
“เมีย-ลูก” หมอบุญ พร้อมทนายเข้ามอบตัว ข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ทนายอ้างถูกปลอมลายเซ็นเช็คค้ำประกัน-กู้เงิน ยืนยันเอาผิดอดีตสามี-ผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด
มติชนรายงานว่า เวลา 13.00 น. วันที่ 23 พฤศจิกายน ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) นางจารุวรรณ วนาสิน อายุ 79 ปี ภรรยาของนายแพทย์บุญ วนาสิน ซึ่งเป็นผู้ลงลายมือชื่อ เป็นผู้ค้ำประกันในสัญญาต่างๆ พร้อมด้วย นางสาวนลิน วนาสิน อายุ 51 ปี บุตรสาวของ นพ.บุญ ซึ่งเป็นผู้ลงลายมือชื่อเป็นผู้ค้ำประกันในสัญญาต่างๆ โดยทั้ง 2 เป็นผู้ต้องหาในหมายจับข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน เดินทางเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ โดยมี นายชำนาญ ชาดิษฐ์ ทนายความ ที่ห้องประชุม บก.น.1 ชั้น 3 อาคาร บช.น.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่นางจารุวรรณสวมเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีชมพูอ่อน สวมแว่นตาดำ ถือกระเป๋าสีน้ำตาล และนางสาวนลินสวมเสื้อยืดสีเขียว สวมหมวกแก๊ปสีน้ำเงิน เดินมา มีทนายและลูกช่วยกันพยุงนางจารุวรรณ ขึ้นมาพบตำรวจนั้น ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามข้อเท็จจริงดังกล่าว แต่นางจารุวรรณและนางสาวนลิน ไม่ยอมตอบคำถามใดๆ
โดยนายชำนาญ ทนายความ ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ทางลูกความตน ทั้งนางจารุวรรณและนางสาวนลินบอกว่าถูกปลอมแปลงลายเซ็น โดยไม่ทราบว่าผู้ใดเป็นคนทำ แต่มีการปลอมแล้วนำเอกสารพวกนี้ไปใช้กู้ยืมเงินตามที่ปรากฏเป็นข่าว ยืนยันว่าไม่ทราบว่าเป็นฝีมือใคร แต่มาทราบตอนที่มีหมายศาลฟ้องมาเป็นระยะที่ตัวนางจารุวรรณ เมื่อตรวจสอบแล้วปรากฏว่า กรณีที่มีการกู้ยืมเงินและค้ำประกันต่างๆ เป็นลายเซ็นปลอมทั้งหมด โดยตัวนางจารุวรรณไม่เคยไปกู้ยืมเงินแต่อย่างใด รวมถึงไม่ได้เซ็นค้ำประกัน
ต้องเรียนสื่อมวลชนว่า ในช่วงที่มีการกู้ยืมเงินค้ำประกันตามที่ปรากฏเป็นข่าว ตัวนางจารุวรรณเอง ส่วนใหญ่เดินทางอยู่ที่ต่างประเทศ ส่วนใหญ่ในคำฟ้องนั้น จะเซ็นแบบเป็นสำเนาไม่ใช่ลายเซ็นจริง โดยต้นฉบับอยู่กับฝั่งผู้ให้กู้ และความต่างของลายเซ็นค่อนข้างเยอะ ซึ่งเรื่องการปลอมลายเซ็นนั้น ไม่ใช่จะเพิ่งมาพูด แต่มีการต่อสู้คดีทางแพ่งเรื่องนี้มานานแล้ว
รวมถึงมีการแจ้งความไว้ที่ บก.ปอศ.ไว้เมื่อช่วงประมาณเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา ในทางคดีแพ่งได้ต่อสู้คดีว่าเป็นลายเซ็นปลอม และขอให้ศาลตรวจพิสูจน์ รวมถึงคดีอาญา ศาลมีการนัดพร้อมเพื่อให้นางจารุวรรณไปเซ็นเปรียบเทียบต้นฉบับที่อ้างว่ามีการค้ำประกัน และเซ็นเช็ค โดยให้คู่ความส่งต้นฉบับ และให้นางจารุวรรณเซ็นใหม่ พร้อมกับมีการนำตัวสัญญาในช่วงที่อ้างว่ามีการเซ็นกู้หรือค้ำ อยู่ระหว่างรอศาลนัด

เมื่อถามว่า อาจจะเป็นลายเซ็นหมอบุญหรือไม่ ทนายความตอบว่า อาจจะเป็นเช่นนั้น เพราะผู้ที่กู้ที่มีชื่ออยู่ในสัญญา ก็เป็นหมอบุญ รวมถึงนางจารุวรรณ และหมอบุญ ก็มีการจดทะเบียนหย่ากันไปแล้ว โดยไม่ทราบว่าตั้งแต่ปีไหน
ถามถึงสาเหตุว่า ทำไมถึงต้องมีการปลอมแปลงลายเซ็นคนในครอบครัว ทนายความตอบว่า ไม่ทราบเหมือนกัน ส่วนในช่วงที่มีการปลอมแปลงลายเซ็นเป็นช่วงที่หย่าร้างกันไปแล้ว
ส่วนกรณีที่นางจารุวรรณเดินทางไปต่างประเทศ เป็นช่วงระหว่าง ปี 61-67 มีการเดินทางอยู่ตลอด และเกิดอ้างว่ามีการกู้และค้ำ จนถูกฟ้อง และตรวจสอบว่ามีสัญญาฉบับไหนบ้าง มองเห็นชัดเจนเลยว่าเป็นลายเซ็นปลอม ก่อนตรวจสอบในเรื่องเวลาที่อ้างว่ามีการเซ็น และทั้ง 200 กว่าฉบับนั้นถูกปลอมทั้งหมด
ทนายความกล่าวอีกว่า ทางนางจารุวรรณจะมีการเอาผิดทั้งหมอบุญและทุกคนที่เกี่ยวข้อง ส่วนเรื่องการประกันตัวต้องอยู่ที่ทางพนักงานสอบสวนจะอนุญาตหรือไม่