ไทยพบป่วยไข้หวัดใหญ่กว่า 1 แสนราย คาดปี’68 คนไข้ 9 แสนคน

ไข้หวัดใหญ่ สถิติ
ภาพประกอบข่าว สร้างจาก AI

เปิดข้อมูลล่าสุด ไทยพบผู้ป่วย “ไข้หวัดใหญ่” แล้ว 1.07 แสนคน เสียชีวิต 9 ราย แนวโน้มป่วยสูงขึ้นกว่าปี 2567 ขณะที่การพยากรณ์โรค คาดปี 2568 พบผู้ป่วยสูงกว่า 9 แสนราย แนะ 7 กลุ่มเสี่ยงฉีดวัคซีน ช่วงรณรงค์ ตั้งแต่พฤษภาคม-สิงหาคมนี้

นพ.วีรวัฒน์ มโนสุทธิ กล่าวในการแถลงข่าว “รู้ทันโรค รู้ทันภัย” ป้องกันได้ว่า สำหรับโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 ในปี 2568 มีผู้ป่วยสะสมระหว่างวันที่ 1 มกราคม-14 กุมภาพันธ์ อยู่ที่ 9,158 ราย อัตราป่วย 14.10 ต่อประชากรแสนคน โดยกลุ่มอายุที่พบการป่วยสูงสุดคือ เด็ก 0-4 ขวบ, อายุ 30-39 ปี และอายุ 20-29 ปี ตามลำดับ มีผู้เสียชีวิตสะสม 4 ราย อัตราเสียชีวิตอยู่ที่ 0.006 ต่อประชากรแสนคน ซึ่งผู้เสียชีวิตเป็นกลุ่มอายุ 60 ปีขึ้นไป

ทั้งนี้ เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2567 พบว่า อัตราป่วยปี 2568 มีแนวโน้มลดลง ซึ่งผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่พบจะเป็นโรคไข้หวัดใหญ่มากกว่า อย่างไรก็ตาม มีการพยากรณ์โรคโควิด-19 ในปี 2568 คาดว่ามีผู้ป่วยลดลงเมื่อเทียบกับปี 2567 จะพบราว 551,182 ราย ผู้เสียชีวิต 220 ราย

ด้าน พญ.จุไร วงศ์สวัสดิ์ นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ โฆษกกรมควบคุมโรค กล่าวว่า สำหรับโรคไข้หวัดใหญ่ ข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-17 กุมภาพันธ์ พบผู้ป่วยสะสม 107,570 ราย เสียชีวิต 9 ราย คิดอัตราป่วยตายอยู่ที่ร้อยละ 0.008 แนวโน้มผู้ป่วยสูงขึ้นกว่าปี 2567 และสูงกว่าค่ามัธยฐานย้อนหลัง 5 ปี โดยกลุ่มอายุที่ป่วยสูงสุด คือ อายุ 5-9 ขวบ, อายุ 0-4 ขวบ และอายุ 10-14 ปี ตามลำดับ

ส่วนสายพันธุ์ที่ตรวจพบมากที่สุด คือ สายพันธุ์ A/H1N1(2009) ร้อยละ 41.38 รองมาคือ สายพันธุ์ B ร้อยละ 37.9 และ A/H3N2 ร้อยละ 26.72 ทั้งนี้ การระบาดมักพบในโรงเรียนถึง 11 เหตุการณ์ เรือนจำ 3 เหตุการณ์ ค่ายทหาร 2 เหตุการณ์

ADVERTISMENT

“โรคไข้หวัดใหญ่เกินการคาดการณ์ของเรามาตั้งแต่ปีที่แล้ว ค่อนข้างระบาดเยอะ ข้อมูลการป่วยตายน้อยกว่าโรคโควิด-19 แต่อัตราระบาดสูงกว่า ซึ่งพบมากในกลุ่มผู้ป่วยเด็กวัยเรียน แต่อัตราตายพบสูงในกลุ่มผู้สูงอายุ เหมือนกับโรคโควิด-19 อย่างผู้เสียชีวิต 9 รายนั้น พบตั้งแต่เด็กอายุ 11 ขวบ สูงสุด 86 ปี โดยจำนวนนี้เป็นผู้ที่มีโรคประจำตัว 8 ราย เช่น โรคไต โรคหลอดเลือดหัวใจ ความดันโลหิตสูง วัณโรคปอด และภาวะบกพร่องทางสติปัญญา และทั้ง 9 รายไม่ได้รับวัคซีนป้องกัน” พญ.จุไรกล่าว

พญ.จุไรกล่าวต่อว่า การพยากรณ์โรคไข้หวัดใหญ่ในปี 2568 คาดว่าจะมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นจากปี 2567 โดยจะพบสูงในฤดูฝน ระหว่างเดือนสิงหาคม-ตุลาคม และช่วงฤดูหนาว ระหว่างเดือนมกราคม-มีนาคม คาดว่าจะมีผู้ป่วยสูงถึง 903,446 ราย ซึ่งจะต้องมีมาตรการที่จะกดอัตราป่วยให้ลดลง และมีคำแนะนำประชาชนให้รับวัคซีนป้องกันปีละ 1 ครั้ง ไม่คลุกคลีกับผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจ หากพบว่ามีอาการป่วยให้หยุดพักจนกว่าจะหาย และสวมหน้ากากอนามัยเสมอ

ADVERTISMENT

ทั้งนี้ สำหรับวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ นพ.วีรวัฒน์กล่าวว่า องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้จัดแบ่งวัคซีนป้องกันไข้หวัดเป็นสายพันธุ์ขั้วโลกเหนือ ครอบคลุม 4 สายพันธุ์เป็น A และ B อย่างละ 2 สายพันธุ์ และขั้วโลกใต้ ครอบคลุม 3 สายพันธุ์ เป็น A จำนวน 2 สายพันธุ์ และ B จำนวน 1 สายพันธุ์

โดยปัจจุบันที่ไทยฉีดอยู่ในช่วงเดือนตุลาคม-มีนาคม จะเป็นสายพันธุ์ขั้วโลกเหนือ ส่วนสายพันธุ์ขั้วโลกใต้จะเป็นช่วง 6 เดือนถัดมาคือ ตั้งแต่เดือนเมษายน-กันยายน โดยยืนยันว่าวัคซีนที่ฉีดในปัจจุบันครอบคลุมกับเชื้อไข้หวัดใหญ่ที่ระบาดในช่วงนี้ คือ สายพันธุ์ A/H1N1(2009) ซึ่งสอดคล้องกับการระบาดในต่างประเทศ เช่น ญี่ปุ่น

นพ.วีรวัฒน์กล่าวว่า ประชาชนกลุ่มเสี่ยงสามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ได้ในช่วงของการรณรงค์ ระหว่างวันที่ 1 พฤษภาคม-31 สิงหาคม 2568 ได้แก่

    1. หญิงตั้งครรภ์ อายุครรภ์ 12-20 สัปดาห์
    2. เด็กอายุ 6 เดือน-2 ขวบ
    3. ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค ได้แก่ ปอดอุดกั้นเรื้อรัง, หอบหืด, หัวใจและหลอดเลือด, ไตวาย, เบาหวาน, ผู้ป่วยมะเร็งที่ได้รับเคมีบำบัด
    4. ผู้อายุมากกว่า 65 ปี
    5. ผู้พิการทางสมองที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้
    6. ผู้ป่วยโรคธาลัสซีเมียและผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง รวมถึงผู้ป่วยติดเชื้อ HIV ที่มีอาการ
    7. ผู้มีภาวะโรคอ้วน ที่มีน้ำหนักมากกว่า 100 กิโลกรัม หรือมีค่าดัชนีมวลกายมากกว่า 35 (BMI)

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์ไข้หวัดใหญ่ในต่างประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 2 กันยายน 2567-26 มกราคม 2568 มีผู้ป่วยสะสม 9.52 ล้านคนเฉลี่ยวันละ 66,132 คน พบสัดส่วนของสายพันธุ์ A/H1N1 ร้อยละ 77.1 และสายพันธ์ุ A/H3N2 ร้อยละ 22.9

ขณะที่ไต้หวัน ข้อมูลระหว่างวันที่ 19-25 มกราคม 2568 มีผู้ป่วยที่มีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่เข้ารับการรักษาสูงถึง 162,352 คน ซึ่งตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคม 2567 จนถึงกุมภาพันธ์ 2568 พบผู้ป่วยอาการหนัก 67 คน และเสียชีวิต 132 คน ส่วนใหญ่เป็นสายพันธุ์ A โดยพบสายพันธุ์ย่อยที่สำคัญ 2 ชนิด คือ สายพันธุ์ A/H1N1 และ สายพันธ์ A/H3N2

ส่วนฮ่องกง ศูนย์ป้องกันสุขภาพแรงงานเผยว่า ใน 4 สัปดาห์แรก 2568 มีผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่อาการหนักที่รักษาตัวใน ICU จำนวน 199 คน โดยมีผู้เสียชีวิตถึง 122 คน และมากกว่าร้อยละ 70 ของผู้ป่วยหนักหรือผู้เสียชีวิต ไม่ได้รับวัคซีนซึ่งผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป

และสหรัฐอเมริกา ประเมินว่ามีผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ถึง 24 ล้านคน ในช่วงฤดูกาลนี้ ก็คือตั้งแต่ประมาณตุลาคม 2567 จนถึงปัจจุบัน โดยมีผู้ป่วยเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลกว่า 310,000 คน และเสียชีวิต 13,000 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A ถึงร้อยละ 97