“ผอ.ขนมจีนคลุกน้ำปลา” จ่อผิดวินัยร้ายแรง ต้นสังกัดเตรียมให้ออกจากราชการไว้ก่อน

เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 11 มิถุนายน นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้เดินทางไปสุ่มตรวจการจัดเลี้ยงอาหารกลางวันแก่นักเรียนที่โรงเรียนวัดเขาพระนิ่ม หมู่ 1 ต.ท่าทอง อ.กาญจนดิษฐ์ โดยไม่ได้แจ้งให้ทางโรงเรียนทราบล่วงหน้าและเข้าไปที่โรงอาหารทันที ซึ่งนายสาธิต สร้างสกุล ผู้อำนวยการโรงเรียนได้รับทราบจากครูและแม่ครัวรีบมาพบและนำตรวจ  ทั้งนี้ พบว่าได้มีการทำอาหารกับข้าวเป็นต้มจับฉ่ายหมู กับแกงมะเขือเปราะ และผลไม้เป็นฝรั่ง ใส่ถาดหลุมแจกนักเรียนที่เข้าแถวรับอาหารกินอย่างเอร็ดอร่อย

นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า ต้องการตรวจสอบด้วยตัวเองว่าโรงเรียนแต่ละแห่งดำเนินการถูกต้องหรือไม่ ซึ่งพบว่าไม่มีการทุจริตและบางโรงเรียนที่มีพื้นที่ได้มีการปลูกผักสวนครัว นำมาทำอาหารกลางวันให้นักเรียน ซึ่งจะออกสุ่มตรวจไปเรื่อยๆโดยไม่แจ้งให้ทราบ ส่วนการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีนายสมเชาว์ สิทธิเชนทร์ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านท่าใหม่ หมู่17 ต.ประสงค์ อ.ท่าชนะ ถูกผู้ปกครองร้องเรียนทุจริต ได้รับรายงานขณะนี้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสุราษฎร์ธานีเขต2 กำลังดำเนินการรวบรวมเอกสารหลังได้สอบสวนผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้ว

นายวิชวุทย์ กล่าวว่า เนื่องจากมีหลายประเด็นและเอกสารมีจำนวนมาก ซึ่งกำลังตรวจสอบความถูกต้องทั้งหมดก่อนจะนำเสนอต่อศึกษาธิการจังหวัดสุราษฎร์ธานี และสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดสุราษฎร์ธานี จะต้องตรวจสอบความถูกต้องทั้งหมดก่อนนำมาเสนอตนซึ่งในข้อร้องเรียนมีหลายประเด็น ทำให้การตรวจสอบต้องใช้เวลาพอสมควร และหากการตรวจสอบพบว่ามีความผิดก็จะได้สั่งการให้มีการดำเนินการทางวินัยอย่างร้ายแรงต่อไป

ด้านนายประทีป ทองด้วง ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุราษฏร์ธานี เขต 2 เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมเอกสารการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีนายสมเชาว์ สิทธิเชนทร์ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านท่าใหม่ หมู่17 ต.ประสงค์ อ.ท่าชนะ ถูกผู้ปกครองร้องเรียน ที่มีนายจักรรินทร์ อภิสมัย รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุราษฎร์ธานี เขต 2 เป็นประธาน โดยจะพิจารณารายระเอียดต่างๆที่ได้จากการสอบสวน ซึ่งยังไม่เรียบร้อยเนื่องจากมีเอกสารมากถึง 600 หน้า อย่างไรก็ตามจะให้รีบแล้วเสร็จและนำเสนอนายชุมพล ศรีสังข์ ศึกษาธิการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อพิจารณาตรวจสอบและนำหารือ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ก่อนจะมีความเห็นสั่งให้นายสมเชาว์ ออกจากราชการไว้ก่อน

ต่อมาเวลา 14.00 น.ที่สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายประทีป ทองด้วง ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุราษฏร์ธานี เขต 2 ได้นำเอกสารสรุปผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงใส่ซองสีน้ำตาลประทับหน้าซองว่า “ ลับ ” จำนวน 2 ซองมาส่งมอบให้นายชุมพร ศรีสังข์ ศึกษาธิการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อดำเนินการพิจารณาต่อไป

นายชุมพร ศรีสังข์ ศึกษาธิการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า กระบวนการต่อไปตนและนิติกรสำนักงานฯ จะนำเอกสารมาตรวจสอบความถูกต้องอีกครั้ง เนื่องจากยังมีกรอบเวลาการสืบสวนข้อเท็จจริงอีกอย่างน้อย 2 วัน เพราะคณะกรรมการฯ ได้ใช้เวลาทำงานไปเพียง 4 วันเท่านั้น และเบื้องต้นเท่าที่ได้มีการรายงานพบว่าเข้าข่ายความผิดวินัย และวินัยร้ายแรง ซึ่งหากเป็นสำนวนที่มีความผิดวินัยร้ายแรงอยู่ด้วยแล้วไม่จำเป็นต้องต้องกรรมการสอบสวนวินัยอีก ซึ่งจะขอเวลาตรวจสำนวน เพื่อความถูกต้องและเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ก่อนจะนำความเห็นรายงานต่อผู้ว่าราชการจังหวัด

นายชุมพร กล่าวว่า คาดว่าอย่างช้าสุดจะเสนอต่อผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ในวันที่ 11 มิ.ย.นี้ พร้อมกับรายงานข้อเท็จจริงให้กระทรวงศึกษาธิการ เพื่อดำเนินการตามคำสั่ง คสช. ที่จะต้องให้ข้าราชการที่ถูกตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงออกจากราชการ หรือ พักราชการไว้ก่อนจนกว่าการสอบสวนจะแล้วเสร็จ

“ ขอให้ทุกฝ่ายมีความมั่นใจในกระบวนการรายงานผลการสืบสวนข้อเท็จจริง และสำนวนการสอบสวนจะไม่สามารถเปลี่ยนหรือช่วยเหลือกันได้ ศึกษาธิการจังหวัดทำหน้าที่เหมือนพนักงานอัยการ ที่มีหน้าที่พิจารณาสำนวนฟ้องต่อศาล สำนวนว่ามาอย่างไรก็ต้องเป็นไปอย่างนั้น โดยหน้าที่แล้วยังไม่มีโอกาสพูดคุยกับนายสมเชาว์ เนื่องจากไม่ใช้อำนาจบังคับบัญชา แต่หลังจากเข้าสู่กระบวนการสอบสวนทางวินัยแล้วนายสมเชาว์ต้องมีหน้าที่มาให้ปากคำต่อไป ” นายชุมพล กล่าว

ข่าวแจ้งว่า การสืบสวนข้อเท็จจริงตามคำร้องเรียนของผู้ปกครองพบมีมูลการทุจริต จำนวน 5 เรื่อง 1.โครงการตั้งเสาไฟฟ้าในโรงเรียน จำนวน 8 ต้น แต่มีจริง 6 ต้น 2.โครงการก่อสร้างถนนคอนกรีตในโรงเรียน มีการเบิกงบประมาณซ้ำซ้อนและนำเงินจากการจัดงานการกุศลไปด้วย รวมเกือบ 3 แสนบาท 3.โครงการอาหารกลางวันที่เป็นปัญหาจัดอาหารไม่มีคุณภาพและมีการทุจริตจัดซื้อวัสดุ 4.การขายผลผลิตปาล์มน้ำมันไม่นำเงินรายได้เข้าโรงเรียน 5.การจำหน่ายเครื่องดื่มน้ำอัดลม ที่กระทรวงศึกษาธิการได้มีคำสั่งห้ามไว้ก่อนแล้ว ซึ่งทั้งหมดเป็นความผิดวินัยร้ายแรง

รายงานข่าวแจ้งว่า วันเดียวกัน นายสมเชาว์ สิทธิเชนทร์ อดีตผู้อำนวยโรงเรียนบ้านท่าใหม่ ที่ครบกำหนดการลาแล้ว 5 วัน ได้เดินทางเข้ารายงานตัวกับนายประทีป ทองด้วง ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุราษฎร์ธานี เขต 2 และยื่นขอลากิจต่ออีก 5 วัน

 

 

 

ที่มา มติชนออนไลน์