
ตรวจสอบสภาพอากาศ 7 วันล่วงหน้า กรมอุตุฯเตือนรับมือ “มวลอากาศเย็นชุดสุดท้าย” 26-29 ม.ค.นี้ “ภาคเหนือ-อีสาน” อุณหภูมิลดแรง 3-5 องศาเซลเซียส ยอดดอย-ยอดภู ต่ำสุด 2-3 องศา กับมีน้ำค้างแข็งและหมอกหนาบางพื้นที่ ส่วนภาคกลาง ตะวันออก กทม.และปริมณฑล จะลดลง 2-4 องศา กรุงเทพฯรอบนี้คาดเย็นสุด 16 องศา
กรมอุตุนิยมวิทยา คาดหมายอากาศทั่วไป 7 วันข้างหน้า ระหว่างวันที่ 23-29 มกราคม 2568 ว่า ในช่วงวันที่ 23-25 ม.ค. 68 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้มีกำลังอ่อนลง ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวจะมีอุณหภูมิสูงขึ้น แต่ยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีหมอกหนาในบางพื้นที่ โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนืออุณหภูมิจะสูงขึ้น 2-4 องศาเซลเซียส ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก อุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส
สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันจะมีกำลังอ่อนลง ทำให้คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังอ่อนลง โดยอ่าวไทยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ทะเลอันดามันมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ส่วนในวันที่ 26-29 ม.ค. 68 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงระลอกใหม่จากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอุณหภูมิลดลงกับมีลมแรงก่อน ส่วนภาคอื่น ๆ จะได้รับผลกระทบในวันถัดไป
โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนืออุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส
สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนเพิ่มขึ้นและฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังแรงขึ้น โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งและบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ข้อควรระวัง
ในช่วงวันที่ 23-25 ม.ค. 68 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบน ระมัดระวังการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกไว้ด้วย
ส่วนในช่วงวันที่ 26-29 ม.ค. 68 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลง รวมทั้งระวังอันตรายจากอัคคีภัยเนื่องจากสภาพอากาศแห้งและลมแรง
โดยในช่วงวันที่ 27-29 ม.ค. 68 สำหรับประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออกระวังอันตรายจากฝนตกหนัก และฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก รวมทั้งระวังอันตรายจากคลื่นที่ซัดเข้าหาชายฝั่งไว้ด้วย ส่วนชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง เรือเล็กบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่ง
คาดหมายอากาศรายภาค
วันที่ 23-29 ม.ค. 68
ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 23-26 ม.ค. 68 อากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีหมอกหนาบางพื้นที่ และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 13-19 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-35 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 4-14 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 5-15 กม./ชม.
ส่วนในวันที่ 27-29 ม.ค. 68 อากาศเย็นถึงหนาว กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 11-17 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 24-29 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 2-10 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 23-25 ม.ค. 68 อากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกบางในตอนเช้า โดยมีหมอกหนาบางพื้นที่ และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 2-4 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 12-19 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-35 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-15 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-15 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 26-29 ม.ค. 68 อากาศเย็นถึงหนาว กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 8-17 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 24-29 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศหนาวถึงหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 3-10 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 23-26 ม.ค. 68 อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า โดยมีหมอกหนาบางพื้นที่ และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 16-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-15 กม./ชม.
ส่วนในวันที่ 27-29 ม.ค. 68 อากาศเย็นถึงหนาว กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 14-19 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-30 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 23-26 ม.ค. 68 อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 16-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ส่วนในวันที่ 27-29 ม.ค. 68 อากาศเย็นถึงหนาว กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 14-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26-30 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
ตอนบนของภาคมีอากาศเย็นในตอนเช้าตลอดช่วง
ในช่วงวันที่ 23-25 ม.ค. 68 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ทางตอนล่างของภาค ส่วนในวันที่ 26-29 ม.ค. 68 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
ในช่วงวันที่ 23-26 ม.ค. 68 ตั้งแต่ จ.นครศรีธรรมราชขึ้นไป ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร
ตั้งแต่ จ.สงขลาลงมา ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ส่วนในวันที่ 27-29 ม.ค. 68 ตั้งแต่ จ.นครศรีธรรมราชขึ้นไป ลมตะวันออกเฉียงเหรือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ตั้งแต่ จ.สงขลาลงมา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 15-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-34 องศาเซลเซียส
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
ในช่วงวันที่ 23-25 ม.ค. 68 มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง
ส่วนในวันที่ 26-29 ม.ค. 68 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ ในช่วงวันที่ 23-26 ม.ค. 68 ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ส่วนในวันที่ 27-29 ม.ค. 68 ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นและบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส
กรุงเทพฯและปริมณฑล
ในช่วงวันที่ 23-26 ม.ค. 68 อากาศเย็น กับมีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 17-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-15 กม./ชม.
ส่วนในวันที่ 27-29 ม.ค. 68 อากาศเย็นกับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 16-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-30 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

(ออกประกาศ 23 มกราคม 2568 12.00 น.)
สอดรับกับข้อมูลของ เพจฟ้าฝน พยากรณ์อากาศประเทศไทย ที่ระบุว่า ช่วงวันที่ 27-29 ม.ค. 2568 นี้ ลมตะวันออกเฉียงเหนือจะแรง อากาศจะเย็นลง ฝุ่นจะลดลง พร้อมอัพเดตตารางความหนาวช่วง 24 ม.ค.-7 ก.พ.
ทั้งนี้ จากกราฟิกจะเห็นว่าช่วงวันที่ 24-26 ม.ค. 68 หลายพื้นที่อากาศจะอุ่นขึ้น แต่ยังคงมีความเย็นอยู่ จากนั้นช่วงวันที่ 27-30 ม.ค. 68 อากาศจะกลับมาหนาวเย็นอีกครั้ง สังเกตได้จากสีน้ำเงินเข้มที่เพิ่มขึ้น แต่หลังจากวันที่ 31 ม.ค. อากาศจะอุ่นขึ้น แต่ยังคงมีความเย็นต่อเนื่องไปจนถึงช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ดูกราฟิกท้ายข่าว)
“ตารางความหนาวช่วง 24 ม.ค.-7 ก.พ. ใครชอบเย็น ๆ เล็งพื้นที่น้ำเงิน น้ำเงินเข้ม” เพจฟ้าฝนระบุ
