
ย้อนรอยที่มาของการกำหนดเวลาซื้อ-ขายเครื่องดื่มสุราในประเทศไทย มีสาเหตุมาจากอะไร กำหนดไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ต่างจากข้อบังคับใช้ในปัจจุบันอย่างไร ?
นักดื่มหลายคนต้องสงสัยว่า ทำไมประเทศของเราถึงต้องมีการกำหนดซื้อ-ขายสุราเป็นเวลา หรือห้ามจำหน่ายในวันสำคัญทางพุทธศาสนา ด้วยเหตุผลมากมายอย่างการเป็นเมืองพุทธ ข้อกังวลเกี่ยวกับอุบัติเหตุทางถนน และการจัดระเบียบสังคม ประชาชาติธุรกิจ พาย้อนหาคำตอบสำหรับเรื่องนี้
เริ่มครั้งแรก 73 ปีก่อน
ย้อนกลับไปปี 2495 สมัยจอมพล ป. พิบูลสงคราม ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี มีการออกพระราชกฤษฎีกากาควบคุมโภคภัณฑ์ ฉบับที่ 2 โดยมีข้อความระบุถึงการกำหนดเวลาห้ามขายสุราใน 2 ช่วงเวลา ได้แก่ 11.00-14.00 น. และ 17.00-22.00 น. โดยห้ามไม่ให้ขายสุราประเภทที่ 3 ถึง 6 รวมถึงห้ามไม่ให้ดื่มสุราในร้านที่จำหน่ายสุรา ปรากฏในมาตรา 4 ของกฤษฎีกา
ซึ่งการกำหนดเวลามีการปรับเปลี่ยนเรื่อย ๆ ตามแต่ละยุคสมัยของรัฐบาล เมื่อมาถึงช่วงปี 2504 ที่จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีก็ได้มีการยกเลิกความในมาตรา 4 แห่งพระราชกฤษฎีกาควบคุมโภคภัณฑ์ (ฉบับที่ 2) คือ ห้ามไม่ให้ขาย หรือดื่มในสถานที่ขายสุราตั้งแต่เวลา 11.00-14.00 น. และตั้งแต่ 12.00-12.00 น. ของวันถัดไป
ต่อมาในยุคจอมพลถนอม กิตติขจร ก็มีการปรับเปลี่ยนเวลาเช่นเดียวกัน โดยในประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 46 ใจความว่า ในช่วงเวลานั้นได้มีการกำหนดเวลาขายและดื่มสุราในร้านจำหน่ายไว้ยังไม่เหมาะสม จึงควรกำหนดเวลาใหม่ เพื่อเป็นการประหยัด และรักษาสุขภาพของประชาชน หัวหน้าคณะปฏิวัติจึงมีคำสั่งลดเวลาขายสุราให้เหลือถึงแค่เที่ยงคืนของวันนั้น ๆ
สุราไทย เล่าว่า สมัยก่อนข้าราชการไทยชอบออกไปดื่มสุราตอนกลางวัน แล้วติดลมยาวไปถึงบ่าย จึงมีกำหนดเวลาขาย เป็นที่มาของประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 253 เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2515 เพื่อป้องกันข้าราชการเถลไถล จึงออกประกาศของคณะปฏิวัติดังกล่าว โดยในข้อ 2 วรรคหนึ่ง ระบุว่า
ห้ามมิให้ผู้ได้รับอนุญาตขายสุราประเภทที่ 3 ถึงประเภทที่ 6 ตามความในกฎหมายว่าด้วยสุรา หรือบุคคลใดซึ่งกระทำการเพื่อประโยชน์ของผู้ได้รับใบอนุญาตขายสุราดังกล่าว จำหน่ายสุราทุกชนิดในเวลาอื่น นอกจากตั้งแต่เวลา 11.00 นาฬิกา ถึงเวลา 14.00 นาฬิกา และตั้งแต่เวลา 17.00 นาฬิกา ถึงเวลา 24.00 นาฬิกา เว้นแต่ได้รับใบอนุญาตจากอธิบดีกรมตำรวจสำหรับนครหลวงกรุงเทพธนบุรี หรือผู้ว่าราชการจังหวัดสำหรับจังหวัดอื่น
ตรงกับเหตุผลกำหนดเวลาขายสุราใน พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 ที่ควบคุมทั้งวัน-เวลาในการจำหน่าย, ฉลากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์, สถานที่ห้ามขาย-บริโภค และการโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่ระบุว่า
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ก่อให้เกิดปัญหา ด้านสุขภาพ ครอบครัว อุบัติเหตุและอาชญากรรม ซึ่งมีผลกระทบต่อสังคมและเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ สมควรกำหนดมาตรการต่าง ๆ ในการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
รวมทั้งการบำบัดรักษาหรือฟื้นฟูสภาพผู้ติดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อช่วยลดปัญหาและผลกระทบทั้งด้านสังคมและเศรษฐกิจ ช่วยสร้างเสริมสุขภาพของประชาชนโดยให้ตระหนักถึงพิษภัยของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ตลอดจนช่วยป้องกันเด็กและเยาวชนมิให้เข้าถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้โดยง่าย จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้
ถึงแม้ว่าจะมีเจตนาดีในการดัดนิสัยข้าราชการที่ประพฤติตนไม่ดี และกฎหมายฉบับนี้ก็ได้บังคับใช้ประชาชนมามากกว่า 50 ปี และกลายมาเป็นมรดกตกทอดมาจนถึงปัจจุบัน
อยู่ใน “ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดเวลาห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2558” โดยมีการยกเว้นให้ขายนอกเวลาได้ เฉพาะในสนามบินนานาชาติกับสถานบริการ
อย่างไรก็ตาม ผศ.ดร.ณัฐกร วิทิตานนท์ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ให้ความเห็นผ่านบทความ เหล้า บุหรี่ กฎหมาย และความชอบธรรม ว่า เป็นกฎหมายที่มีที่มาอย่างไม่ชอบธรรม เนื่องจากกฏหมายที่มาจากคณะปฏิวัตินั้น ไม่ได้มาจากเจตนารมณ์ร่วมกันของทุกภาคส่วน รวมถึงประชาชน
ปัจจุบัน การขายสุรา มีข้อห้ามอย่างไร ?
สำหรับการกำหนดการห้ามขายสุราในปัจจุบัน ยังคงเป็นไปตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 ระบุโทษของการฝ่าฝืนจำหน่ายสุราว่ามีโทษจำคุก 6 เดือน ปรับ 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งผู้ที่สามารถซื้อขายได้ต้องมีอายุ 20 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
และห้ามจำหน่ายในพื้นที่ห้ามจำหน่าย ซึ่งเป็นสถานจัดงานอยู่ในความดูแลขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เช่น ริมแม่น้ำ ริมคลอง แนวชายหาด หากพบกระทำผิด จะดำเนินการตามกฎหมายทันทีโดยไม่ละเว้น มีโทษสูงสุดคือ จำคุก 1 ปี หรือปรับ 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ส่วนกำหนดเวลาตั้งแต่ 11.00-14.00 น. และ 17.00-24.00 น. ยกเว้นการขายในท่าอากาศยานนานาชาติ และการขายในสถานบริการ ประกอบกับ ประกาศจากสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดวันห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2567 ปรับปรุงการกำหนดวันห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2558 เพื่อให้มีความเหมาะสม และสอดคล้องกับสภาพการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปในปัจจุบัน
- ยกเลิกประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดวันห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2558 ลงวันที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558
- ห้ามผู้ใดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา วันอาสาฬหบูชา วันเข้าพรรษา และวันออกพรรษา ยกเว้นการขายในอาคารที่ให้บริการแก่ผู้โดยสารภายในสนามบินที่ให้บริการเที่ยวบินระหว่างประเทศ
- ห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 5 วันสำคัญทางพุทธศาสนา ได้แก่ วันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา วันอาสาฬหบูชา วันเข้าพรรษา และวันออกพรรษา
ยกเว้นการขายในอาคารที่ให้บริการแก่ผู้โดยสารภายในสนามบินที่ให้บริการเที่ยวบินระหว่างประเทศ และมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 26 ธันวาคม 2567 เป็นต้นไป