
จะเริ่มร้อนวันไหน กรมอุตุฯเช็กอากาศ 7 วันล่วงหน้า เตือนช่วง 31 ม.ค. – 3 ก.พ.นี้อุณหภูมิจะสูงขึ้น 2 – 5 องศาเซลเซียส แต่ยังมีอากาศเย็นในตอนเช้า กทม.และปริมณฑลจะร้อนสุด 32-36 องศา ด้านเพจฟ้าฝนระบุตรงกัน หลัง 30 ม.ค. “แดง” จะเริ่มกลับมาโชว์ฟอร์ม ฝุ่นจะกลับมา
กรมอุตุนิยมวิทยา คาดหมายอากาศทั่วไป ระหว่างวันที่ 29 มกราคม – 4 กุมภาพันธ์ 2568 ว่า ในช่วงวันที่ 29 ม.ค. – 3 ก.พ. 68 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นค่อนข้างแรงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้มีกำลังอ่อนลง ในขณะที่มีลมตะวันตกในระดับบนพัดปกคลุมประเทศไทยตอนบนในช่วงวันที่ 29 – 30 ม.ค. 68 ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศเย็นถึงหนาว
หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 31 ม.ค. – 3 ก.พ. 68 จะมีอุณหภูมิสูงขึ้น 2 – 5 องศาเซลเซียส แต่ยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีหมอกหนาบางพื้นที่
สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันจะมีกำลังอ่อนลง ทำให้คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังอ่อนลง โดยอ่าวไทยมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ทั้งนี้ในวันที่ 4 ก.พ. 68 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงระลอกใหม่จากประเทศจีนจะแผ่ปกคลุมภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และทะเลจีนใต้ ทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอุณหภูมิลดลง 2 – 4 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง ส่วนภาคเหนือตอนบนมีอุณหภูมิลดลง 1 – 3 องศาเซลเซียส สำหรับพื้นที่อื่น ๆ จะมีอุณหภูมิลดลงในวันถัดไป
สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันจะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันจะมีกำลังแรงขึ้น โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองสูงมากกว่า 2 เมตร อ่าวไทยตอนบนและทะเลอันดามันห่างฝั่งมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ข้อควรระวัง
ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง ระวังอันตรายจากอัคคีภัยเนื่องจากสภาพอากาศแห้ง รวมทั้งขอให้ระมัดระวังการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกไว้ด้วย ตลอดช่วง

คาดหมายอากาศรายภาค
29 มกราคม – 4 ก.พ. 68
ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 29 – 30 ม.ค. 68 อากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12 – 19 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 24 – 31 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 3 – 9 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10 – 20 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 31 ม.ค. – 4 ก.พ. 68 อากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีหมอกหนาหลายพื้นที่ และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 2 – 3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 14 – 21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28 – 35 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5 – 11 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 5 – 15 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 30 ม.ค. – 3 ก.พ. 68 อากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีหมอกหนาบางพื้นที่ และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 3 – 5 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 13 – 21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28 – 36 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 7 – 14 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10 – 15 กม./ชม.
หลังจากนั้นในวันที่ 4 ก.พ. 68 อากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 2 – 4 องศเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 12 – 18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 25 – 30 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 5 – 12 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 – 30 กม./ชม.
ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 29 – 30 ม.ค. 68 อากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 15 – 21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 – 32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 – 25 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 31 ม.ค. – 4 ก.พ. 68 อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีหมอกหนาบางพื้นที่ และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 2 – 3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 17 – 23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32 – 36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10 – 15 กม./ชม.
ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 29 – 30 ม.ค. 68 อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 17 – 24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 – 33 องศาเซลเซียส
ส่วนในช่วงวันที่ 31 ม.ค. – 4 ก.พ. 68 อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีหมอกหนาบางพื้นที่ และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 2 – 4 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 19 – 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 – 35 องศาเซลเซียส
ในช่วงวันที่ 29 ม.ค. – 3 ก.พ. 68 ลมตะวันออก ความเร็ว 15 – 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร หลังจากนั้นในวันที่ 4 ก.พ. 68 ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 – 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1 – 2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
ในช่วงวันที่ 30 ม.ค. – 3 ก.พ. 68 ฝนเล็กน้อยบางแห่ง ตั้งแต่ จ.นครศรีธรรมราช ขึ้นมา ลมตะวันออก ความเร็ว 15 – 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ตั้งแต่ จ.สงขลา ลงไป ลมตะวันออก ความเร็ว 15 – 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร หลังจากนั้นในวันที่ 4 ก.พ. 68 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 – 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
ตั้งแต่ จ.สุราษฎ์ธานี ขึ้นมา ลมตะวันออก ความเร็ว 15 – 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ตั้งแต่ จ.นครศรีธรรมราช ลงไป ลมตะวันออก ความเร็ว 20 – 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 20 – 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 – 34 องศาเซลเซียส
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
ในช่วงวันที่ 30 ม.ค. – 3 ก.พ. 68 ฝนเล็กน้อยบางแห่ง ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15 – 30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร หลังจากนั้นในวันที่ 4 ก.พ. 68 มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 – 40 ของพื้นที่ ลมตะวันออก ความเร็ว 15 – 35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 22 – 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31 – 35 องศาเซลเซียส
กรุงเทพฯและปริมณฑล
ในช่วงวันที่ 29 – 30 ม.ค. 68 อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 19 – 23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29 – 33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10 – 25 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 31 ม.ค. – 4 ก.พ. 68 อากาศเย็น กับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีหมอกหนาบางพื้นที่ และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 2 – 3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 21 – 25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32 – 36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10 – 15 กม./ชม.
(ออกประกาศ 29 มกราคม 2568 12:00 น.)
ด้าน เพจฟ้าฝน-พยากรณ์อากาศประเทศไทย ที่ตอนนี้มีการแชร์ภาพและส่งต่อในโลกออนไลน์กันจำนวนมากถึงสถานการณ์อากาศที่จะเริ่มอุ่นขึ้นหรือร้อนขึ้น ระบุตรงกันว่า เตรียมอุ่นขึ้น ! “ลมหนาว” ขยันอีก 2 วัน, หลังจาก 30 ม.ค. “แดง” จะเริ่มกลับมาโชว์ฟอร์ม ฝุ่นจะกลับมา ถามว่า จะอุ่นขึ้นกว่าวันนี้แค่ไหน ตามรูปนี้เลย
