
กรมอุตุฯออกประกาศเตือนฉบับที่ 2 อากาศหนาวเย็นบริเวณประเทศไทยตอนบน และคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทย มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 26-28 มกราคม 2568 ระบุชัด “ภาคอีสาน”อุณหภูมิลดแรง 3-5 องศาเซลเซียส ส่วนภาคอื่นๆ รวมกทม.และปริมณฑล ลดลง 2-4 องศา คาดเป็นหนาวเย็นช่วงสุดท้าย เพจฟ้าฝนชี้ช่วง 27-29 ม.ค.นี้ นอกจากหนาวเย็นแล้ว ลมจะแรงขึ้น ฝุ่นจะลดลงด้วย
นางสาวสุกันยาณี ยะวิญชาญ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา อออกประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา ฉบับที่ 2 เรื่อง อากาศหนาวเย็นบริเวณประเทศไทยตอนบน และคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทย มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 26-28 มกราคม 2568)
ประกาศฉบับดังกล่าวระบุว่า ในช่วงวันที่ 26-28 ม.ค. 68 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงระลอกใหม่จากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวจะมีอุณหภูมิลดลงกับมีลมแรง
โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะมีอุณหภูมิลดลง 3-5 องศาเซลเซียส ส่วนภาคเหนือ ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก จะมีอุณหภูมิลดลง 2-4 องศาเซลเซียส ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลง รวมถึงให้ระวังอันตรายจากอัคคีภัยที่อาจจะเกิดขึ้นเนื่องจากสภาพอากาศแห้งและลมแรง
สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันจะมีกำลังแรงขึ้น โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 2–3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งและบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออกระวังอันตรายจากฝนตกหนัก และคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่ง ส่วนชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 27-28 ม.ค. 68
จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือที่ 0-2399-4012-13 และ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
กรมอุตุนิยมวิทยาจะออกประกาศฉบับต่อไปในวันที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2568 เวลา 05.00 น.
ข้อควรระวัง
ในช่วงวันที่ 24 – 25 และ 29 – 30 ม.ค. 68 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบน ระมัดระวังการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกไว้ด้วย ส่วนในช่วงวันที่ 26 – 28 ม.ค. 68 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลง รวมทั้งระวังอันตรายจากอัคคีภัยเนื่องจากสภาพอากาศแห้งและลมแรง
สำหรับประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออกระวังอันตรายจากฝนตกหนัก และฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก รวมทั้งระวังอันตรายจากคลื่นที่ซัดเข้าหาชายฝั่งไว้ด้วย ส่วนชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง เรือเล็กบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่ง
คาดหมายอากาศรายภาค
วันที่ 24 – 30 ม.ค. 2568
ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 24 – 26 และ 30 ม.ค. 68 อากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีหมอกหนาหลายพื้นที่ และอุณหภูมิจะสูงขึ้นอีก 1 – 2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 13 – 19 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 – 35 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 4 – 14 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 5 – 15 กม./ชม.
ส่วนในวันที่ 27 – 29 ม.ค. 68 อากาศเย็นถึงหนาว กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 2 – 4 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 11 – 17 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 24 – 29 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 2 – 10 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 – 25 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 24 – 25 และ 30 ม.ค. 68 อากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกบางในตอนเช้า โดยมีหมอกหนาบางพื้นที่ และอุณหภูมิจะสูงขึ้นอีก 1 – 3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 12 – 19 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 – 35 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8 – 15 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10 – 15 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 26 – 29 ม.ค. 68 อากาศเย็นถึงหนาว กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 4 – 6 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 8 – 17 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 24 – 29 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศหนาวถึงหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 3 – 10 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20 – 35 กม./ชม.
ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 24 – 26 และ 30 ม.ค. 68 อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า โดยมีหมอกหนาบางพื้นที่ และอุณหภูมิจะสูงขึ้นอีก 1 – 3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 16 – 20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32 – 36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10 – 15 กม./ชม.
ส่วนในวันที่ 27 – 29 ม.ค. 68 อากาศเย็นถึงหนาว กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 2 – 4 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 14 – 19 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28 – 30 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 – 30 กม./ชม.
ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 24 – 26 และ 30 ม.ค. 68 อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้นอีก 1 – 3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 17 – 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 – 35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15 – 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ส่วนในวันที่ 27 – 29 ม.ค. 68 อากาศเย็นถึงหนาว กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 2 – 4 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 14 – 23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26 – 30 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20 – 40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)
ตอนบนของภาคมีอากาศเย็นในตอนเช้าตลอดช่วง
ในช่วงวันที่ 25 – 27 ม.ค. 68 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 – 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งส่วนมากทางตอนล่างส่วนในช่วงวันที่ 28 – 30 ม.ค. 68 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 20 ของพื้นที่ ทางตอนล่างของภาค
ในช่วงวันที่ 24 – 25 และ 29 – 30 ม.ค. 68 ตั้งแต่ จ. นครศรีธรรมราชขึ้นไป ลมตะวันออก ความเร็ว 15 – 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1 – 2 เมตร
ตั้งแต่ จ.สงขลาลงมา ลมตะวันออก ความเร็ว 15 – 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ส่วนในวันที่ 26 – 28 ม.ค. 68 ตั้งแต่ จ. นครศรีธรรมราชขึ้นไป ลมตะวันออกเฉียงเหรือ ความเร็ว 20 – 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ตั้งแต่ จ.สงขลาลงมา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20 – 40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2 – 3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 15 – 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 – 34 องศาเซลเซียส
ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)
มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 – 30 ของพื้นที่ ตลอดช่วง
ในช่วงวันที่ 25 – 26 และ 30 ม.ค. 68 ลมตะวันออก ความเร็ว 15 – 30 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ส่วนในวันที่ 27 – 29 ม.ค. 68 ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20 – 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นและบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 21 – 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30 – 34 องศาเซลเซียส
กรุงเทพและปริมณฑล
ในช่วงวันที่ 24 – 26 และ 30 ม.ค. 68 อากาศเย็น กับมีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้นอีก 1 – 3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 17 – 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33 – 36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10 – 15 กม./ชม.
ส่วนในวันที่ 27 – 29 ม.ค. 68 อากาศเย็น กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลง 2 – 4 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 16 – 22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28 – 30 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 – 30 กม./ชม.
(ออกประกาศ 24 มกราคม 2568 12:00 น.)
27-29 ม.ค. ลมแรง ฝุ่นจะลดลง
ขณะที่เพจ ฟ้าฝน พยากรณ์อากาศประเทศไทย อัพเดตตารางความหนาวล่าสุด ช่วงวันที่ 25 ม.ค.- 8 ก.พ. 2568 ว่า ช่วงที่อากาศหนาวเย็นจะอยู่ในช่วงวันที่ 27-29 ม.ค.2568 (ดูกราฟิกพื้นที่สีน้ำเงินและสีน้ำเงินเข้ม) แต่หลังจากวันที่ 30 ม.ค. เป็นต้นไปจนถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ อากาศจะเริ่มทะยอยอุ่นขึ้น ยกเว้นบางพื้นที่ของภาคอีสานที่ยังคงมีความเย็นอยู่จนถึงวันที่ 8 ก.พ. 2568
“ฝุ่นหนักต่อเนื่องหลายวัน รอ 27-29 ม.ค. ลมจะแรง ฝุ่นจะลด ระหว่างนี้อย่าลืมใส่หน้ากากป้องกัน” เพจฟ้าฝนระบุ