28 บริษัทผู้รับเหมา ลงมติไม่ทำงานต่อ หลังถูกเบี้ยวค่าแรงนาน 8 เดือน

28 บริษัทผู้รับเหมา ลงมติไม่ทำงานต่อ หลังถูกเบี้ยวค่าแรงนาน 8 เดือน
ภาพจาก ข่าวสด

28 บริษัทผู้รับเหมา โครงการพลังงานสะอาด CFP ลงมติไม่ดำเนินงานต่อ หลังถูกเบี้ยวค่าแรงนาน 8 เดือนกว่า 6 พันล้าน กระทบหมื่นชีวิต

ข่าวสดรายงานว่า ที่ห้อง Ballroom โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ สวีท ศรีราชา แหลมฉบัง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี กลุ่มผู้รับเหมาในโครงการพลังงานสะอาด CFP (Clean Fuel Project) โรงกลั่นน้ำมันไทยออยล์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ที่ประกอบด้วย 28 บริษัทผู้รับเหมา ซึ่งมีมูลหนี้ค้างชำระค่าจ้างที่ยังไม่ได้รับการชำระจากผู้รับเหมาหลัก UJV นาน 8 เดือน รวมเป็นเงินกว่า 6 พันล้านบาท

ร่วมกันลงสัตยาบัน ที่จะไม่ดำเนินงานในโครงการพลังงานสะอาดต่อ หากไม่ได้รับการชำระหนี้เก่าทั้งหมดจากผู้รับเหมาหลัก UJV ที่ประกอบด้วย Samsung E&A (Thailand) Co., Ltd., Petrofac South East Asia Pte., Ltd. และ Saipem Singapore Pte., Ltd.) การลงนามของผู้รับเหมาในโครงการพลังงานสะอาด CFP ครั้งนี้จัดขึ้น โดยมีตัวแทนจาก 28 บริษัทเข้าร่วมเกือบ 50 คน

นายฉัตรมงคล เขมาภิรัตน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศรีราชา คอนสตรัคชั่น จำกัด ให้เหตุผลของการลงสัตยาบันร่วมกันว่า เป็นเพราะผู้รับเหมาบางเจ้า ถึงขั้นล้มละลายแล้ว ขณะที่ผู้ประกอบการเจ้าใหญ่บางเจ้าเริ่มมีปัญหา Cash Flow บางบริษัทก็เริ่มไม่มีเงินพอจ่ายค่าแรงคนงานและ supplier

“ขณะนี้บริษัทเหล่านี้สูญเสียเครดิตในตลาดไปหมดแล้ว เพราะการติดค้างค่างวด supplier ซึ่งการขาดความน่าเชื่อถือ ส่งผลต่อการเช่าเครื่องจักรที่จะนำมาใช้ในการก่อสร้าง และเป็นเรื่องยากที่จะกลับมาได้ง่ายเหมือนเดิม อีกทั้งทางธนาคารก็ไม่พิจารณาปล่อยกู้ให้สำหรับโครงการนี้อีกด้วย วันนี้ผู้รับเหมาจึงอยู่ในสภาพโดนทั้งขึ้นและร่อง” นายฉัตรมงคลกล่าว

28 บริษัทผู้รับเหมา ลงมติไม่ทำงานต่อ หลังถูกเบี้ยวค่าแรงนาน 8 เดือน
ภาพจาก ข่าวสด

นายฉัตรมงคลกล่าวต่อว่า ปัญหาการขาดสภาพคล่องอย่างหนัก หาก UKV ไม่มีการชำระหนี้เก่าหรือเงื่อนไขการจ่ายค่างวดในอนาคตไม่ชัดเจน หรือชำระหนี้ตามกำหนดเวลาในสัญญาอย่างเคร่งครัด ในทุกช่วงระยะเวลาของการดำเนินงานโครงการ ก็ถือเป็นการยากที่จะเรียกความเชื่อมั่นของคนงานทั้งหมดร่วมกว่า 10,000 ชีวิตในการที่จะกลับมาทำงานกับบริษัทผู้รับเหมาช่วงอีก เพราะไม่มีความเชื่อมั่นว่าจะได้รับเงินเดือนสม่ำเสมอ หรืออาจจะเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยเดิมอีก

ADVERTISMENT

“ดังนั้นจึงเป็นเหตุสำคัญที่จะต้องลงสัตยาบันร่วมกันว่า จะไม่กลับไปทำโครงการ CFP อีก หากหนี้เก่าทั้งหมดของพวกเราไม่ได้รับการเยียวยาหรือชำระ และเพื่อเรียกร้องให้เจ้าของโครงการพลังงานสะอาด กำหนดเงื่อนไขให้ผู้รับเหมาหลักดำเนินการชำระหนี้ให้แก่กลุ่มผู้รับเหมาช่วงทุกบริษัทที่เกี่ยวข้อง ภายในกำหนดระยะเวลาตามสัญญา โดยไม่มีข้อยกเว้น” นายฉัตรมงคลกล่าว

นายฉัตรมงคลกล่าวว่า แม้ที่ผ่านมา กลุ่มผู้รับเหมาจะเดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อขอความช่วยเหลือและชี้แจงให้รับทราบถึงผลกระทบที่กลุ่มบริษัทผู้รับเหมาช่วงโครงการก่อสร้างโรงกลั่นน้ำมันไทยออยล์ ถูกเบี้ยวค่าแรงแม้จะส่งมอบงานตามสัญญาเป็นที่เรียบร้อยแล้วตั้งแต่เดือน ก.พ. 2567

ADVERTISMENT

จนทำให้เกิดปัญหาต่อสภาพคล่องทางการเงินของบริษัทผู้รับเหมาช่วงรวมกว่าหลายราย และยังได้ส่งผลกระทบต่อแรงงานกว่า 10,000 คน โดยมีนายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง พร้อมและนายทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นตัวแทนรับมอบเมื่อวันที่ 12 พ.ย. 2567

และในที่ประชุมสั่งให้ตั้งคณะกรรมการพิจารณาอย่างเร่งด่วน โดยมีการเชิญผู้เข้าร่วมเพิ่มคือ ปตท. ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของไทยออยล์ และกระทรวงการคลัง ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นของ ปตท. โดยชี้แจงให้ผู้รับเหมารวบรวมคำร้องทั้งหมดให้เป็นแบบผังเดียวกัน เพื่อง่ายในการพิจารณาและเร่งรัดขบวนการให้รู้ผลภายใน 1 เดือน และให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเป็นประธานในคณะกรรมการชุดนี้

28 บริษัทผู้รับเหมา ลงมติไม่ทำงานต่อ หลังถูกเบี้ยวค่าแรงนาน 8 เดือน

หรือเมื่อวันที่ 8 พ.ย.ที่ผ่านมา ตัวแทนบริษัทผู้รับเหมา จะนำหลักฐานวางบิลค่างวดงานเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แหลมฉบัง เพื่อเอาผิดทางอาญาถึงที่สุดกับกลุ่ม UJV ผู้จัดการ ผู้กระทำการแทน ผู้รับเหมาหลักหรือผู้แทนและบุคคลเกี่ยวข้องฐานทุจริตหลอกลวง ไม่จ่ายค่าจ้างตามสัญญา และยังให้ทำงานอย่างต่อเนื่อง โดยยึดหนังสือค้ำประกันของผู้รับเหมาช่วงเป็นตัวประกัน ซึ่งทางผู้กำกับสนแหลมฉบัง ก็จะเริ่มขบวนการสอบสวนตั้งแต่ 19 พ.ย. 67 เป็นต้นไป

หรือเมื่อวันที่ 18 ต.ค. 67 ที่นำกลุ่มผู้รับเหมาช่วงกว่า 3,000 คน เดินขบวนไปยื่นหนังสือร้องเรียนต่อผู้บริหารบริษัท ไทยออยล์ ที่ด้านหน้าโรงกลั่นใน อ.ศรีราชา เพื่อให้รับทราบถึงปัญหาและความเดือดร้อน

โดยขอให้บริษัท ไทยออยล์ ช่วยเจรจาให้กลุ่ม UJV ยอมจ่ายค่าจ้างที่ยังค้างจ่าย จนผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ต้องเรียกประชุมร่วมทุกฝ่ายเพื่อกำหนดแนวทางแก้ไข แต่สุดท้ายก็ไม่มีอะไรคืบหน้า ซึ่งหลังจากนี้กลุ่มผู้รับเหมายังจะขอพบผู้บริหารไทยออยล์ เพื่อยื่นหนังสือทวงถามและติดตามความคืบหน้าผลการดำเนินงานแก้ไขปัญหา ซึ่งขณะนี้ยังรอการตอบกลับจากไทยออยล์อยู่

28 บริษัทผู้รับเหมา ลงมติไม่ทำงานต่อ หลังถูกเบี้ยวค่าแรงนาน 8 เดือน