เปิดงบฯ สร้างป้ายรถเมล์ กทม. แบบใหม่ ใช้เงิน 2.3-3.2 แสนบาท

กทม. กรุงเทพ ป้ายรถเมล์ ป้ายรถเมล์รูปแบบใหม่

เปิดงบฯ ทำป้ายรถเมล์ กทม. รูปแบบใหม่ ใช้เงิน 2.3-3.2 แสนบาท ผอ.สจส. แจงค่าก่อสร้าง รวมงานรื้อระบบ-ปูพื้นใหม่ ยืนยันราคาเป็นไปตามหลักเกณฑ์ และราคาต่ำลงหลัง e-bidding

หลังจาก นายเอกวรัญญู อัมระปาล โฆษกกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า กทม.โดยสำนักการจราจรและขนส่ง ได้ดำเนินการติดตั้งศาลาที่พักผู้โดยสาร รูปแบบใหม่ ซึ่งมีจุดเด่นสามารถเลือกติดตั้งได้เหมาะสมกับกายภาพและข้อจำกัดของพื้นที่ที่แตกต่างกัน ไม่กีดขวางและลดผลกระทบต่อผู้ใช้ทางเท้า โดยมีการออกแบบให้มีความเรียบง่าย โปร่งสบาย ติดตั้งระบบไฟฟ้าส่องสว่างพร้อมข้อมูลสายรถประจำทางที่ให้บริการ รวมทั้งเตรียมพื้นที่รองรับ Function เพื่อเป็น Smart Bus Shelter ในอนาคต

ทั้งนี้ เพื่ออำนวยความสะดวก ความปลอดภัย เป็นการส่งเสริมและเพิ่มโอกาสให้ประชาชนมาใช้บริการขนส่งสาธารณะมากยิ่งขึ้น

ปัจจุบันมี 2 รูปแบบ แบบแรก Type M (C2) ขนาด 2×3 เมตร มีจำนวน 3 ที่นั่ง และแบบ Type L (C3) ขนาด 2×6 เมตร มีจำนวน 6 ที่นั่ง โดยในปีงบประมาณ 2566 ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จ จำนวน 30 หลัง ปีงบประมาณ 2567 ก่อสร้างแล้วเสร็จ จำนวน 60 หลัง อยู่ระหว่างก่อสร้าง 29 หลัง และปีงบประมาณ 2568 ได้รับงบประมาณในการก่อสร้าง 300 หลัง ทั่วกรุงเทพฯ

ขณะที่โลกออนไลน์ ตั้งคำถามถึงรูปแบบของป้ายรถเมล์ การออกแบบ พื้นที่ที่ตั้งป้ายรถเมล์ ซึ่งบางป้ายทับทางเบรลล์บล็อก จนถึงการใช้งบประมาณในการทำป้ายรถเมล์รูปแบบใหม่ หลังจากไม่กี่ปีก่อนหน้านี้ เพิ่งมีการทำป้ายรถเมล์อัจฉริยะ ที่มีหน้าจอแสดงเวลาและรถเมล์ที่จะผ่าน

ADVERTISMENT

ชี้แจงการใช้งบฯ สร้างป้ายรถเมล์รูปแบบใหม่

นายสิทธิพร สมคิดสรรพ์ ผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่ง เปิดเผยถึงกรณีการติดตั้งศาลาที่พักผู้โดยสารรูปแบบใหม่ว่า ปัจจุบัน กทม. ได้ดำเนินการ 2 รูปแบบ คือ

  • Type M ขนาด 2.30 ม. x 3.00 ม. มีจำนวน 3 ที่นั่ง ราคาประมาณหลังละ 230,000 บาท
  • Type L ขนาด 2.30 ม. x 6.00 ม. มีจำนวน 6 ที่นั่ง ราคาประมาณหลังละ 320,000 บาท

ทั้งนี้ งบประมาณที่ใช้ดำเนินการก่อสร้างครอบคลุมงานรื้อย้ายระบบสาธารณูปโภค งานฐานรากคอนกรีตเสริมเหล็ก งานเชื่อมประกอบโครงสร้างเหล็ก งานหลังคา Metal sheet งานรางน้ำ งานม้านั่ง งานระบบไฟฟ้าแสงสว่างภายใน และงานบรรจบไฟฟ้าสาธารณะกับการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) เป็นต้น

ADVERTISMENT

โดยในปีงบประมาณ 2566 ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จ จำนวน 30 หลัง ปีงบประมาณ 2567 ก่อสร้างแล้วเสร็จ จำนวน 60 หลัง อยู่ระหว่างก่อสร้าง 29 หลัง และปีงบประมาณ 2568 ได้รับงบประมาณในการก่อสร้าง 300 หลัง ครอบคลุมพื้นที่ทั่วกรุงเทพมหานคร

นายสิทธิพร กล่าวเพิ่มเติมว่า ราคาค่าก่อสร้างศาลารถโดยสารรูปแบบใหม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ หรือแนวทางปฏิบัติของหน่วยงานของรัฐ ซึ่งเมื่อประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) ราคาจึงต่ำลงอีก

นอกจากนี้ ยังคำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนทุกกลุ่มทั้งผู้รอรถโดยสาธารณะและผู้ใช้งานทางเท้า ด้วยแนวคิด “ศาลารอรถเมล์ใหม่สำหรับทุกคน” จึงออกแบบใหม่รองรับการใช้งานของผู้พิการ (Universal Design) มีความมั่นคงแข็งแรง สามารถบังแดดบังฝนด้วยหลังคาขนาดใหญ่และแผ่นอะคริลิกใสด้านหลัง มีพื้นที่นั่งคอยเหมาะสม สวยงามกลมกลืน ไม่บดบังทัศนียภาพ ไม่สร้างจุดอับสายตา

และที่สำคัญคือออกแบบโดยคำนึงถึงการประหยัดพื้นที่ทางเท้า ไม่กีดขวางทางเดิน กระทบผู้ใช้งานทางเท้า การก่อสร้างแต่ละจุดจึงจำเป็นต้องรัดกุมเกี่ยวกับระบบสาธารณูปโภคใต้ดินและแนวหน้าร้านของเอกชน ซึ่งล้วนมีรายละเอียดและข้อจำกัดที่แตกต่างกันและต้องใส่ใจอย่างมาก

“รถโดยสารสาธารณะเป็นรูปแบบการเดินทางหลักของคนกรุงเทพมหานคร รวมถึงผู้มีรายได้น้อยและนักเรียน-นักศึกษา ปัจจุบันมีการใช้งานมากกว่า 7-9 แสนเที่ยวต่อวัน การพัฒนาศาลารอรถเมล์เป็นหนึ่งในหัวใจในการดึงดูดให้ประชาชนใช้รถโดยสารสาธารณะ ควบคู่การเพิ่มป้ายหยุดรถโดยสารในจุดที่ขาด และการบอกข้อมูลการเดินทางและระยะเวลารอรถโดยสาร ซึ่งอยู่ระหว่างการขอข้อมูล GPS รถโดยสารสาธารณะจากกรมการขนส่งทางบกอีกด้วย” นายสิทธิพร กล่าว

นายสิทธิพร กล่าวอีกว่า กทม. พร้อมอำนวยความสะดวกประชาชนทุกกลุ่ม โดยเฉพาะผู้ใช้งานรถโดยสารสาธารณะและผู้ใช้งานทางเท้า โดยหวังว่าการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานจะเป็นการส่งเสริมและเพิ่มโอกาสให้ประชาชนมาใช้บริการขนส่งสาธารณะมากยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตาม หากท่านพบปัญหาจากการใช้งานศาลารอรถเมล์ สามารถแจ้ง Traffy Fondue (ทราฟฟี่ฟองดูว์) หรือสายด่วน กทม. โทร. 1555 เพื่อให้หน่วยงานรับผิดชอบเร่งดำเนินการแก้ปัญหาต่อไป