
วิธีตรวจสอบ-เช็กเงินคืนภาษี ปี 2567 ของมนุษย์เงินเดือน ทำอย่างไร กี่วันได้เงินคืน อธิบดีกรมสรรพากรเผยมีผู้ที่ต้องยื่นแบบจำนวน 11 ล้านแบบ และมีผู้ที่ต้องยื่นชำระประมาณ 4 ล้านแบบ ยืนยัน หากไม่ติดเกณฑ์การตรวจสอบจากสรรพากร จะได้เงินคืนภายใน 3-5 วันทำการ เช็กสถานะการคืนภาษีได้ที่นี่ !
ช่วงนี้เป็นช่วงของการยื่นแบบเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ปีภาษี 2567 ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2568 ไปจนถึงสิ้นเดือนมีนาคม 2568 แต่หากผู้มีเงินได้ยื่นแบบผ่านระบบออนไลน์ จะยื่นได้จนถึงวันที่ 8 เมษายน 2568
จากฐานข้อมูลเดิมของกรมสรรพากร มีคนไทยที่มีเงินได้ถึงเกณฑ์ ต้องยื่นแบบแสดงรายได้ประมาณ 11 ล้านแบบ ในจำนวนนี้เป็นแบบที่มีภาษีต้องชําระอยู่ประมาณ 4 ล้านแบบ
และก็เป็นธรรมดาของทุกปี “มนุษย์เงินเดือน” ที่ยื่นแบบเสียภาษีเร็ว มีรายการไม่ซับซ้อน ในแต่ละปี มักจะได้เงินคืนภาษีเร็ว โดยมีการสันนิษฐานเอาว่า ช่วงแรกคนยังยื่นแบบน้อย ทำให้สรรพากรทำงานเร็ว แต่ถ้าไปยื่นในช่วงท้าย ๆ ที่ใกล้หมดเวลายื่นแบบ ผลลัพธ์อาจจะตรงกันข้าม
สำหรับการยื่นแบบในปีนี้คนที่เคยยื่นแบบเร็ว ก็มีเสียงบ่น เสียงสะท้อนกลับมาว่า แม้ว่าปีนี้จะยื่นแบบเร็วแต่กลับไม่ได้รับเงินคืนภาษีเร็วเหมือนเคย และเมื่อเช็กผ่านระบบการขอคืนภาษีของกรมสรรพากร ส่วนใหญ่จะไปค้างอยู่ที่ “วิเคราะห์แบบ”
อย่างไรก็ตาม เมื่อสอบถามผ่าน นายปิ่นสาย สุรัสวดี อธิบดีกรมสรรพากร ยังยืนยันว่า แนวทางคืนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาปีนี้ หากไม่ติดเกณฑ์ตรวจ ยันได้เงินคืนเร็ว ภายใน 3-5 วันทำการ
“มนุษย์เงินเดือนที่หักลดหย่อนหลัก ๆ ถ้าไม่ติดเกณฑ์ตรวจ ก็คืนผ่านพร้อมเพย์ ภายใน 3-5 วัน ถ้าติดเกณฑ์ตรวจ ก็จะมีติดต่อไปขอข้อมูล ซึ่งเกณฑ์ตรวจมีเยอะ เราก็แค่ดับเบิลเช็ก ว่าจริง ๆ แล้วสมควรได้คืนเท่านั้นจริงไหม ถ้าบังเอิญผู้เสียภาษีรายนั้นไม่เคยหักอะไรเลย แล้วมาหักปีนี้เป็นปีแรก ยังไงเจ้าหน้าที่ขอดูเอกสารแน่นอน” อธิบดีกรมสรรพากรกล่าวชี้แจง
สำหรับผู้ที่ยื่นแบบออนไลน์ไปแล้ว และยังไม่ได้เงินที่ชำระภาษีไว้เกิน “ประชาชาติธุรกิจ” สรุปวิธีตรวจสอบการยื่นแบบและขอคืนภาษีง่าย ๆ ดังนี้
เช็กสถานะคืนเงินภาษี 2567
- เข้าเว็บไซต์ www.rd.go.th เลือกระบบ Digital MyTax (D-MyTax)
2. เข้าสู่ระบบด้วย RD ID พร้อมรหัส Laser ID จากด้านหลังบัตรประชาชน
3. เลือกเบอร์โทรศัพท์หรืออีเมล์ที่ลงทะเบียนไว้เพื่อรับ OTP จากนั้นกรอก OTP ที่กรมสรรพากรส่งมาในโทรศัพท์มือถือ เพื่อยืนยันตัวตน เช็กให้แน่ใจเป็นเบอร์โทรศัพท์ที่ได้เคยแจ้งไว้ หรือมีการเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ใหม่
4. เลือก “ติดตามสถานะขอคืน/นำส่งเอกสาร”
กรณีติดเกณฑ์ตรวจ เจ้าหน้าที่จะติดต่อขอเอกสารเพิ่มเติม โดยสามารถอัพโหลดส่งเอกสารเพิ่มเติมผ่านระบบ D-MyTax ได้เลย