหาร่วมกันปลอมแปลงเอกสารของทางราชการ กับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในปี 2557 – 2558 ประกอบด้วย อดีตปลัดอำเภอหัวหิน ปัจจุบันย้ายไปทำหน้าที่ปลัดอำเภออาวุโสในจังหวัดภาคกลาง เสมียนตราอำเภอหัวหิน อดีตปลัดฝ่ายปกครองที่ทำการปกครองจังหวัด ปัจจุบันโอนไปรับราชการที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) และพนักงานราชการหญิงรายหนึ่ง เจ้าหน้าที่พิมพ์เอกสาร ปัจจุบันปฏิบัติหน้าที่ที่ทำการปกครองจังหวัดให้การซัดทอดผู้ร่วมขบวนการทั้งหมด

ด้านนายอุดม ศรีมหาโชตะ กรรมการบริหารสมาคมโรงแรมไทย เจ้าของโรงแรมหนึ่งในพื้นที่ อ.หัวหิน กล่าวว่า หลังจากเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ประกอบกิจกรรมโรงแรม 10 แห่งในพื้นที่ อ.หัวหิน พบว่าโรงแรมทุกแห่งยังเปิดให้บริการรับลูกค้าตามปกติ เนื่องจากทางราชการมีปัญหาในการบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง ล่าสุดผู้ประกอบการได้เรียกร้องให้ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว (รอง ผบช.ทท.) ให้ความสนใจปราบโรงแรมเถื่อนที่หัวหิน เช่นเดียวกับ จ.ภูเก็ตและเมืองพัทยา เพื่อไม่ให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้รับผลกระทบจากการการประกอบกิจการที่เข้าข่ายผิดกฎหมายและป้องกันปัญหาด้านความมั่นคงกรณีชาวต่างชาติบางกลุ่มลักลอบเข้าพักในโรงแรมเถื่อน

นายอุดมกล่าวว่า ขณะนี้มีการจองห้องพักโรงแรมในพื้นที่ อ.หัวหิน ผ่านระบบ Online Travel Agent หรือ OTA ผ่านเว็บไซต์ระดับโลกที่ได้รับความนิยมจากชาวต่างชาติ พบว่ามีการขายห้องพักในโรงแรมเถื่อนจำนวนมาก ขณะที่ อ.หัวหินมีโรงแรมที่ได้รับใบอนุญาตเพียง 197 แห่ง แต่ประกาศให้จองในบางเว็บไซต์มากถึง 699 แห่ง ที่ผ่านมาสมาคมโรงแรมไทยได้ผลักดันให้หน่วยงานรัฐออกกฎหมายเพื่อควบคุมการโฆษณาขายห้องพักในระบบ OTA นานหลายปี แต่ไม่มีความคืบหน้า นอกจากจะมีบางหน่วยงานหาแนวทางเก็บภาษีกับระบบ OTA แต่ไม่สนใจการออกกฏหมายไม่ให้มีการขายห้องพักรายวันที่ไม่มีใบอนุญาต โดยกำหนดให้ผู้ประกอบการ OTA ต้องแจ้งเลขที่ใบอนุญาตในการโฆษณาขายห้องพักของโรงแรมในทุกสื่อ เช่นเดียวการคุมเข้มขายอาหารเสริมที่ระบุหมายเลข อย. เพื่อให้นักท่องเที่ยวรับทราบว่าโรงแรมใดมีใบอนุญาตที่ถูกกฎหมาย มีความมั่นใจในการใช้บริการจากมาตรฐานความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน

 

ที่มา : มติชนออนไลน์