
กรมอุตุนิยมวิทยา เตือน 2-6 พฤศจิกายนนี้ ประเทศไทยตอนบนอากาศแปรปรวน ฝนตก-ลมแรงบางพื้นที่ ก่อนอากาศเย็นลง ขณะที่ภาคใต้ ร่องมรสุมพาดผ่านตอนกลาง ทำให้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง
กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศ เรื่อง อากาศแปรปรวนบริเวณประเทศไทยตอนบน และฝนตกหนักถึงหนักมากในภาคใต้ ฉบับที่ 4 (253/2567) (มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 2–6 พฤศจิกายน 2567) ระบุว่า ในช่วงวันที่ 2-6 พฤศจิกายน 2567 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางถึงค่อนข้างแรงอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้
ลักษณะเช่นนี้จะทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบน มีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ในระยะแรก หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง และมีอากาศเย็นในตอนเช้ากับมีลมแรง โดยภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อุณหภูมิจะลดลง 2–4 องศาเซลเซียส ส่วนบริเวณยอดดอยและยอดภูมีอากาศหนาว สำหรับภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน อุณหภูมิจะลดลง 1–3 องศาเซลเซียส
ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลง รวมถึงให้ระวังอันตรายจากอัคคีภัยที่อาจเกิดขึ้น เนื่องจากอากาศแห้งและลมแรง สำหรับเกษตรกรควรระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย
ในขณะที่ร่องมรสุมพาดผ่านภาคใต้ตอนกลาง ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม
จังหวัดที่คาดว่าจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากมีดังนี้
ในวันที่ 3-4 พฤศจิกายน 2567
ภาคใต้ : จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ระนองและพังงา
ในวันที่ 5-6 พฤศจิกายน 2567
ภาคใต้ : จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ระนอง พังงา ภูเก็ต และกระบี่
จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือสายด่วนพยากรณ์อากาศ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ประกาศ ณ วันที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 เวลา 05.00 น.
กรมอุตุนิยมวิทยาจะออกประกาศฉบับต่อไป ในวันที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 เวลา 17.00 น.
ลักษณะอากาศทั่วไป 2 พฤศจิกายน 2567
พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางถึงค่อนข้างแรงระลอกใหม่จากประเทศจีนได้แผ่เสริมลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลางและภาคเหนือด้านตะวันออกแล้ว คาดว่าจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคกลางตอนล่างและภาคใต้ตอนบนในลำดับถัดไป
ลักษณะเช่นนี้จะทำให้บริเวณภาคเหนือ และภาคกลางด้านตะวันตกยังคงมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ในระยะแรก หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง โดยมีอากาศเย็นกับมีลมแรง ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส ส่วนภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลงไว้ด้วย
สำหรับลมตะวันออกเฉียงเหนือและลมตะวันตกเฉียงเหนือพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ส่งผลทำให้มีฝนตกหนักบางแห่งในภาคใต้ และระวังอันตรายจากฝนตกหนักไว้ด้วย ส่วนทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06:00 น. วันนี้ ถึง 06:00 น. วันพรุ่งนี้
ภาคเหนือ
อากาศเย็นในตอนเช้าทางตอนบนของภาค โดยมีฝน ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ตาก พิจิตร และกำแพงเพชร
- อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส
- อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส
- ลมตะวันออก ความเร็ว 10-15 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อากาศเย็นในตอนเช้า โดยอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง และมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครราชสีมา และบุรีรัมย์
- อุณหภูมิต่ำสุด 20-24 องศาเซลเซียส
- อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
- ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
ภาคกลาง
มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดกาญจนบุรี นครปฐม ราชบุรี สมุทรสงคราม และสมุทรสาคร
- อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส
- อุณหภูมิสูงสุด 34-35 องศาเซลเซียส
- ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ภาคตะวันออก
มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
- อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส
- อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
- ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
- ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส
- อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส
- อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส
- ตั้งแต่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ขึ้นมา : ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร - ตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไป : ลมตะวันตกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา ตรัง และสตูล
- อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส
- อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
- ลมตะวันตกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
- ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
กรุงเทพและปริมณฑล
มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่
- อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส
- อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส
- ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.