อัพเวล รถ เรือ เครื่องบิน ตัวช่วยดูดเม็ดเงิน “สมุย” แลนด์มาร์กโลก

อัพเวล รถ เรือ เครื่องบิน ตัวช่วยดูดเม็ดเงิน 'สมุย' แลนด์มาร์คโลก

เปิดแผนพัฒนาโครงข่ายคมนาคมสู่เกาะสมุย ขยายประตูการท่องเที่ยว ตัวช่วยดึงเม็ดเงินเข้าเศรษฐกิจไทย

เกาะสมุยมันมีอะไรที่ทำให้คนนั้นต้องติดใจ ! เดินทางมาเยียมเยือนปีละหลายล้านคน ปี 2566 เกาะสมุยมีนักท่องเที่ยว 3.5 ล้านคน แบ่งเป็นนักท่องเที่ยวคนไทยและชาวต่างชาติ สัดส่วนครึ่ง ๆ สร้างเม็ดเงินมูลค่ามหาศาล 6.08 หมื่นล้านบาท มีการคำนวณการใช้จ่ายต่อทริปนักท่องเที่ยวต่างชาติ 25,739 บาทต่อหัว คนไทย 14,140 บาทต่อหัว

ฉะนั้นแหล่งท่องเที่ยวบนเกาะที่ขนาดใหญ่อันดับ 2 ของประเทศ รองจากเกาะภูเก็ต จึงเป็นอีกแผนจุดเช็กอินการสร้างเม็ดเงินภาคท่องเที่ยวเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ตามกลยุทธ์รัฐบาลพรรคเพื่อไทย แต่กว่าจะถึงขั้นนั้นต้องปั้นองค์ประกอบให้พร้อมรองรับ หนึ่งในนั้นคือการเชื่อมระบบโครงข่ายคมนาคม

23-25 สิงหาคม 2567 เจ้ากระทรวงคมนาคม สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการ ขนคณะผู้บริหารกระทรวง มนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการ ในฐานะกำกับดูแลกรมเจ้าท่า (จท.), ชยธรรม์ พรหมศร ปลัดคมนาคม และว่าที่อธิบดีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท กรมเจ้าท่า

เพื่อไปติดตามความก้าวหน้าการพัฒนาระบบการเดินทางบนเกาะสมุย หลังก่อนหน้านี้ 7 เมษายน อดีตนายกฯเศรษฐา ทวีสิน เคยขนคณะไปดูพื้นที่จริง แม้ครั้งนี้เปลี่ยนนาย แต่ รมต.สุริยะยังสานงานแบบไร้รอยต่อ เดินงานที่อดีตนายกฯสั่งไว้ให้ชัด

ขยายประตูบ้าน ความหวังคนเกาะสมุย

เกาะสมุย เป็นเกาะขนาดใหญ่อันดับสองของประเทศ มีพื้นที่ 2.36 แสนตารางกิโลเมตร ตั้งอยู่จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นอีกแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของไทย จนได้รับสมญานาม “สวรรค์กลางอ่าวไทย” เนื่องจากมีความอุดมสมบูรณ์ทางทรัพยากรทางธรรมชาติ น้ำทะเลใสบริสุทธิ์ หาดทรายขาวสวยงาม รวมถึงเสน่ห์ต้นมะพร้าวที่มีจำนวนมากเรียงรายตามชายหาด จนเป็นที่กล่าวขาน

ADVERTISMENT

แต่ทว่าในที่สวยงามก็มีข้อเสีย การที่เกาะแห่งนี้มีประชากรเกือบ 7 หมื่นคน ไม่นับรวมนักท่องเที่ยวที่หลั่งไหลเข้าไปปีละหลายล้านคน พร้อมกับมีระบบสาธารณูปโภคครบครัน ความเจริญที่เข้าไปนี้ จึงทำให้ระบบที่เคยถูกสร้างบนเกาะมาเนิ่นนาน กลายเป็นปัญหาโดยเพราะการจราจร

ผู้แทนชาวบ้านพื้นที่ พิพิธ รัตนรักษ์ สส.สุราษฎร์ธานี เขต 2 พรรครวมไทยสร้างชาติ ยอมรับว่า แม้ความเจริญบนเกาะจะเพิ่มขึ้น แต่ชาวสมุยกำลังประสบปัญหาการจราจร อยากให้รัฐบาลช่วย เนื่องจากความเจริญของชุมชนที่เพิ่มขึ้น ทำให้ระบบผังเมืองที่ถูกสร้างมานานมีความหนาแน่น โดยเฉพาะตามชุมชนแหล่งท่องเที่ยว

ADVERTISMENT

ฉะนั้นต้องการให้ออกแบบผังเมืองใหม่ หรือพัฒนาระบบโครงข่ายคมนาคมเพื่อแก้ปัญหารถติด เพราะสภาพปัญหาจะทวีคูณช่วงไฮซีซั่น เดือนสิงหาคม จนถึงปลายปี เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามาจำนวนมาก

“อยากได้ระบบคมนาคมที่ดีกว่านี้ เพราะจะเป็นสิ่งสำคัญในการแก้ปัญหาบนเกาะสมุย ถ้าถนนมา สะพานมา ถนนบนเกาะเพิ่มขึ้น ก็จะแก้ปัญหาการจราจรติดขัดบนเกาะได้ แต่เรื่องการออกแบบต้องทำให้ดี ๆ เพื่อการท่องเที่ยวที่ดี” เสียงสะท้อนจาก สส. ผู้แทนชาวเกาะสมุย

ผ่าถนนกลางเกาะ แก้รถติดสมุย

การแก้ปัญหาการจราจรบนเกาะสมุย หลังจากที่ รมต.สุริยะ ประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เบื้องต้นสั่งให้มีการพัฒนาถนนสายรองในชุมชนบนเกาะ เพื่อลดความแออัดของรถยนต์บนถนนรอบเกาะ ที่มีระยะทาง 52 กิโลเมตร

สุริยะเปิดเผยว่า ปัญหารถติดเกาะสมุยเกิดจากจำนวนรถยนต์และโรงแรมที่เพิ่มขึ้น ทำให้การจราจรหนาแน่นโดยเฉพาะตามชุมชน การแก้ปัญหาการจราจรบนถนนรอบเกาะสาย 4169-4170 ระยะ 52 กิโลเมตรนี้ ที่มี 2 ช่องจราจร มีแผนจะทำถนนเชื่อมโยงผ่ากลางเกาะ เชื่อมทิศเหนือ ทิศใต้ ตะวันออก และตะวันตก

ปัจจุบันมีเส้นทางเดิมตามชุมชน เป็นพื้นที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จึงไม่ต้องเวนคืนหรือวางแนวเส้นทางถนนใหม่ ทำให้การดำเนินโครงการทำได้เร็วและใช้งบประมาณไม่มาก เริ่มพัฒนาได้ทันทีหลังผ่านกระบวนการศึกษาผลกระทบที่จะเริ่มปี 2569 เนื่องจากต้องรองบฯศึกษา

ส่วนรูปแบบการพัฒนาถนนผ่ากลางเกาะสมุย เดิมเป็นถนนเลนเดียว หากพัฒนาให้เทียบเท่ามาตรฐานถนนกรมทางหลวงชนบท ต้องขยายเป็น 2 ช่องจราจร ขนาดเลนไป-กลับ 7 เมตร ขอบทางฝั่งละ 2 เมตร รวม 11 เมตร และทำแนวขอบทาง ติดป้ายจราจร เพิ่มสิ่งอำนวยความปลอดภัยต่าง ๆ

จากการศึกษาเบื้องต้น คาดว่าเส้นทางที่มีความเป็นไปได้สามารถดำเนินการได้ก่อน คือพัฒนาถนนแนวจากฝั่งตะวันออก ไปตะวันตกของเกาะสมุย ระยะทางประมาณ 17 กิโลเมตร

ขณะที่โครงการทางพิเศษเชื่อมเกาะสมุย รมว.คมนาคมเปิดเผยว่า อยู่ขั้นตอนการศึกษาของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) แต่จากการทำประชาพิจารณ์ เบื้องต้นได้รับทราบว่าชาวบ้านตอบรับเป็นอย่างดีต้องการให้เกิดโครงการสร้างสะพานจากฝั่งมาเกาะสมุย

แต่ถึงอย่างไรต้องศึกษาเรื่องผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม และประเด็นอื่น ๆ อย่างละเอียด หากไม่ติดปัญหาอะไรก็คาดว่าปี 2570-2571 จะเริ่มกระบวนการสรรหาผู้รับเหมาออกแบบโครงการได้

ท่าเรือสำราญขนาดใหญ่ รับ นทท. 1.8 แสนคน

อีกแผนพัฒนาการท่องเที่ยวบนเกาะสมุย กระทรวงคมนาคม มีโครงการก่อสร้างท่าเทียบเรือสำราญขนาดใหญ่ (Cruise Terminal) บริเวณแหลมหินคม คาดว่าสามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ 1.8 แสนคนต่อปี รองรับเรือสำราญขนาดใหญ่ 120 เที่ยวต่อปี ใช้งบประมาณ 12,172 ล้านบาท

มนพร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะกำกับดูแลกรมเจ้าท่า เปิดเผยความคืบหน้าว่า โครงการนี้จะเป็นโอกาสส่งเสริมการท่องเที่ยวบนเกาะสมุย ด้วยการเข้ามาของเรือสำราญขนาดใหญ่ และการเดินทางด้วยเครื่องบินทะเล (ซีเพลน) ขณะนี้อยู่ขั้นตอนศึกษาความเป็นไปได้ รวมถึงรับฟังเสียงประชาชน

แต่เบื้องต้น กรมเจ้าท่าศึกษาแล้วและนำส่งผลศึกษาให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) เรียบร้อย เชื่อว่าเมื่อรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เริ่มปฏิบัติหน้าที่ น่าจะสั่งการให้สรรหาบุคคลเข้ามาเป็นประธานโครงการเพื่อพิจารณาการร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนในกิจการของรัฐ (โครงการร่วมทุน PPP) ก่อนที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม จะนำเสนอกลับไปให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ความเห็นต่อไป

รมช.คมนาคมคาดว่า การดำเนินการหากเป็นไปตามไทม์ไลน์จะสามารถเปิดบริการได้ปี 2574 บนพื้นที่ 13 ไร่ หลังใช้ระยะเวลาก่อสร้างประมาณ 3 ปี และจะเป็นโครงการที่ช่วยเพิ่มศักยภาพการท่องเที่ยวให้เกาะสมุย เป็นอย่างมาก

อนึ่ง แผนการพัฒนาสนามบินสมุยของเอกชน ที่ปัจจุบันรองรับเส้นทางการบินในและนอกประเทศ 11 เส้นทาง มีเที่ยวบินประมาณ 50 เที่ยวบินต่อวัน แผนพัฒนาอนาคต กำลังจะเพิ่มเป็น 73 เที่ยวบินต่อวัน และจะมีการปรับปรุงสนามบินให้รองรับผู้โดยสารและให้บริการ ภายในระยะเวลา 1-3 ปี เพื่ออำนวยความสะดวกและรองรับนักท่องเที่ยวที่จะมาเยือนเกาะสมุย