มะเร็งรักษาทุกที่ ยังไม่ต้องใช้ใบส่งตัว สปสช.เลื่อนใช้ประกาศฉบับใหม่

สปสช

สปสช. เลื่อนบังคับใช้ประกาศ “มะเร็งรักษาทุกที่” ฉบับใหม่อีก 3 เดือน เข้ารับการรักษาโรงพยาบาลอื่นยังไม่ต้องใช้ใบส่งตัว พร้อมตั้งคณะทำงานศึกษาปัญหา

นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ชี้แจงการปรับหลักเกณฑ์การเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลในโครงการ “มะเร็งรักษาทุกที่” หรือ Cancer Anywhere ว่าจากกรณีที่มีข่าวระบุว่าโครงการมะเร็งรักษาทุกที่ว่าจะมีการยกเลิกนั้น ตนขอยืนยันว่าไม่มีการยกเลิกและยังคงดำเนินการต่อ

เพียงแต่ที่ผ่านมาอาจมีความเข้าใจไม่ตรงกัน โดยเฉพาะการที่ สปสช.ได้ปรับหลักเกณฑ์เสมอ แต่ยังคงยืนยันว่าผู้ป่วยที่ถูกวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งสามารถไปรับบริการที่เกี่ยวข้องกับการรักษามะเร็งได้ ไม่ว่าจะเป็นรังสีรักษา เคมีบำบัด การผ่าตัด และการให้ฮอร์โมนได้ทุกที่โดยไม่ต้องมีใบส่งตัว

“เหตุที่เกิดขึ้นเนื่องจาก สปสช.ได้พยายามปรับหลักเกณฑ์ให้ชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีโรคร่วมต่าง ๆ เมื่อพยายามทำให้เกิดความชัดเจนก็เลยเกิดเป็นความไม่ชัดเจนขึ้น ซึ่งเมื่อวานนี้ (15 ธ.ค.) ได้มีการพูดคุยกับผู้บริหารโรงพยาบาลหลายแห่งที่ได้เผยแพร่ข้อมูล ว่าในวันที่ 1 มกราคม 2568 ก็ต้องขอใบส่งตัวจากผู้ป่วยที่ไปรักษาโรคมะเร็ง ได้แก่ รพ.จุฬาลงกรณ์ รพ.ศิริราช รพ.รามาธิบดี รพ.จุฬาภรณ์ รพ.ศรีนครินทร์ขอนแก่น เพื่อทำความเข้าใจกัน ออกมาเป็นข้อสรุปร่วมกัน 3 ประเด็น” นพ.จเด็จกล่าว

นพ.จเด็จกล่าวต่อว่า ประเด็นที่ 1 หลักเกณฑ์ที่ทาง สปสช.จะกำหนดออกมาใหม่ แต่ยังมีความไม่เข้าใจกัน ก็จะต้องชะลอการออกหลักเกณฑ์นั้นไปก่อน ซึ่งก็หมายความว่าต้องใช้หลักเกณฑ์เดิม โดยผู้ป่วยมะเร็งที่อยู่ในโครงการมะเร็งรักษาทุกที่เดิม ยังคงได้รับบริการเหมือนเดิม ไม่จำเป็นต้องมีใบส่งตัว ซึ่งจะรวมถึงโรคร่วม ภาวะแทรกซ้อน และการรักษาต่อเนื่องด้วย

โดยจะมีการผ่อนผันในช่วง 3 เดือนเพื่อดูผลการทำงานร่วมกัน ทาง สปสช.จะตั้งคณะทำงาน โดยมี ผศ.นพ.สนั่น วิสุทธิศักดิ์ชัย รองผู้อำนวยการ รพ.ศิริราช เป็นประธาน ซึ่งจะมีการทบทวนข้อมูล ปัญหาที่เกิดขึ้น นำมาวางแผนการให้บริการประชาชนในอนาคตให้มีประสิทธิภาพดีขึ้นมาอีก

ADVERTISMENT

“โครงการนี้ยังมีความท้าทายหลายอย่าง ซึ่งอาจารย์แพทย์หลายท่านอยากให้มีระบบที่ดูแลเรื่องยา การตรวจทางห้องปฏิบัติการ และเรื่องงบประมาณ เนื่องจากการรักษาโรคมะเร็งใช้งบประมาณสูง นอกจากนั้น หลายโรงพยาบาลที่มีผู้ป่วยไปใช้บริการมากขึ้น ภาระงานของบุคลากรก็เพิ่มขึ้น จึงมีมติว่าต้องชะลอหลักเกณฑ์ใหม่ ๆ ออกไปก่อน 3 เดือน และใช้เวลานี้ในการทำงานร่วมกัน

ส่วนเรื่องใบส่งตัวที่มีความกังวลว่า สปสช.จะต้องใช้เพื่อตามไปจ่ายเงินนั้น ยืนยันว่าไม่ต้องมี แต่จากการหารือกันเมื่อวานนี้ มีข้อสรุปว่าต้องใช้การเชื่อมข้อมูลผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อบันทึกข้อมูลผู้ป่วย ซึ่งจะใช้ระบบ TCB Plus ของสถาบันมะเร็งแห่งชาติ ที่มีข้อมูลผู้ป่วยมะเร็งทั่วประเทศ ให้ทาง รพ. ทุกแห่งได้เข้าไปดู ซึ่งขอให้ความมั่นใจกับประชาชนว่าไม่มีการยกเลิกโครงการมะเร็งรักษาทุกที่ และในอนาคตจะทำให้ดีกว่าเดิม” เลขาสปสช.กล่าว

ADVERTISMENT

นพ.จเด็จกล่าวว่า ตนขอยืนยันว่าผู้ป่วยที่ถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคมะเร็งยังคงไปรับบริการที่ รพ.ใกล้บ้านที่มีความพร้อมได้ ไม่ว่าจะเป็นรังสีรักษา เคมีบำบัด หรือการผ่าตัด และยังรวมเรื่องของภาวะแทรกซ้อน และโรคร่วมต่าง ๆ ด้วย นอกจากนั้น สปสช.ก็จะหารือร่วมกับ รพ.อื่นในทุก ๆ สังกัดด้วย

ทั้งนี้ นพ.จเด็จกล่าวว่า ขอประชาสัมพันธ์ถึงนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว ขยายเฟสสุดท้ายรวม 31 จังหวัด ซึ่งจะครบทั่วประเทศ 77 จังหวัด จะมีการคิกออฟในวันที่ 25 ธันวาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเป็นประธานเปิดงาน ยืนยันว่าภายในสิ้นปี 2567 ทุกจังหวัดจะดำเนินโครงการ 30 บาทรักษาทุกที่ได้อย่างแน่นอน