เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 6 มิถุนายน ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้กำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวถึงการติดตามตัวอดีตพระพรหมเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์ ที่หลบหนีไปเยอรมนีกลับมาดำเนินคดี ว่า ยังไม่ได้รับรายงานเรื่องนี้ เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการอยู่ก็ต้องปล่อยให้ตำรวจทำงานร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ คิดว่าต้องรอสักระยะจึงจะมีความชัดเจนในรายละเอียด
“ผมอยากให้มองพระที่น่าเคารพ สร้างประโยชน์ให้หมู่บ้านและชุมชน พระที่ปฎิบัติดีปฎิบัติชอบยังมีอยู่จำนวนมากทั่วประเทศ มีเพียงไม่กี่คนที่เป็นปัญหาทำให้พระศาสนาเสื่อมเสีย ประเทศไทยคนส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ ขอให้ใช้วิจารณญาณเรื่องนี้ และอยากให้มองสมเด็จพระสังฆราช ทรงเป็นแบบอย่างที่ดีมาก มีพระจริยวัตรที่งดงามเป็นตัวอย่าง บางเรื่องรับสั่งในสิ่งที่เราหลงลืมไปแล้วเพราะไปสนใจเพียงแต่เรื่องที่สะใจเท่านั้น ในส่วนของ พศ.ได้รับนโยบายการทำงานไปแล้ว เรื่องใดที่ไม่ถูกต้องก็ทำให้ถูก และการตรวจสอบต่างๆ ก็ถือเป็นการปฏิรูป เพราะเป็นการทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น หลายเรื่องที่เป็นข่าวว่าไม่ดีแต่สุดท้ายก็จะเป็นเรื่องดีเพราะเราจะได้รู้ว่าสิ่งที่ดีและไม่ดีเป็นอย่างไร” พล.อ.ฉัตรชัยกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า เวลา 3 วันที่ทางการเยอรมนีขอเวลาตรวจสอบนั้นคิดว่าจะได้ตัวกลับมาดำเนินคดีที่ประเทศไทยหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ให้รอความชัดเจนก่อน เพราะขณะนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ก็เดินทางไปถึงเยอรมนีแล้ว
ต่อข้อถามถึงกระแสข่าวว่าอดีตพระพรหมเมธีปฎิเสธที่จะคุยกับเจ้าหน้าที่ของไทย พล.อ.ฉัตรชัยกล่าวว่า ไม่เป็นไร ว่าไปตามกติกากฎหมาย และหลักฐาน ส่วนพระรูปอื่นที่หลบหนีความผิดไปต่างประเทศจะดำเนินคดีอย่างไรนั้น พล.อ.ฉัตรชัยกล่าวว่า ถ้าผิดกฎหมายก็ทำตามกฎหมายทุกอย่างไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
เมื่อถามว่า อดีตพระที่ทำให้เสื่อมเสีย ส่วนใหญ่เป็นพระผู้ใหญ่ ที่ไม่น่าจะกระทำผิด รองนายกฯกล่าวว่า พระผู้ใหญ่ระดับพระราชาคณะมีเป็นร้อยรูปยังเป็นพระที่ดี แต่ที่เห็นว่าทำผิด 5-10 คนที่ทำให้เป็นปัญหา
เมื่อถามถึงการตรวจสอบผู้เกี่ยวข้องกับทุจริตเงินทอนวัด มีการขยายผลเพิ่มเติมในพื้นที่ใดบ้าง พล.อ.ฉัตรชัย กล่าวว่า ยังไม่มีรายงานเพิ่ม ส่วนที่ตรวจพบอยู่ในกระบวนการของตำรวจ ให้เดินหน้าทำงานไปเรื่อยๆ
ที่มา : มติชนออนไลน์