
หน้าหนาวแล้ว แต่ยังมีฝนตก กลางวันอากาศร้อน แถมยังมีพายุในทะเลจีนใต้และมหาสมุทรแปซิฟิก กรมอุตุฯแจงสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง ลมแปรปรวน เหตุมวลอากาศเย็นจากจีนอ่อนกำลังลง มีคลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกพัดปกคลุมภาคเหนือ และมีลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นเข้ามาปกคลุมภาคตะวันออก ภาคกลาง รวมทั้ง กทม.และปริมณฑล ส่งผลเกิดฝนตก ขณะที่ภาคใต้มีร่องมรสุมพาดผ่าน ยังมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ระบุช่วง 15-17 พ.ย.นี้อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส พร้อมให้ระวังหมอกบางพื้นที่
จากกรณีที่กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศอย่างเป็นทางการว่า ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูหนาวแล้วตั้งแต่วันที่ 3 พ.ย. 2567 ที่ผ่านมา แต่ในหลาย ๆ พื้นที่ (ยกเว้นยอดดอยและยอดภู) ยังคงมีอากาศร้อน แถมบางวันมีฝนตกและตกหนักในบางวัน อย่างล่าสุดเมื่อวันที่ 14 พ.ย. 2567 มีฝนตกโดยทั่วไป-ตกหนัก ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลนั้น
ล่าสุดวันนี้ (15 พ.ย. 67) กรมอุตุนิยมวิทยา อัพเดตผลการพยากรณ์ฝนสะสมรายวัน (ทุก ๆ 24 ชม. (นับตั้งแต่ 07.00 น. ถึง 07.00 น.วันรุ่งขึ้น) และลมที่ระดับ 925hPa (750 ม.) 10 วันล่วงหน้า ระหว่าง 15-24 พ.ย. 67 init. 2024111412 จากศูนย์พยากรณ์อากาศระยะกลางยุโรป (ECMWF) โดยวิเคราะห์ตามผลจากแบบจำลอง เฉดสีแดงหมายถึงฝนหนัก สีเขียวหมายถึงฝนเล็กน้อยว่า
วันลอยกระทงปีนี้อาจมีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่ภาคกลาง ภาคตะวันออก กทม.และปริมณฑล ภาคใต้ตอนบน พร้อมระบุว่าในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลในวันนี้จะมีฝนฟ้าคะนอง 40% ของพื้นที่
ซึ่งไม่ค่อยเกิดขึ้นในวันหรือเทศกาลลอยกระทงประจำปี
กรมอุตุฯระบุถึงสภาพอากาศดังกล่าวว่า ช่วงวันที่ 15-17 พ.ย. 67 มวลอากาศเย็นที่แผ่ปกคลุมมีกำลังอ่อนลง ลมเบาลง ทิศทางแปรปรวน และอุณหภูมิจะเริ่มสูงขึ้น อากาศร้อนตอนกลางวัน แต่ยอดดอยยอดภู ยังมีอากาศเย็นพอให้ได้สัมผัส
ส่วนภาคอีสานตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก กทม. ปริมณฑล และภาคใต้ตอนบน ยังมีฝนฟ้าคะนองเล็กน้อยถึงปานกลาง เมฆเพิ่มขึ้นบ้าง และมีหมอกในหลายพื้นที่ เดินทางสัญจรต้องระวัง ทัศนวิสัยการมองเห็นต่ำลง
ส่วนพี่น้องเกษตรกรที่กำลังเก็บเกี่ยว ต้องป้องกันและเฝ้าระวังผลผลิตที่อาจเสียหายได้ ระวังรักษาสุขภาพช่วงที่มีอากาศเปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้จะเริ่มมีฝนลดลง แต่ยังมีฝนบางแห่ง
และในช่วงวันที่ 18-24 พ.ย. 67 มวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคอีสานและทะเลจีนใต้ ลมแรงขึ้น อากาศจะเริ่มเย็นลงอีกครั้ง และอาจมีคลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกพัดปกคลุมภาคเหนือตอนบนอีกครั้ง
ส่วนภาคใต้ ตั้งแต่ จ.สุราษฎร์ธานีลงไป จะมีฝนเพิ่มขึ้นอีกครั้งหลังวันที่ 19 พ.ย. 67 ต้องติดตามและเฝ้าระวัง ฝนตกหนัก ฝนตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากได้ (ข้อมูลนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ ตามข้อมูลนำเข้าและประมวลผลใหม่ ใช้เป็นแนวทางประกอบการตัดสินใจและติดตามสภาพอากาศ)
พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า
ส่วนการพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า (15 พ.ย. 67) : ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคใต้ตอนบนมีฝน/ฝนฟ้าคะนอง โดยภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนยังคงมีอากาศเย็น กับมีหมอกในตอนเช้า
ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพ เนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง รวมทั้งระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอก ส่วนเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตร เนื่องจากฝนที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย
ทั้งนี้เนื่องจากลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทย เข้ามาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคใต้ตอนบน ในขณะที่บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นที่ปกคลุมภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนมีกำลังอ่อน
สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังอ่อนพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังอ่อน โดยมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง
พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า
ในช่วงวันที่ 15-16 พ.ย. 67 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้มีกำลังอ่อนลง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีหมอกในตอนเช้า และอุณหภูมิสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส แต่ยังคงมีอากาศเย็นในตอนเช้าในภาคเหนือตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน
ในขณะที่ลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก ภาคกลางตอนล่าง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคใต้ตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝน/ฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้
สำหรับร่องมรสุมกำลังอ่อนพาดผ่านภาคใต้ตอนล่างและประเทศมาเลเซีย ประกอบกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังปานกลางที่พัดปกคลุมอ่าวไทยตอนบน และภาคใต้ตอนบนมีกำลังอ่อนลง ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังอ่อน โดยมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 17-21 พ.ย. 67 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางระลอกใหม่จากประเทศจีน จะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนจะมีฝน/ฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นในระยะแรก หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง และมีอากาศเย็นในตอนเช้า กับมีลมแรง โดยภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะมีอุณหภูมิลดลง 1-2 องศาเซลเซียส
สำหรับร่องมรสุมยังคงพาดผ่านภาคใต้ตอนล่างและประเทศมาเลเซีย ประกอบกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังอ่อนที่พัดปกคลุมอ่าวไทยตอนบน และภาคใต้ตอนบนจะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้จะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง
ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันจะมีกำลังแรงขึ้น โดยอ่าวไทยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ข้อควรระวัง
ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง และระมัดระวังการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอก ส่วนเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตร สำหรับชาวเรือควรหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วยตลอดช่วง
