แจกเงินสดดิจิทัล 10,000 บาท รีบทำตามขั้นตอน ก่อนไม่ได้สิทธิ ใช้จ่ายซื้อสินค้าอะไรก็ได้
วันที่ 11 กันยายน 2567 โค้งสุดท้ายของการลงทะเบียนรับสิทธิเข้าโครงการเติมเงิน 10,000 บาท หรือดิจิทัลวอลเลต สำหรับประชาชนทั่วไปสามารถลงทะเบียนได้ถึงวันที่ 15 กันยายนนี้เท่านั้น สำหรับคนที่ลงทะเบียนแล้วส่วนใหญ่จะอยู่ในขั้นตอนที่ 3 เพื่อรอยืนยันร่วมรับสิทธิ ซึ่งสามารถตรวจสอบผลการลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 22 กันยายน 2567 เป็นต้นไป
ความคืบหน้าล่าสุด ได้ข้อสรุปว่ารัฐบาลจะแจกเงินสดเข้าบัญชีทันที หลังมติคณะรัฐมนตรีมีมติในวันที่ 17 กันยายน 2567
เงินสดดิจิทัล 10,000 บาท กลุ่มเปราะบางได้ใช้ 20 ก.ย.นี้
พิชัย ชุณหวชิระ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเผยว่า โครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเลตจะเริ่มดำเนินการสำหรับกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและกลุ่มผู้พิการก่อนรวมจำนวน 14.5 ล้านคน โดยคาดว่าจะโอนเงินให้หลังจากวันที่ 20 ก.ย.เป็นต้นไป
“โครงการดิจิทัลวอลเลตอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบไปบ้าง เนื่องจากสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เปลี่ยนไป ทำให้บางอย่างต้องเร่งด่วนขึ้น ส่วนตัวแล้ว ต้องการเห็นการโอนเงินให้ประชาชนกลุ่มแรกภายในเดือน ก.ย.นี้ สำหรับกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการจำนวน 13.5 ล้านคน และผู้พิการอีกจำนวน 2.2 ล้าน จะอยู่ที่ประมาณ 14.5 ล้านคน” พิชัยกล่าว
แนะผู้พิการต่ออายุบัตรประชาชนคนพิการ ไม่เสียสิทธิ
วราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ อย่าลืมต่ออายุบัตรประจำตัวคนพิการ และตรวจสอบบัญชีธนาคารเพื่อรับเบี้ยความพิการ เพื่อไม่ให้พลาดรับเงินจากโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และคนพิการ
เอกสารที่ต้องเตรียม ผู้พิการ ต่ออายุบัตรประชาชนคนพิการ
-บัตรประชาชน
-ทะเบียนบ้าน (ถ้ามี)
-เอกสารรับรองความพิการ
-บัตรประจำตัวคนพิการใบเดิม
-หนังสือสำคัญแสดงการเปลี่ยนชื่อ-สกุล (ถ้ามี)
ปฏิทินจ่ายเบี้ยคนพิการ
กันยายน : วันอังคารที่ 10 กันยายน 2567
ตุลาคม : วันพฤหัสบดีที่ 10 ตุลาคม 2567
พฤศจิกายน : วันศุกร์ที่ 8 พฤศจิกายน 2567
ธันวาคม : วันจันทร์ที่ 9 ธันวาคม 2567
เบี้ยผู้พิการจ่ายตามเกณฑ์อายุ
- ผู้พิการที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี จะได้รับเงิน 1,000 บาทต่อเดือน
- ผู้พิการที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป จะได้รับเงิน 800 บาทต่อเดือน
คุณสมบัติผู้มีสิทธิได้รับเงินเบี้ยความพิการ
- มีสัญชาติไทย
- มีภูมิลำเนาอยู่ในเขตองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามทะเบียนบ้าน
- มีบัตรประจำตัวคนพิการ
- ไม่เป็นบุคคลที่อยู่ในความอุปการะของสถานสงเคราะห์ของรัฐ
หากพบปัญหา หรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับบัตรประจำตัวคนพิการ สามารถติดต่อสอบถามได้ที่กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ โทร. 0-2354-3388 สายด่วน พม. 1300 (บริการ 7 วัน 24 ชั่งโมง)