ศาลนัดตรวจหลักฐานรอบ 2 “เบนซ์ เรซซิ่ง”-พวก คดีฟอกเงิน นัดสืบพยาน ก.ค.นี้

แฟ้มภาพ

ศาลนัดตรวจหลักฐานรอบ 2 “เบนซ์-เรซซิ่ง” กับพวก คดีฟอกเงินยาเสพติด นัดสืบพยานตามกำหนด ก.ค.นี้ พร้อมเปลี่ยนทนายความ

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 4 มิถุนายน ที่ห้องพิจารณา 907 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดพร้อมคู่ความตรวจพยานหลักฐานครั้งที่ 2 ในคดีหมายเลขดำ อย.2201/2560 ที่พนักงานอัยการคดียาเสพติด 10 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช หรือเบนซ์ เรซซิ่ง อายุ 30 ปี นักแข่งรถชื่อดัง, นายสรรเสริญ หรือเน็ต รสานนท์ อายุ 25 ปี ภูมิลำเนา จ.นนทบุรี และ น.ส.อังสุพร หรืออุ้ม อินา อายุ 29 ปี ภูมิลำเนา จ.น่าน เป็นจำเลยที่ 1-3 ในความผิดฐานฟอกเงินและสมคบกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินฯ ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542มาตรา 3, 5, 9, 60 และสนับสนุนหรือช่วยเหลือหรือสมคบค้ายาเสพติด ตาม พ.ร.บ.มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ.2534 มาตรา 3, 4, 6, 10, 14 และ พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 ซึ่งอัยการได้ยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม2560

กรณีกล่าวหาว่า เมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน 2559 – 2 กุมภาพันธ์ 2560 จำเลยทั้งสามกับนายณัฐพลหรือบอย นาคคำ จำเลยในคดีหมายเลขดำ อย.2187/2560, อย.1883/2560, อย.1257/2560 ร่วมกับนายชัยวัฒน์ หรือแป๊ะ ชูสาย จำเลยคดียาเสพติด ซึ่งศาลมีคำพิพากษาไปแล้ว กับพวกที่หลบหนีและยังไม่ได้ตัวมาฟ้อง ได้ร่วมกันสมคบสนับสนุนช่วยเหลือเพื่อกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดชนิดยาไอซ์และยาบ้าที่เป็นยาเสพติดประเภท 1 และร่วมกันวางแผนแบ่งหน้าที่กันทำในการเป็นผู้จัดหา ครอบครอง เก็บรักษา ลำเลียงยา หาลูกค้าและเป็นเครือข่ายการรับยาเสพติด รวมทั้งดำเนินการจัดการด้านการเงินที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายยาเสพติดที่นายณัฐพลกับพวกเป็นผู้จัดหายาเสพติดและเป็นผู้ประสานงานในการขนถ่ายลำเลียง โดยนายอัครกิตติ์, นายสรรเสริญ และ น.ส.อังสุพร จำเลยที่ 1-3 เปิดบัญชีธนาคารเพื่อทำธุรกรรมทางการเงินเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ซึ่งได้มีการจัดการรับฝากเงินและโอนเงินค่ายาเสพติดไปยังบัญชีธนาคารบุคคลตามคำสั่งของนายณัฐพลรวม 53 ครั้ง เป็นเงิน 11,072,547 บาท โดยนายอัครกิตติ์ จำเลยที่ 1 ยังนำเงินที่ได้รับจากนายณัฐพลไปซื้อรถลัมโบกินีและรถจักรยานยนต์ราคาแพง

ซึ่งระหว่างการพิจารณาคดี นายอัครกิตติ์และนายสรรเสริญ จำเลยที่ 1-2 ถูกคุมขังอยู่ที่ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง ส่วน น.ส.อังสุพร จำเลยที่ 3 ถูกคุมขังไว้ที่ทัณฑสถานหญิงกลาง เนื่องจากไม่ได้รับการประกันตัว โดยวันนี้ศาลได้เบิกตัวจำเลยทั้งสามมาเพื่อร่วมกระบวนพิจารณา ซึ่งระหว่างเดินทางมาขึ้นศาล จำเลยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนได้ถ่ายภาพในชุดนักโทษแต่อย่างใด ทั้งนี้ มีญาติและคนใกล้ชิดจำนวนมากเดินทางมาให้กำลังใจ โดยไม่พบว่า น.ส.ณปภา ตันตระกูล หรือแพท ณปภา ภรรยาของนายอัครกิตติ์ เดินทางมาแต่อย่างใด

โดยในวันนี้ อัยการโจทก์ได้ยื่นแก้คำฟ้องเล็กน้อยพร้อมสำเนาให้แก่จำเลยแล้ว จำเลยไม่คัดค้าน และจำเลยได้ยื่นคำร้องขอถอนนายสิทธิโชค ตรีเนตร ทนายความ เนื่องจากมีความเห็นไม่ตรงกัน แล้วแต่งตั้งนายชัยกร ปรีชาหาญ เข้าเป็นทนายความคนใหม่ ทีมทนายความชุดใหม่ไม่มีเหตุขัดข้องในวันนัดพิจารณาตามกำหนด ศาลพิจารณาแล้วนัดสืบพยานตามกำหนด ไม่อนุญาตเลื่อนคดี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีนี้มีการนัดตรวจพยานหลักฐานครั้งแรกเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2560 โดยในวันดังกล่าว อัยการได้นำพยานเอกสาร 6 แฟ้ม 121 ฉบับ และบัญชีพยาน 20 ปาก ยื่นต่อศาลเพื่อให้ทนายจำเลยทั้งสามได้ตรวจดูรายละเอียด โดยโจทก์ขอเวลาสืบพยานรวม 10 นัด ส่วนจำเลยที่ 1-3 ทนายความ อ้างพยานร่วมกันรวม 17 ปากซึ่งมีจำเลยทั้งสามเป็นพยานด้วย โดยขอใช้เวลาสืบพยาน 4 นัด และได้ยื่นพยานเอกสารเสนอศาลอีก 1 รายการ ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้คู่ความทั้งสองฝ่ายนำสืบพยานบุคคลตามที่เสนอ โดยกำหนดนัดสืบพยานโจทก์-จำเลย รวม 14 นัด ระหว่างวันที่ 3-25 กรกฎาคม 2561 เวลา 09.00น. ซึ่งก่อนจะเริ่มสืบพยานศาลให้นัดพร้อมคู่ความ เพื่อตรวจดูความพร้อมพยานที่จะเข้าเบิกความอีกครั้ง เนื่องจากพยานกลุ่มที่เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจอาจโยกย้ายหรือเกษียณราชการ

วันนี้ (4 มิถุนายน) ศาลจึงนัดพร้อมคู่ความตรวจพยานหลักฐานเป็นครั้งที่ 2

 


ที่มา : มติชนออนไลน์