
กรมอุตุฯเผยวันนี้ (13 ม.ค. 68) อากาศหนาวเย็นที่สุดในรอบปีและหลายปีที่ผ่านมา อุณหภูมิต่ำที่สุด 6.6 องศาเซลเซียส ที่สกลนคร ส่วน กทม.และปริมณฑลต่ำสุด 15 องศา ชี้หลัง 14 ม.ค.อากาศจะอุ่นขึ้น และเฉพาะบริเวณภาคเหนือ ภาคอีสานตอนบน ยังสัมผัสอากาศเย็นถึงหนาวได้จนถึงราวปลายเดือนมกราคม 2568
กรมอุตุนิยมวิทยา อัพเดตสภาพอากาศวันนี้ว่า เช้าวันนี้ (13 ม.ค. 68) มวลอากาศเย็นกำลังแรง ยังแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ลมหนาวยังคงพัดแรง อุณหภูมิยังลดลงได้ อาจลดลงไปถึงภาคใต้ตอนบน โดยภาคเหนือ ลดลง 2-4 องศาเซลเซียส ภาคอีสานลดลง 1-2 องศาเซลเซียส อากาศหนาวหลายพื้นที่ หนาวจัดยังคงเกิดขึ้นได้บริเวณยอดภู ยอดดอย ต้องเฝ้าระวังอากาศที่เปลี่ยนแปลง ระวังลมแรงและอากาศหนาวเย็น
ส่วนภาคใต้ฝั่งอ่าวไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้นบ้างและตกหนักบางแห่งบริเวณภาคใต้ตอนล่าง (ปัตตานี ยะลา นราธิวาส) คลื่นลมแรงขึ้น ระวังคลื่นซัดฝั่ง ชาวเรือต้องเฝ้าระวังเรือเล็กงดออกจากฝั่งโดยเฉพาะบริเวณอ่าวไทย
กรมอุตุฯระบุว่า วันนี้ (13 ม.ค. 68) เป็นวันที่มีอากาศหนาวเย็นที่สุดในรอบปีนี้และหลายปีที่ผ่านมา ต่ำที่สุด 6.6 องศาเซลเซียส ที่สถานีอุตุนิยมวิทยา (เกษตร) หรือ สกษ.สกลนคร จ.สกลนคร โดยประเทศไทยตอนบนยังมีอากาศหนาวถึงหนาวจัดหลายพื้นที่ รวมทั้งบริเวณพื้นที่ กทม.และปริมณฑล ต่ำสุดบริเวณพื้นที่ กทม.และปริมณฑล วัดได้ 14.8 องศาเซลเซียส ที่สถานีอุตุนิยมวิทยา กำแพงแสน จ.นครปฐม
ส่วนในพื้นที่กรุงเทพมหานครต่ำที่สุด 15.2 องศาเซลเซียส ที่สถานีอุตุนิยมวิทยา กรมอุตุนิยมวิทยา บางนา กรุงเทพฯ ที่สนามบินสุวรรณภูมิ 15.9 องศาเซลเซียส ส่วนภาคใต้อากาศเย็นยังคงลงไปถึงภาคใต้ตอนกลาง สำหรับฝนยังมีฝนเกิดขึ้นบริเวณภาคใต้ฝั่งอ่าวไทยเป็นฝนเล็กน้อย ถึงปานกลาง มากที่สุด 26.8 มม. ที่ สอต.นราธิวาส จ.นราธิวาส
ส่วนวันที่ 14-15 ม.ค. 68 มวลอากาศเย็นที่แผ่ลงมาปกคลุมมีกำลังอ่อนลงบ้าง ทำให้อุณหภูมิจะอุ่นขึ้น
หลังจากนั้นช่วงวันที่ 16-18 ม.ค. 68 ยังมีมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงเสริมลงมาอีกครั้ง ทำให้ทางตอนบนยังมีอากาศเย็นถึงหนาว ฤดูหนาวยังไม่สิ้นสุด ยังสามารถสัมผัสอากาศหนาวเย็นถึงหนาวได้ต่อเนื่องบริเวณภาคเหนือ ภาคอีสานตอนบน ถึงปลายเดือนมกราคม
ส่วนภาคใต้ฝั่งอ่าวไทยมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ช่วง 15-17 ม.ค. 68 และช่วงหลัง 19-27 ม.ค. 68 มวลอากาศเย็นที่แผ่ลงมาปกคลุมจะเริ่มมีกำลังอ่อนลง อุณหภูมิจะเริ่มอุ่นขึ้นแล้ว ทิศทางลมมีเปลี่ยนทิศทาง
(ข้อมูลนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ ตามข้อมูลนำเข้าและประมวลผลใหม่ ใช้เป็นแนวทางประกอบการตัดสินใจและติดตามสภาพอากาศ)



พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย
12:00 น. วันนี้ ถึง 12:00 น. วันพรุ่งนี้
ภาคเหนือ
อากาศหนาวถึงหนาวจัดกับมีหมอกในตอนเช้า
อุณหภูมิต่ำสุด 8-14 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 25-29 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดดอยอากาศหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 2-7 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อากาศหนาวถึงหนาวจัดกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิจะเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย
อุณหภูมิต่ำสุด 7-13 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 25-29 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดภูอากาศหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5-9 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
ภาคกลาง
อากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิจะเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย
อุณหภูมิต่ำสุด 13-17 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 26-28 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ภาคตะวันออก
อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิจะเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย
อุณหภูมิต่ำสุด 14-21 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 27-30 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
ทางตอนบนของภาค : อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิจะเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย ส่วนทางตอนล่างของภาค : มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดสงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส
อุณหภูมิต่ำสุด 16-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 25-32 องศาเซลเซียส
ตั้งแต่่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา : ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร
ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป : ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-45 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดตรัง และสตูล
อุณหภูมิต่ำสุด 20-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 2-3 เมตร
และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร
กรุงเทพฯและปริมณฑล
อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิจะเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย
อุณหภูมิต่ำสุด 16-18 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 26-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
คาดหมายอากาศ 7 วัน
กรมอุตุฯยังคาดหมายลักษณะอากาศ 7 วันข้างหน้า (13 – 19 มกราคม 2568) เพิ่มเติมว่า ในช่วงวันที่ 14 – 15 ม.ค. ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกไว้ด้วย
ส่วนในช่วงวันที่ 16 – 19 ม.ค. 67 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลง รวมทั้งระวังอันตรายจากอัคคีภัย เนื่องจากสภาพอากาศแห้งและลมแรง
สำหรับประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออกระวังอันตรายจากคลื่นที่ซัดเข้าหาชายฝั่ง ส่วนชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง เรือเล็กบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่งไว้ด้วย

(ออกประกาศ 13 มกราคม 2568)
สอดรับกับข้อมูลของ เพจพยากรณ์อากาศประเทศไทย “ฟ้าฝน-fahfon” ระบุว่า วันนี้ (13 ม.ค. 68) หนาวพีก ่ส่วนวันที่ 14 ม.ค. 2568 ยังคงหนาวอยู่แบบรองพีก (ดูพื้นที่ตามสีน้ำเงินเข้ม-ตามกราฟิก)
พร้อมทั้งพยากรณ์อุณหภูมิต่ำสุดกรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 13-27 ม.ค. 2568 เรียงตามวัน ดังนี้ 18.5, 19.8, 21.1, 23.1, 22.9, 22.9, 22.9, 23.3, 22.8, 22.3, 23.5, 24.1, 24.6, 25.8, 26.7 องศา
ทั้งนี้หากดูกราฟฟิกของเพจฟ้าฝนจะเห็นว่า อากาศหนาวเย็นจะทะยอยลดลงหรืออุ่นขึ้น (จากสีน้ำเงินเข้มที่จางลง) ตั้งแต่วันที่ 24 มกราคม 2568 เป็นต้นไป ยกเว้นพื้นที่ภาคอีสานตอนบนที่น่าจะหนาวเย็นไปจนถึงวันที่ 27 มกราคม 2568
