สปสช.-โรบินสัน MOU เปิดหน่วยบริการในห้าง หนุน 30 บาทรักษาทุกที่

สปสช. จับมือโรบินสัน ลงนามความร่วมมือสนับสนุนพื้นที่ ‘โรบินสัน ไลฟ์สไตล์’ เปิดหน่วยบริการสาธารณสุข หนุนนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ เพิ่มการเข้าถึงสะดวก รวดเร็ว ใกล้บ้าน

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เป็นประธานพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (เอ็มโอยู) สนับสนุน 30 บาทรักษาทุกที่ โดยการสนับสนุนพื้นที่ภายในศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ เพื่อให้หน่วยบริการในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติจัดบริการสาธารณสุขให้กับประชาชน

ลงนามโดย นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และนางนุจรีย์ มารัตนะฤกษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายบริการจัดการ ศูนย์การค้าโรบินสัน ไลฟ์สไตล์ มี นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ รองปลัด สธ. รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) น.ส.วรารัตน์ ระย้า ที่ปรึกษาประธานสภากรุงเทพมหานคร คณะผู้บริหาร สปสช. คณะผู้บริหารศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ ร่วมเป็นสักขีพยาน

นายสมศักดิ์กล่าวว่า รัฐบาลมุ่งมั่นยกระดับการดูแลสุขภาพของคนไทยทุกคน จึงกำหนดนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ เพื่อให้ประชาชนได้เข้าถึงบริการสุขภาพที่สะดวก รวดเร็ว ใกล้บ้าน โดยมีหนึ่งในนวัตกรรมบริการใหม่ คือหน่วยบริการเชิงรุกในศูนย์การค้า ที่ปัจจุบันได้พัฒนาสู่การเป็น “คอมมิวนิตี้มอลล์” ซึ่งเป็นพื้นที่แห่งการรวมตัวของผู้คนในเขตเมือง

“ลงนามบันทึกข้อตกลงเรื่องการสนับสนุนพื้นที่ภายในศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ เพื่อให้หน่วยบริการในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ จัดบริการสาธารณสุขให้กับประชาชน ระหว่าง สปสช.กับบริษัท โรบินสัน จำกัด (มหาชน) ขอบคุณ บริษัท โรบินสันฯ ที่เปิดพื้นที่ภายในศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เชื่อมั่นว่าความร่วมมือนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นสู่การขยายบริการไปยังศูนย์การค้าต่าง ๆ ช่วยยกระดับหลักประกันสุขภาพของประเทศ เพื่อให้คนไทยทุกคนมีสุขภาพที่ดีต่อไป” นายสมศักดิ์กล่าว

นอกจากนี้ นายสมศักดิ์กล่าวระหว่างเยี่ยมชมบูทตรวจสุขภาพประชาชน แจกสติ๊กเกอร์ 30 บาทรักษาทุกที่ให้กับรถแท็กซี่รับ-ส่งผู้ป่วย โดยมูลนิธิเส้นด้ายที่ร่วมให้บริการประชาชน ว่าประเด็นการรักษาพยาบาลแรงงานต่างชาตินั้นก็เป็นไปตามกฎหมาย

“อะไรที่เขาเคยได้ ก็ได้ ส่วนไหนที่ไม่ได้ ก็คือไม่ได้ เป็นไปตามกฎหมายหลัก เรื่องชาวต่างชาติมาคลอดบุตรในประเทศไทยที่มีดราม่ากันตลอดนั้น ก็ต้องบอกว่าประเทศไทยมีคนต่างชาติหลายประเภทที่เข้ามา บางส่วนต้องการเข้ามาทำงาน บางคนตกงานก็มี หรือมีบางส่วนที่รอการรับรองสิทธิ คล้ายกับรับบัตรประชาชน ซึ่งมีกฎหมายและมีมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เดิมที่ระบุถึงการให้บริการแค่ไหน อย่างไร ก็เป็นไปตามสิทธินั้น ซึ่งมีหลายแบบ” นายสมศักดิ์กล่าว