กรมอุตุฯเตือน มวลอากาศเย็นแผ่ลงมาแล้ว 2-11 พ.ย.นี้ หนาวชัดเจน

มวลอากาศเย็น
แผนที่อากาศผิวพื้น-ภาพ : กรมอุตุนิยมวิทยา

กรมอุตุฯเผยภาพมวลอากาศเย็นแผ่ลงมาเรื่อยๆแล้ว ลุ้นหนาวยาว เตือน 2-11 พ.ย.นี้ สัญญาณฤดูหนาวชัดเจนขึ้น อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส เผยพื้นที่ภาคอีสานทยอยลดลงตามลำดับ แต่อาจมีฝนฟ้าคะนองปะปนบ้างในระยะแรก รวมถึงมีลมแรง  กทม. และปริมณฑลจะเย็นลง 1-2 องศา ต่ำสุด 23-25 องศา

กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานว่า วันนี้ (2/11/67) มวลอากาศเย็นเริ่มแผ่ลงมาเรื่อยๆ เมื่อวานนี้ (1/11/67) มีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ส่วนใหญ่เล็กน้อยถึงปานกลาง อุณหภูมิภาคอีสานด้านตะวันออก เริ่มลดลงแล้ว พรุ่งนี้(3 พ.ย.) ยังมีโอกาสลดลงได้อีก

ช่วงวันที่ 2 – 11 พ.ย.67 สัญญาณฤดูหนาวจะเริ่มชัดเจนขึ้น คาดว่าจะมีมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ต่อเนื่อง ทำให้ลมหนาว (ลมตะวันออกเฉียงเหนือ) พัดแรงขึ้น ส่วนลมในระดับกลาง ยังมีลมตะวันออก ตะวันออกเฉียงใต้ (ลมค้า (trade wind) จากปรากฎการณ์ลานีญา)พัดเข้ามาแทรก

สำหรับการเข้าสู่ฤดูหนาวปีนี้ อาจจะมีฝนปะปนอยู่บ้าง มีลมแรงและมีฝน/ฝนฟ้าคะนองในระยะแรกๆ ในวันนี้ (2 พ.ย.67) ทางภาคกลางด้านตะวันตก กทม. ปริมณฑล และภาคตะวันออก พี่น้องเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันผลผลิตทางเกษตรที่อาจจะเกิดขึ้นจากฝนที่ตกในระยะแรกนี้

หลังจากนั้นอากาศจะเริ่มเย็นลงโดยเริ่มทางภาคอีสานก่อน อุณหภูมิจะเริ่ม 2-4 ซ. ในเช้าวันนี้ (2 พ.ย.67) ส่วนภาคเหนือ ลดลง 2-4 ซ. ภาคกลาง อากาศจะเย็นลง 1-3 ซ. สำหรับ กทม. และปริมณฑลจะเย็นลง 1-2 ซ. ยอดดอย ยอดภู จะมีอากาศหนาวจัด ความหนาวเย็นจะแผ่ปกคลุมอยู่ถึงวันที่ 11 พ.ย.67

พยากรณ์อากาศ 7 วัน 1-7 พ.ย. 2567
พยากรณ์อากาศ 7 วัน 1-7 พ.ย. 2567

แต่ช่วง วันที่ 6-7 พ.ย.67 ภาคเหนือ ตอนบน (จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน) อาจจะมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น (อากาศเย็นปนฝน) เนื่องจากมีคลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกพัดปกคลุมต้องเฝ้าระวังฝนฟ้าคะนอง

Advertisment

สำหรับอากาศเย็นถึงหนาวจะได้สัมผัสกันยาวๆ บางวันอาจจะมีฝนปนหนาวบ้าง เตรียมตัววางแผนไปสัมผัสอากาศเย็นถึงหนาวได้และติดตามประกาศเข้าสู่ฤดูหนาวอย่างเป็นทางการจากกรมอุตุนิยมวิทยาอีกครั้ง ระวังรักษาสุขภาพช่วงที่มีอากาศเปลี่ยนแปลง

ส่วนภาคใต้ เมื่อลมหนาวมาเยือน (ลมเปลี่ยนทิศทาง) ตั้งแต่วันที่ 3-6 พ.ย.67 ภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย (ตั้งแต่ประจวบ ชุมพร ลงไป) ต้องเตรียมรับมือฝนตกหนัก ฝนตกสะสม คลื่นลมแรงขึ้น อาจทำให้เกิดสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ต้องติดตามและเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด

Advertisment

(ข้อมูลนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ ตามข้อมูลนำเข้าและประมวลผลใหม่ ใช้เป็นแนวทางประกอบการตัดสินใจและติดตามสภาพอากาศ การวิเคราะห์ข้อมูลควรใช้ข้อมูลผลการตรวจวัดจริงมาวิเคราะห์ร่วมด้วย ไม่ควรวิเคราะห์เฉพาะจากแบบจำลองฯ)

พยากรณ์อากาศ 12:00 น. วันนี้ ถึง 12:00 น. วันพรุ่งนี้

ภาคเหนือ

อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส
โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน
เชียงใหม่ ตาก และกำแพงเพชร
อุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลงอีก 1-2 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคกลาง

อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส
โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดอุทัยธานี
กาญจนบุรี ราชบุรี นครปฐม และสมุทรสงคราม
อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ภาคตะวันออก

อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส
โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดจันทบุรี และตราด
อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)

อากาศเย็นในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียสทางตอนบนของภาค
โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
บริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช และสงขลา
อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส

ตั้งแต่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ขึ้นมา : ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไป : ลมตะวันตก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต และกระบี่
อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

กรุงเทพและปริมณฑล

อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

(ออกประกาศ 02 พฤศจิกายน 2567)