
กรมอุตุฯเตือนช่วง 12-17 พ.ย.นี้ มวลอากาศเย็นมีกำลังอ่อนลง อุณหภูมิจะสูงขึ้น 2-3 องศาเซลเซียส ยอดดอยยังหนาวเย็น แต่พื้นที่ทั่วไปอากาศจะร้อนในตอนกลางวัน กทม.และปริมณฑลอุณหภูมิกลับมาร้อนสุด 34-36 องศา ส่วนพายุ “หยินซิ่ง (YINXING)” อ่อนกำลังลงแล้ว แต่ทิศทางยังมีเปลี่ยนแปลง หลังมวลอากาศเย็นอ่อนกำลังลง ภาคอีสานจะมีเมฆเพิ่มขึ้น
กรมอุตุนิยมวิทยา อัพเดตผลการพยากรณ์ฝนสะสมรายวัน ทุก ๆ 24 ชม. (นับตั้งแต่ 07.00 น. ถึง 07.00 น.วันรุ่งขึ้น) และลมที่ระดับ 925hPa (750 ม.) 10 วันล่วงหน้า ระหว่าง 11-20 พ.ย. 67
วันนี้ (11 พ.ย. 67) : มวลอากาศเย็นกำลังปานกลาง ยังแผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนต่อเนื่อง ทำให้ลมหนาว (มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ) พัดต่อเนื่อง ส่วนลมในระดับกลาง ยังมีลมฝ่ายตะวันออก ลมตะวันออกเฉียงใต้ พัดเข้ามาแทรกบางช่วง อากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกลางวันอาจจะร้อนบ้าง เนื่องจากเมฆมีน้อย สำหรับยอดดอย ยอดภู จะมีอากาศหนาว
ช่วง 12-17 พ.ย. 67 มวลอากาศเย็นที่แผ่ปกคลุมจะมีกำลังอ่อนลง ลมเบาลง และอุณหภูมิจะเริ่มสูงขึ้น อากาศร้อนตอนกลางวัน ส่วนภาคตะวันออก กทม. และปริมณฑล อุณหภูมิสูงขึ้นและมีฝนฟ้าคะนองเล็กน้อย ระวังรักษาสุขภาพช่วงที่มีอากาศเปลี่ยนแปลง
ช่วง 10-13 พ.ย. 67 ยังต้องติดตามพายุ “หยินซิ่ง (YINXING)” ทะเลจีนใต้ตอนบน พายุนี้เริ่มอ่อนกำลังลง ทิศทางยังมีเปลี่ยนแปลง คาดว่าจะอ่อนกำลังลงเมื่อเคลื่อนตัวเข้าใกล้ชายฝั่งประเทศเวียดนาม จึงยังไม่มีผลกระทบกับประเทศไทย แต่อาจจะทำให้ภาคอีสานด้านตะวันออกมีเมฆเพิ่มขึ้น เนื่องจากเคลื่อนตัวมาในขณะที่มีมวลอากาศเย็นแผ่ลงปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้
สำหรับภาคใต้ วันนี้ (11 พ.ย. 67) ยังต้องระวังและเตรียมรับมือฝนตกหนัก ฝนตกสะสม อาจทำให้เกิดสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ต้องติดตามและเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด หลังจากวันที่ 12 พ.ย. 67 ภาคใต้จะเริ่มมีฝนลดลง แต่ยังมีฝนบางแห่ง (ข้อมูลนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ ตามข้อมูลนำเข้าและประมวลผลใหม่ ใช้เป็นแนวทางประกอบการตัดสินใจและติดตามสภาพอากาศ การวิเคราะห์ข้อมูลควรใช้ข้อมูลผลการตรวจวัดจริงมาวิเคราะห์ร่วมด้วย ไม่ควรวิเคราะห์เฉพาะจากแบบจำลอง)
ข้อควรระวัง
ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพ เนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง และระมัดระวังการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกไว้ด้วย ส่วนชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองตลอดช่วง และในวันที่ 11 พ.ย. 67 ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย
คาดหมายอากาศรายภาควันที่ 11-17 พ.ย. 2567
ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 11-13 พ.ย. 67 อากาศเย็นในตอนเช้า โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่งส่วนมากทางตอนบนของภาคอุณหภูมิต่ำสุด 17-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 9-15 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-15 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 14-17 พ.ย. 67 อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีหมอกในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 2-3 องศาเซลเซียส โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 19-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-17 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 5-15 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 11-12 พ.ย. 67 อากาศเย็น กับมีหมอกในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 2-3 องศาเซลเซียส โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 17-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-16 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 13-17 พ.ย. 67 อากาศเย็นในตอนเช้าทางตอนบนของภาค อุณหภูมิจะสูงขึ้นอีกเล็กน้อยโดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-30 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค
อุณหภูมิต่ำสุด 19-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-17 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-15 กม./ชม.
ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 11-13 พ.ย. 67 อากาศเย็น กับมีหมอกในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 2-3 องศาเซลเซียสอุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 14-17 พ.ย. 67 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-30 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาคอุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-15 กม./ชม.
ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 11-12 พ.ย. 67 มีหมอกในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 2-3 องศาเซลเซียส โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่งส่วนมากตามแนวชายฝั่งทะเล อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส
ส่วนในช่วงวันที่ 13-17 พ.ย. 67 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
ในวันที่ 11 พ.ย. 67 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
ส่วนในช่วงวันที่ 12-17 พ.ย. 67 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ตลอดช่วง
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-35 องศาเซลเซียส
กรุงเทพฯและปริมณฑล
ในช่วงวันที่ 11-13 พ.ย. 67 มีหมอกในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 2-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 14-17 พ.ย. 67 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-30 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
(ออกประกาศ 11 พฤศจิกายน 2567 12.00 น.)