เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม มีรายงานจากกองบังคับการปราบปราม ถึงความคืบหน้าในคดีเงินทอนวัดและการติดตามตัวพระชั้นผู้ใหญ่ ผู้ต้องหาอีก 2 รายว่า การตรวจสอบเส้นทางการเงินของพระพรหมสิทธิ หรือ ธงชัย สุขญาโณ เจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร ในเบื้องต้นนั้น พบว่ามีการเปิดบัญชีไว้ 2 บัญชี เพื่อรองรับเงินจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ในส่วนของงบประมาณปี 2559 โดยทั้งสองบัญชีมีเงินรวมกันกว่า 70 ล้านบาท โดยบัญชีหนึ่งรับเงินงบประมาณในส่วนของงานส่งเสริมพระพุทธศาสนา อีกบัญชีรับเงินในส่วนของโครงการอบรมคุณธรรมและจริยธรรม เมื่อตรวจสอบแล้วพบว่าเงินดังกล่าวไม่ได้ถูกนำไปใช้ในโครงการที่ทางวัดได้ขออนุมัติไป แต่มีการถ่ายโอนไปยังบัญชีฆราวาสคนสนิทหลายราย ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบ
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า จากการตรวจค้นภายในวัดสระเกศวันแรก เจ้าหน้าที่ได้พบเบาะแสบางอย่างที่เชื่อว่า พระพรหมสิทธิ ยังอยู่ภายในกุฏิ จึงได้ทำการเข้าค้นอีกครั้งเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคมที่ผ่านมา และยังเชื่อว่ามีภายในวัดมีกุฏิลับ ซึ่งอยู่ระหว่างค้นหากุฏิดังกล่าว
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- พบรอยร้าวบ่อฝังกลบกากแคดเมียมของ เบาด์ แอนด์ บียอนด์
- เปิดไทม์ไลน์ลูกค้าซิตี้แบงก์ต้องรู้! ก่อนโอนย้ายบัญชีมาเป็น “ยูโอบี” 21 เม.ย.นี้
สำหรับกรณีวัดสัมพันธวงศารามเพื่อติดตามตัวพระพรหมเมธี (จำนงค์ ธมฺมจารี) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศาราม กรรมการ มส. และเจ้าคณะภาค 4-7 ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาข้อหา ”ฟอกเงิน” ทราบว่าก่อนวันเข้าค้นประมาณ 2 วัน พระพรหมเมธี มีกิจนิมนต์ที่จะต้องเดินทางไปยังวัดแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงราย แต่เมื่อทางเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่าก็ไม่ได้มีการเดินทางไป จึงคาดว่าน่าจะหลบหนีไปตั้งแต่วันดังกล่าวแล้ว แต่เชื่อว่ายังหลบหนีอยู่ในต่างจังหวัดยังไม่ออกไปนอกประเทศ อย่างไรก็ตามพระพรหมเมธี มีท่าทีจะประสานขอเข้ามอบตัวโดยถามถึงเงื่อนไขการเข้ามอบตัวว่าหากเข้ามอบตัวแล้วจะต้องทำการสึกหรือไม่ และได้ประกันตัวหรือไม่ แต่ทันทีที่ทราบข่าวพระเถระ 5 รูปไม่ได้รับการประกันตัวและต้องสึก จึงทำให้เกิดความลังเลใจ และไม่สามารถติดต่อได้
ที่มา : มติชนออนไลน์