โฆษก ตร.ชวนผู้ที่จบเนฯ สมัคร ‘พนักงานสอบสวน’ บอก 7 ปีขึ้นสารวัตรแน่

เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 17 มิถุนายน ที่ สน.ตลิ่งชัน พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) และโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติรับสมัครสอบเข้ารับราชการตำรวจสัญญาบัตร โดยรับผู้มีคุณวุฒิเนติบัณฑิต เพศชาย เพื่อทำหน้าที่สายงานสอบสวน เป็นพนักงานสอบสวน 250 อัตรา ขณะนี้มีผู้สมัครแล้ว 370 ราย อัตราส่วนเพียงแค่ 1:1.5 คนเท่านั้น ซึ่งในส่วนนี้มีโอกาสได้รับการบรรจุค่อนข้างสูงมาก ส่วนตำแหน่งของนิติกรเปิดรับสมัครแค่ 35 คน แต่มีผู้ที่จบเนติบัณฑิตสมัครแล้วถึง 307 คนดังนั้นในส่วนนี้จึงมีอัตราส่วนถึง 1:8.7 คน ดังนั้นตำแหน่งที่เป็นนิติกรก็ล้นแล้ว จึงอยากให้ผู้ที่จะสมัครเป็นพนักงานสอบสวนนั้นมาสมัครกันมากๆเพราะว่าสมัครแล้วแทบจะได้เลย

“อยากจะประชาสัมพันธ์ อย่างตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ใน สน.ตลิ่งชันก็มีที่ จบเนติบัณฑิตมา พอทำงาน 7 ปีก็ได้เป็นสารวัตรเลยเรียกว่ามีความก้าวหน้าดีในสายสอบสวน ในขณะนี้จึงอยากเชิญชวนผู้ที่จบเนติบัณฑิตมาสมัครเป็นพนักงานสอบสวนโดยสามารถสมัครได้เว็บไซต์ของที่กองบัญชาการศึกษา ได้ถึงวันที่ 22 มิถุนายนนี้อยากให้ท่านรองมาสมัครเป็นตำรวจดูครับจะได้รู้ว่าเป็นตำรวจดียังไงและได้ช่วยเหลือประชาชนยังไง”โฆษกตร.กล่าว

พล.ต.อ.วิระชัยกล่าวว่า เดิมผู้ที่จบนิติศาสตร์คือเรียนรู้ หลักกฏหมายแต่ผู้ที่จบเนติบัณฑิตนั้นเป็นการประยุกต์นำหลักกฏหมายไปใช้ในการปฏิบัติงานจริง ทางตร.โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ต้องการให้มีการ ปรับเปลี่ยน บุคลากรเพื่อรองรับการปฏิรูปด้านงานสอบสวนก็เลยรับผู้ที่จบเนติบัณฑิต ซึ่งขณะนี้ทั่วประเทศมี 30,000 กว่าคนที่ยังไม่ได้บรรจุเข้าเป็นอัยการและศาล ให้มาเป็นพนักงานสอบสวนก็ถือว่าเป็นหนึ่งในตำแหน่งกระบวนการยุติธรรมต้นน้ำที่ต้องรวบรวมพยานหลักฐานเข้าสู่การพิจารณาของอัยการแล้วก็ศาลต่อไป

“ดังนั้นจึงถือว่าเป็นหน่วยงานที่สำคัญและก็จะได้สอดคล้องกันกับส่วนราชการอื่นๆ ก็คืออัยการแล้วก็ศาล และจากการที่ทำงานร่วมกันของทีมงานสืบสวนสอบสวนนั้นเราพบว่า ผู้ที่จบเนติบัณฑิตแล้วนำไปสอนวิชาการสืบสวนสอบสวนเพิ่มอีก 8 เดือนที่สถาบันส่งเสริมการสอบสวนจะทำให้ผู้ที่มีความรู้พื้นฐานด้านกฎหมายแน่นแล้วไปสอนการสืบสวนสอบสวนก็จะทำให้เร็วขึ้น และก็แน่นขึ้นทั้งด้านบุคลิกท่าทางและก็ กิริยามารยาทรวมทั้งในหลักการทำงานที่เราปฏิบัติตามโรงเรียนในร้อยตำรวจ เช่นเป็นระเบียบวินัยที่ยอดเยี่ยม ดังนั้นผู้ที่จบเนติบัณฑิตก็มาเป็นพนักงานสอบสวนนั้นจะได้บุคลิกสองส่วนนั่นก็คือว่าหนึ่งเป็นผู้ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญและมีทักษะทางด้านกฎหมายยังแน่นอย่างมืออาชีพและมีบุคลิกเป็นสมาร์ทองอาจเหมือนนักเรียนในร้อยตำรวจดังนั้นสองอย่างมารวมเข้าด้วยกันจึงเป็นทั้งนักกฏหมายและผู้มีภาวะผู้นำนั่นคือพนักงานสอบสวนยุคใหม่ซึ่งเคยมีมาแล้ว 460 คน แล้วและปรากฏว่าผู้ที่จบเนติบัณฑิตสอบสวนนั้นในแต่ละปีจะมีการประกาศพนักงานสอบสวนดีเด่นจะพบว่าผู้ที่จบเนติบัณฑิตจะได้รับการคัดเลือกเป็นพนักงานสอบสวนดีเด่นในแต่ละปีเป็นจำนวนมาก ดังนั้นเราจึงมั่นใจว่าการรับผู้ที่จบเนติบัณฑิตมาเป็นพนักงานสอบสวนน่าจะเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน” โฆษกตร.กล่าว

“พนักงานสอบสวนนั้นก็ได้เงินเดือนไม่ได้น้อยกว่าส่วนราชการอื่น ซึ่งเงินเดือนพื้นฐานอยู่ที่ 15,000บาท รวมกับเงินเดือนประจำตำแหน่งอีก 12,000 บาท รวมเริ่มต้นก็ประมาณร่วม30,000 กว่าบาท ก็ถือว่าเป็นผลที่ตอบแทนที่ได้รับก็อยากจะเชิญชวนให้ผู้ที่จบเนติบัณฑิตที่เป็นเพศชายมาสมัครเป็นพนักงานสอบสวนเราจะบรรจุภายในวันที่ 16 พฤศจิกายนนี้” รอง ผบ.ตร.กล่าว

ขณะที่มีรายงานว่า ตลอด 1-2 ปีที่ผ่านมา สำนักงานตำรวจแห่งชาติประสบปัญหา ตำรวจหนีงานสอบสวน พนักงานสอบสวนจำนวนมากย้ายออกจากสายงานและหาคนมาแทนได้ยาก คนที่มารับตำแหน่งงานสอบสวนแทนก็มาแบบไม่เต็มใจไม่มีความชำนาญ ส่วนหนึ่งเพราะงานหนัก ปริมาณงานมาก แรงกดดันสูง ขณะที่ล่าสุดก็มีปัญหาตำรวจในสายงานสอบสวนลาออกพร้อมกันจำนวนมาก เหตุเกิดในพื้นที่ ภ.จว.พัทลุง