
เตรียมตัวร้อน ! กรมอุตุนิยมวิทยา 7 วันข้างหน้า เตือนช่วง 30 ม.ค.-3 ก.พ.นี้ มวลอากาศเย็นเริ่มอ่อนกำลังลง ดันอุณหภูมิสูงขึ้น 2-5 องศาเซลเซียส แต่ยังมีอากาศเย็นในตอนเช้า ด้านเพจฟ้าฝนเผยภาพชัด หลัง 30 ม.ค. 68 “แดง” จะกลับมาโชว์ฟอร์ม ฝุ่นจะกลับมา
กรมอุตุนิยมวิทยาคาดหมายอากาศทั่วไป ระหว่างวันที่ 28 มกราคม-3 กุมภาพันธ์ 2568 ว่า ในช่วงวันที่ 28-29 ม.ค. 68 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงยังคงปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้ ในขณะที่ช่วงวันที่ 29-30 ม.ค. 68 ลมฝ่ายตะวันตกในระดับบนพัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาว
ส่วนมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันยังคงมีกำลังค่อนข้างแรง ทำให้คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังแรง โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งและบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ช่วงวันที่ 30 ม.ค.-3 ก.พ. 68 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นค่อนข้างแรงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้จะมีกำลังอ่อนลง ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวจะมีอุณหภูมิสูงขึ้น 2-5 องศาเซลเซียส แต่ยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีหมอกหนาบางพื้นที่
สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันจะมีกำลังอ่อนลง ทำให้คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังอ่อนลง โดยอ่าวไทยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ข้อควรระวัง
ในช่วงวันที่ 28-29 ม.ค. 68 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยดูแลรักษาสุขภาพ เนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็น รวมทั้งระวังอันตรายจากอัคคีภัยเนื่องจากสภาพอากาศแห้ง สำหรับประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออก ระวังอันตรายจากคลื่นที่ซัดเข้าหาชายฝั่งไว้ด้วย ส่วนชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง เรือเล็กบริเวณอ่าวไทยตอนล่างควรงดออกจากฝั่ง ส่วนในช่วงวันที่ 30 ม.ค.-3 ก.พ. 68 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบน ระมัดระวังการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกไว้ด้วย
คาดหมายอากาศรายภาค
28 ม.ค.-3 ก.พ. 2568
ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 28-30 ม.ค. 68 อากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-19 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 21-31 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 3-9 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 31 ม.ค.-3 ก.พ. 68 อากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีหมอกหนาหลายพื้นที่ และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 2-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 14-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 25-35 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 5-11 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 5-15 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 28-29 ม.ค. 68 อากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-16 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26-30 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศหนาวถึงหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 6-12 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 30 ม.ค.-3 ก.พ. 68 อากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีหมอกหนาบางพื้นที่ และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 3-5 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 14-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-36 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 7-14 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-15 กม./ชม.
ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 28-30 ม.ค. 68 อากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 15-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 31 ม.ค.-3 ก.พ. 68 อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีหมอกหนาบางพื้นที่ และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 2-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 17-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-15 กม./ชม.
ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 28-30 ม.ค. 68 อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 17-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส
ส่วนในช่วงวันที่ 31 ม.ค.-3 ก.พ. 68 อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีหมอกหนาบางพื้นที่ และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 2-4 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 19-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส
ในช่วงวันที่ 28-29 ม.ค. 68 ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 30 ม.ค.-3 ก.พ. 68 ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
ในช่วงวันที่ 28-29 ม.ค. 68 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ตั้งแต่ จ.สุราษฎร์ธานีขึ้นไป ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ตั้งแต่ จ.นครศรีธรรมราชลงมา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 30 ม.ค.-3 ก.พ. 68 ฝนเล็กน้อยบางแห่ง ตั้งแต่ จ.นครศรีธรรมราชขึ้นไป ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ตั้งแต่ จ.สงขลาลงมา ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 20-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-34 องศาเซลเซียส
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
ในช่วงวันที่ 28-29 ม.ค. 68 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นและบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 30 ม.ค.-3 ก.พ. 68 ฝนเล็กน้อยบางแห่ง ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส
กรุงเทพฯและปริมณฑล
ในช่วงวันที่ 28-30 ม.ค. 68 อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 19-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 31 ม.ค.-3 ก.พ. 68 อากาศเย็น กับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีหมอกหนาบางพื้นที่ และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 2-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-15 กม./ชม.

(ออกประกาศ 28 มกราคม 2568 12.00 น.)
ทางด้าน เพจฟ้าฝนพยากรณ์อากาศประเทศไทย โพสต์ข้อความพร้อมกราฟิกว่า เตรียมอุ่นขึ้น ! “ลมหนาว” ขยันอีก 2 วัน, หลังจากวันที่ 30 ม.ค. 68 “แดง” จะเริ่มกลับมาโชว์ฟอร์ม ฝุ่นจะกลับมา ! ถามว่าจะอุ่นขึ้นกว่าวันนี้แค่ไหน ตามรูปนี้เลย
