
กรมอุตุฯพยากรณ์อากาศ 7 วันล่วงหน้า (10-16 ก.พ. 68) เตือนช่วง 12-16 ก.พ.นี้ มวลอากาศเย็นมีกำลังอ่อนลง อากาศร้อนในตอนกลางวัน อุณหภูมิสูงขึ้น 2-5 องศาเซลเซียส กับมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาบางพื้นที่ กทม.และปริมณฑลกลับมาร้อนสุด 33-37 องศาเซลเซียส
กรมอุตุนิยมวิทยา คาดหมายอากาศทั่วไป ระหว่างวันที่ 10-16 กุมภาพันธ์ 2568 ว่า ในช่วงวันที่ 10-11 ก.พ. บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ในขณะที่มีลมตะวันตกในระดับบนพัดปกคลุมด้านตะวันตกของประเทศไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบนมีอากาศเย็นในตอนเช้า
สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันมีกำลังอ่อนลง โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร อ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 12-16 ก.พ. บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นที่ปกคลุมประเทศไทยและทะเลจีนใต้มีกำลังอ่อนลง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนจะมีอุณหภูมิสูงขึ้น 2-5 องศาเซลเซียส กับมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาบางพื้นที่ โดยมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน แต่ยังคงมีอากาศเย็นในตอนเช้า
สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังปานกลางที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันจะมีกำลังอ่อน โดยอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ช่วงวันที่ 16-24 ก.พ. 68 ทิศทางลมเริ่มแปรปวน โดยมีกระแสลมฝ่ายตะวันตกในระดับบน พัดปกคลุมภาคเหนือ ภาคอีสานตอนบน และมีลมทิศใต้ ลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคอีสานตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออก และปลายช่วงของการพยากรณ์ (20-23 ก.พ.) ยังมีมวลอากาศเย็นแผ่เสริมลงมาปกคลุมด้านตะวันออกของภาคอีสานและทะเลจีนใต้ ทำให้ลมที่พัดปกคลุมเป็นลมตะวันออก เริ่มมีฝนเกิดขึ้นได้ในช่วงแรกบริเวณประเทศไทย ปริมาณยังเป็นฝนเล็กน้อยถึงปานกลาง ยังต้องติดตามเนื่องจากเป็นช่วงของการเปลี่ยนถ่ายฤดูกาล สภาพอากาศมีความแปรปรวน
(ข้อมูลนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ ตามข้อมูลนำเข้าและประมวลผลใหม่ ใช้เป็นแนวทางประกอบการตัดสินใจและติดตามสภาพอากาศ)
ข้อควรระวัง
ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง ระวังอันตรายจากอัคคีภัยเนื่องจากสภาพอากาศแห้ง ส่วนในช่วงวันที่ 12-16 ก.พ. 68 ระมัดระวังอันตรายในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกไว้ด้วย ตลอดช่วง
คาดหมายอากาศรายภาค
วันที่ 10-16 ก.พ. 2568
ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 10-11 ก.พ. อากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 14-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-33 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-11 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-15 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 12-16 ก.พ. อากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาบางพื้นที่ โดยอุณหภูมิจะสูงขึ้น 2-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 15-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-36 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-13 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 5-10 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 10-11 ก.พ. อากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 12-17 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-31 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 7-13 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 12-16 ก.พ. อากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาบางพื้นที่ โดยอุณหภูมิจะสูงขึ้น 3-5 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 14-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-36 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-15 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-15 กม./ชม.
ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 10-11 ก.พ. อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 16-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 12-16 ก.พ. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาบางพื้นที่ อุณหภูมิจะสูงขึ้น 2-4 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 18-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-15 กม./ชม.
ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 10-11 ก.พ. อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 12-16 ก.พ. อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาบางพื้นที่ อุณหภูมิจะสูงขึ้น 2-4 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 21-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
ในช่วงวันที่ 10-11 ก.พ. อากาศเย็นในตอนเช้าทางตอนบนของภาค โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง
ตั้งแต่ จ.สุราษฎร์ธานี ขึ้นมา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
ตั้งแต่ จ.นครศรีธรรมราช ลงไป ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 12-16 ก.พ. มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 19-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
อากาศเย็นในตอนเช้าทางตอนบนของภาค โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง
ในช่วงวันที่ 11 และ 15-16 ก.พ. 68 ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 12-14 ก.พ. 68 ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส
กรุงเทพฯและปริมณฑล
ในช่วงวันที่ 10-11 ก.พ. อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 19-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
ส่วนในช่วงวันที่ 12-16 ก.พ. มีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาบางพื้นที่ อุณหภูมิจะสูงขึ้น 2-4 องศาเซลเซียสอุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-15 กม./ชม.
(ออกประกาศ 10 กุมภาพันธ์ 2568)