จากกรณีที่เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน คณะชุดสืบสวนสอบสวนในการติดตามตัวอดีตพระพรหมเมธี (จำนงค์ เอี่ยมอินทรา) อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศารามวรวิหาร ยืนยันว่าทางการของประเทศเยอรมนีสามารถควบคุมตัวผู้ต้องหารายดังกล่าวได้ที่สนามบินนครแฟรงก์เฟิร์ต เมื่อช่วงวันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา ต่อมา พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จึงได้เดินทางขึ้นเครื่องด้วยเที่ยวบิน TG926 สายการบินไทยเพื่อไปรับตัวด้วยตนเอง
เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน พล.ต.อ.จักรทิพย์เดินทางถึงสนามบินนครแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี และเดินทางเข้าขอยืนยันตัวบุคคลอดีตพระพรหมเมธีที่ถูกกักตัวไว้ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองในบริเวณสนามบิน ได้ควบคุมตัวอดีตพระพรหมเมธีที่ถูกควบคุมตัวไว้ และเข้าสู่กระบวนการเตรียมดำเนินการส่งตัวกลับประเทศ ซึ่งขณะนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์และทีมงานได้เตรียมการประสานงานในเรื่องข้อมูลเอกสารและรายละเอียดข้อกฎหมายต่างๆ เพื่อนำตัวผู้ต้องหากลับประเทศ
จากรายงานข่าวล่าสุดทราบว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จองตั๋วเครื่องบินในเที่ยวกลับ เที่ยวบินที่ TG921 จำนวน 14 ที่นั่ง โดยเป็นการจองแบบบล็อกทั้งโซน ซึ่งเป็นรูปแบบการจองตั๋วเพื่อเตรียมการนำตัวผู้ต้องหากลับประเทศ ซึ่งหากขั้นตอนการส่งกลับไม่ผิดพลาด ก็จะเดินทางกลับด้วยเที่ยวบินดังกล่าวถึงไทยวันที่ 6 มิถุนายนเช้า
ขณะที่บรรยากาศที่กองบังคับการปราบปรามเช้านี้ พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผบก.ป. ได้เดินทางมาทำงานที่กองบังคับการในช่วง 08.00 น.ที่ผ่านมา และกล่าวเพียงสั้นๆ ว่า คดีของพระพรหมเมธีไม่สามารถให้สัมภาษณ์ได้ ต้องรอให้ พล.ต.อ.จักรทิพย์เดินทางกลับมาและเป็นผู้ให้สัมภาษณ์ในเรื่องดังกล่าวเอง
ด้าน พล.ต.ต.สุวิชาญ ญาณกิตติกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม เปิดเผยทางโทรศัพท์ถึงความคืบหน้าในการออกหมายจับ ผู้ที่มีส่วนรู้เห็นและช่วยให้การหลบหนีของอดีตพระพรหมเมธี โดยเป็นคนไทย 3 คน และคนลาวอีก 2 คน ในข้อหากระทำความผิดตามกฎหมายอาญามาตรา 189 ขณะนี้อยู่ระหว่างการประชุมหารือว่าจะให้ทางตำรวจนครพนมเป็นผู้ขออำนาจศาลออกหมายจับ หรือจะให้โอนมาที่กองบังคับการปราบปราม
สำหรับ 5 คนที่มีข่าวก่อนหน้านี้ คือ คนขับรถ คนสนิทของอดีตพระพรหมเมธี และนางจันทนา หรือจันตนา รัตนวงศ์ หญิงชาวลาว และลูกชาย, สีกาจุ๋ม เจ้าแม่วงการตลาดหุ้นของเมือง หนึ่งในนั้นมีความเป็นไปได้ที่จะออกหมายจับ “พระหนุ่ม” หรือพระอธิการพรเทพ เจ้าอาวาสวัดป่าสุคนธรักษ์ อ.เรณูนคร จ.นครพนม เป็นพระสายธรรมยุต ที่ให้นำรถตู้มาฝากไว้ที่วัด ก่อนข้ามไปลาว แม้ก่อนหน้านี้จะให้การว่าไม่รู้จักและสนิทสนม
ที่มา : มติชนออนไลน์