
เปิดใช้แล้ว ! สะพานทศมราชัน (บางโคล่)-ด่านเก็บค่าผ่านทางพิเศษสุขสวัสดิ์ หวังแก้ปัญหารถติดลดลง 30,000 คันต่อวัน และจะเรียกเก็บค่าบริการหลังก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ ปลายปี 2568
กทพ. มีการเปิดใช้งาน ‘สะพานทศมราชัน’ ทางพิเศษสายพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก ช่วงสะพานทศมราชัน (บางโคล่)-ด่านเก็บค่าผ่านทางพิเศษสุขสวัสดิ์ อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 29 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา
เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางของประชาชนภายในกรุงเทพมหานคร, ลดปัญหาการจราจรติดขัดบนถนนพระรามที่ 2 และทางพิเศษเฉลิมมหานคร บริเวณด่านดาวคะนอง และคาดหวังให้ลดปัญหา PM 2.5
โดยสะพานทศมราชันจะเชื่อมต่อการเดินทางในทิศทางขาเข้าและขาออกกรุงเทพฯ โดยเปิดใช้งานสะพาน ครบทั้ง 8 ช่องจราจร เพื่อรองรับปริมาณรถที่เพิ่มขึ้น ซึ่งรายละเอียดเส้นทางการใช้งานมี ดังนี้
– ทิศทางขาเข้ากรุงเทพฯ : ทางขึ้นที่ด่านสุขสวัสดิ์ (ช่องที่ 1-3) วิ่งข้ามสะพานทศมราชัน แล้วเชื่อมต่อเข้าสู่ทางพิเศษเฉลิมมหานครมุ่งหน้าบางนา-ดินแดง หรือทางพิเศษศรีรัชมุ่งหน้าแจ้งวัฒนะและถนนพระราม 9
– ทิศทางขาออกกรุงเทพฯ : ทางพิเศษเฉลิมมหานครหรือทางพิเศษศรีรัชผ่านจุดเชื่อมต่อสะพานทศมราชัน บริเวณทางแยกต่างระดับบางโคล่ และลงที่ทางลงด่านสุขสวัสดิ์ เชื่อมต่อถนนประชาอุทิศและถนนสุขสวัสดิ์เพื่อไปยังถนนพระราม 2
สำหรับอัตราค่าผ่านทาง ในขณะนี้ยังไม่มีการเรียกเก็บค่าบริการ แต่คาดว่าจะเกิดขึ้นหลังจากการก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ และจะมีการเรียกเก็บค่าบริการตามปกติ โดยแบ่งเป็น
- รถ 4 ล้อ อัตราค่าโดยสาร 50 บาท
- รถ 6-10 ล้อ อัตราค่าโดยสาร 75 บาท
- รถมากกว่า 10 ล้อ อัตราค่าโดยสาร 110 บาท
ด้านกระทรวงคมนาคมประเมินว่า การเปิดใช้สะพานทศมราชัน จะช่วยบรรเทาปัญหาการจราจรติดขัดบนทางพิเศษเฉลิมมหานคร ช่วงบริเวณทางแยกต่างระดับบางโคล่บนถนนพระราม 9 ถึงบริเวณด่านสุขสวัสดิ์ และบริเวณถนนพระราม 2 จากปริมาณความแออัด 100,470 คันต่อวัน ลดลงเหลือ 75,325 คันต่อวัน หรือโดยเฉลี่ยจะมีปริมาณจราจรมาใช้สะพานทศมราชันราว 30,000 คันต่อวัน
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมีความก้าวหน้าการก่อสร้างทั้งโครงการ อยู่ที่ 86.28% คาดว่าจะดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จทั้งโครงการ พร้อมเปิดให้บริการประมาณปลายปี 2568